สุดช็อก! หมีพลิกเชือดดัตช์ต่อเวลา

สุดช็อก! หมีพลิกเชือดดัตช์ต่อเวลา

ฮอลแลนด์กลายเป็นแชมป์กลุ่มอีกหนึ่งทีมที่ร่วงตกรอบไป หลังจากโดนทีเด็ดของ 'หมีขาว' รัสเซีย ไล่ถลุงได้ในช่วง 120 นาที 3-1 ในการฟาดแข้งรอบก่อนรองชนะเลิศยูโร 2008 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา



รอบก่อนรองชนะเลิศ


ฮอลแลนด์ 1-3 รัสเซีย


สนาม : เซนต์ ยาค็อป พาร์ก,บาเซิล
ประตู : 0-1 โรมัน พาฟลูเชนโก้ น.56,1-1 รุด ฟาน นิสเตลรอย น.86,1-2 ดิมิทรี โทรบินสกี้ น.112,1-3 อังเดร อาชาร์วิน น.116


ฟาน บาสเท่นส่งไลน์อัพเป็น 11 ตัวในชุดชนะอิตาลีและฝรั่งเศสเช่นเคย กับระบบ 4-2-3-1 ที่มีรุด ฟาน นิสเตลรอยเป็นกองหน้าตัวเป้า ในขณะที่คาลิด บูลาห์รูซ ที่เพิ่งเสียลูกสาวไป ก็ยังมีชื่อเป็นตัวจริงเหมือนเดิม


ในขณะที่รัสเซียก็เป็นชุดที่โค่นสวีเดนได้ในนัดสุดท้ายของรอบแรก เปลี่ยนเพียงแค่ตัวริมเส้นด้านซ้ายที่มีอิวาน ซาเอ็นโก้ ลงเป็นตัวจริงแทน บิลยาเลตดินอฟเท่านั้น


เกมในช่วงแรกนั้นไม่มีอะไรมากนัก ทั้งสองทีมต่างกำลังดูเชิงกันอยู่ และมีโอกาสยิงบ้างประปราย แต่ก็เฉี่ยวซ้ายเฉี่ยวขวา ออกไปซะหมด


กว่าจะมีโอกาสจะจะแจ้งๆก็ต้องเข้าสู่นาทีที่ 28 โดยเป็นทางฮอลแลนด์พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำแบบน่าเสียดายที่สุด เมื่อราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ต ปั่นฟรีคิกระยะ 35 หลาโค้งเข้าไปที่หน้าประตู รุด ฟาน นิสเตลรอย ปรี่เข้าไปกะจิ้มให้ตุงตาข่าย แต่ทว่าวืดไปอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ


เกมทวีความเข้มข้นเรื่อยๆ ในนาทีที่ 30 เป็นทางรัสเซียบ้างที่ได้สวนขึ้นมา และเป็นทางอังเดร อาชาร์วิน ล็อกหลบบูลาห์รูซ ก่อนปั่นให้โค้งเสียบเสาสอง แต่ทว่าฟาน เดอ ซาร์ ยังเป็นที่พึ่งของทีมได้อยู่ เมื่อปัดพ้นได้ด้วยปลายมือ


จากนั้นในนาทีถัดมาทีมหมีขาวมาได้เสียวอีกจากลูกจากจังหวะที่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเดนิส โคโลดิน ตะบันเกือบ 35 หลา ลูกแรงปานลูกปืน แต่ก็เป็นฟาน เดอ ซาร์คนเดิมปัดข้ามคานออกไปได้


นาทีที่ 37 รุด ฟาน นิสเตลรอยม้วนตัวหลอกกองหลังสองคน ก่อนตะบันยิงด้วยขวา แต่อาคินเฟเยฟเซฟไว้ได้ และเดิร์ก เคาท์ ที่จะตามซ้ำก็วิ่งถลำไปซะแล้ว


ถึงทั้งคู่จะมีโอกาสหลายครั้งในครึ่งแรก แต่ก็ไม่มีใครเฉียบขาดพอ ดังนั้นจึงจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์ 0-0


มาร์โก ฟาน บาสเท่น ตัดสินใจแก้เกมด้วยการถอดเดิร์ก เคาท์ที่เล่นผิดฟอร์มออก แล้วส่งโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ตัวทีเด็ดจากอาร์เซนอล ลงเล่นแทน


แต่ทว่าเริ่มครึ่งหลังมาได้แค่สิบนาทีเท่านั้น ทีมหมีขาวก็ทะยานออกนำ 1-0 แบบสุดช็อก จากจังหวะต่อเกมกันที่สวยงามของอาชาร์วินไปถึงเซอร์เก เซมัค ก่อนปาดเข้ากลางให้พาฟลูเชนโก้ วิ่งเข้ามาแปนิ่มๆเสียบมุมอย่างเด็ดขาด ชนิดที่ฟาน เดอ ซาร์ได้แค่ชะเง้อตามองเท่านั้น


ตอนนี้ฮอลแลนด์เล่นกันอย่างสะเปะสะปะแล้ว พวกเขาเสี่ยงยิงไกลในหลายๆจังหวะที่ไม่ควรยิง และแน่นอนลูกหลุดกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย


ถึงดัตช์จะบุกหนักก็ตาม แต่กลับเป็นทางรัสเซียที่สวนได้น้ำได้เนื้อกว่านาทีที่ 70 อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ เติมขึ้นมาจากแดนหลังจนหลุดเดี่ยว ไปดวลกับฟาน เดอ ซาร์ แต่ก็ยังยิงไม่ผ่านมือนายทวารแมนฯยูไนเต็ดได้


นาทีที่ 73 ฮอลแลนด์ได้ลูกฟรีคิกหน้าปากประตู ซึ่งนับว่ามีลุ้นอย่างมาก แต่โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่อาสายิงกลับซัดข้ามคานออกไปเป็นวา


ทีมหมีขาวตอนนี้แพ็กเกมรับแน่น และใช้เพียงแค่การโต้กลับเร็วเท่านั้น ทำให้ขุนพลดัตช์ได้โจมตีกลับ โดยเป็นทางเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ที่ได้ยิงไกล 2-3 ครั้งแต่ก็เฉี่ยวเสาออกไปหมด


แต่แล้วในที่สุด ความพยายามของเนเธอร์แลนด์ ก็สำเร็จในนาทีที่ 86 เมื่อได้ฟรีคิกไกลเกือบ 40 หลา สไนจ์เดอร์เปิดโค้ง เข้าไปที่เสาสอง และเป็นทางฟาน นิสเตลรอย ทะยานโขกตอร์ปิโดเต็มหัว เสียบตาข่ายแบบสุดสะใจ ให้สกอร์พลิกกลับเป็น 1-1 จนได้


ก่อนหมดเวลานาทีเดียว รัสเซียมีโอกาสอีกดอก เมื่อบิลยาเลนตินอฟกระชากไปจนสุดเส้นหลังก่อนตบเข้ามากลางประตู บอลจะไปเข้าทางพาฟลูเชนโก้ที่ยืนรออยู่แล้ว แต่ออยเยอร์หวดตูมเคลียร์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด


ในที่สุดก็หมดเวลาปกติ 90 นาที ฮอลแลนด์จีงเสมอกับรัสเซียอย่างดุเดือด 1-1


จากนั้นเข้าสู่ช่วงต่อเวลารัสเซียก็น่าออกนำอีกครั้งจริงๆ เมื่อพาฟลูเชนโก้ได้จังหวะซัดนอกเขตโทษเต็มข้อ บอลผ่านมือฟาน เดอ ซาร์ไปแล้ว แต่พุ่งชนคานแบบดังสนั่นสุดๆ


นาทีที่ 108 อังเดร อาชาร์วิน โชว์เทคนิคสุดเหนือชั้นกระชากมาจากกลางสนาม จนไปถึงเขตโทษก่อนถวายพานให้โทรบินสกี้ซัดเน้นๆแค่ 6 หลาเท่านั้น แต่ดันยิงไม่เต็มเท้า เลยโดนฟาน เดอ ซาร์ตะครุบได้สบาย


ช่วงครึ่งหลังในการต่อเวลารัสเซียไล่ยำฮอลแลนด์ชนิดโงหัวไม่ขึ้น และก็มาออกนำได้อีกครั้งในนาทีที่ 112 เมื่ออาชาร์วิน กระชากยาวไปจนสุดเส้นก่อนครอสบอลโด่ง ไปถึงโทรบินสกี้จ่อยิงแค่หลาเดียวเข้าประตูไปได้สำเร็จ ส่งหมีขาวนำ 2-1 แล้ว


ยิ่งไปกว่านั้นอีกสี่นาทีต่อมา อังเดร อาชาร์วิน หัวใจสำคัญของรัสเซียได้หลุดจากลูกทุ่มยาวเข้ามาหน้าเขตโทษ ก่อนตะบันลอดขาฟาน เดอ ซาร์ตุงตาข่ายอย่างงดงาม และเป็นการปิดเกมให้รัสเซียนำห่างเป็น 3-1 ไปเลย


และสุดท้ายเกมก็จบลงด้วยสกอร์นี้ เป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่จริงๆของรัสเซียเหนือฮอลแลนด์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นทีมที่ 3 ต่อไป พร้อมทั้งเข้าไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อิตาลี กับ สเปน
 


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


ฮอลแลนด์ : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์,คาลิด บูลาห์รูซ(จอห์นนี่ ไฮติงก้า น.54),อังเดร ออยเยอร์,โยริส มาไธจ์เซ่น,จิโอวานนี่ ฟาน บรองฮอร์สต์,ออร์ลันโด้ เอ็งเกลาร์(อิบราฮิม อฟาลเลย์ น.61),ไนเจล เดอ ยอง,เวสลีย์ สไนจ์เดอร์,ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ต,เดิร์ก เคาท์(โรบิน ฟาน เพอร์ซี น.46),รุด ฟาน นิสเตลรอย
ใบเหลือง : บูลาห์รูซ,ฟาน เดอ ฟาร์ต,ฟาน เพอร์ซี


รัสเซีย : อิกอร์ อาคินเฟเยฟ,อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ,เซอร์เก อิกนาเชวิช,เดนิส โคโลดิน,ยูริ เชียร์คอฟ,เซอร์เก เซมัค,คอนสแตนติน ซีเรียนอฟ,อิกอร์ เซมชอฟ(ดินิทาร์ บิลยาเลนตินอฟ น.69),อิวาน ซาเอ็นโก้(ดิมิทรี โทรบินสกี้ น.81),อังเดร อาชาร์วิน,โรมัน พาฟลูเชนโก้
ใบเหลือง : โคโลดิน,เชียร์คอฟ,โทรบินสกี้


ผู้ตัดสิน : ลูบอส มิเชล (สโลวะเกีย)


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์