5 อำลาสุดช็อกแห่งวงการกีฬา

5 อำลาสุดช็อกแห่งวงการกีฬา

“บียอร์น บอร์ก”



ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีข่าวการอำลาสนามที่สร้างความตื่นตะลึงครั้งใหญ่ในวงการกีฬา หลัง 2 ยอดนักกีฬาหญิง อย่าง จัสติน เอแน็ง นักเทนนิสมือ 1 โลกชาวเบลเยี่ยม และ แอนนิกา โซเรนสตัม อดีตโปรหมายเลข 1 โลกชาวสวีดิช ตัดสินใจประกาศอำลาวงการไปชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย ในช่วงเวลาที่ห่างกันเพียงวันเดียว

เมื่อสองราชินีแห่งวงการเทนนิส และ กอล์ฟ อำลาสนามไปพร้อมกันบรรดานักวิเคราะห์เกมต่างมองว่าสีสันของการแข่งขันในฤดูกาล 2008 ลดความสนุกไปเกือบครึ่ง แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้มิใช่ครั้งหากย้อนอดีตกลับไปดูจะพบว่า มีไม่น้อยที่นักกีฬาตัดสินใจช็อกวงการ ด้วยการประกาศอำลาสนามทั้งๆ ที่ยังอยู่ในจุดสุดยอดของเส้นทางอาชีพ อย่างเช่น 5 อำลาสุดช็อกของวงการกีฬาส่วนจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้บรรทัดต่อจากนี้

“บียอร์น บอร์ก”
เดือนมกราคม ปี 1983 บอร์ก อดีตหวดมือ 1โลกชาวสวีเดน ตัดสินใจแขวนแรกเก็ต ด้วยวัยเพียง 26 ปี ซึ่งก็ได้สร้างปรากฏการณ์ช็อกไปทั่วทุกหัวระแหงของวงการเทนนิส และแม้ในเวลาต่อมา การพยายามคัมแบ็กคืนสู่สนามของบอร์ก ในต้นยุค 90 จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่นั่นก็มิได้บดบังความยิ่งใหญ่ที่เขาเคยทำไว้ตลอด 9 ปี ในช่วงรุ่งโรจน์ ไม่ว่าจะเป็น การกวาดแชมป์แกรนด์ สแลม 11 รายการจากการลงแข่ง 27 รายการ ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์คว้าชัยที่สูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ยังมีผลงานการคว้าแชมป์วิมเบิลดัน 5 สมัย (1976-1980) ซ้อน และแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น อีก 4 สมัย (1978-1981) ติดต่อกันอีกด้วย

ไมเคิล จอร์แดน
ก่อนอื่นต้องลืมการลงเล่นของเขากลับทีมวอชิงตัน วิซาร์ดส์ ( 2001-2003) เสียก่อน เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงที่น่าจดจำของ “เอ็มเจ” สักเท่าไหร่ ทว่าหากย้อนไปก่อนหน้านั้นสัก 8 ปี แน่นอนว่า การประกาศรีไทร์ในเดือนตุลาคม ปี 1993 ของจอร์แดน ซึ่งขณะนั้นเล่นให้ทีมชิคาโก บูลส์และมีอายุแค่ 30 ปี ถือเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของแฟนเอ็นบีเอทั่วโลก เพราะเขาเพิ่งจะคว้าตำแหน่งผู้เล่นที่ทำสกอร์สูงสุดของฤดูกาลเป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน และครองตำแหน่ง Finals MVP 3 สมัยซ้อน และแม้อีกไม่กี่ปีให้หลัง จอร์แดน จะหวนคืนสู่วงการอีกครั้ง ในเสื้อทีมเดิม แต่เขาก็ยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านยัดห่วง เมื่อนำต้นสังกัดคว้าแชมป์เอ็นบีเอ 3 ปีติดต่อกัน พร้อมกวาดตำแหน่ง Finals MVP อีก 3 สมัยซ้อน

ร็อคกี้ มาร์เซียโน่
ยอดนักชกชาวอเมริกัน กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงการกำปั้นรุ่นยักษ์ หลังตัดสินใจแขวนนวม ในเดือนเมษายน ปี 1956 ด้วยวัยเพียง 33 ปี พร้อมสถิติไม่แพ้ใคร ขึ้นชก 49 ครั้ง ชนะรวด และเป็นการชนะน็อคถึง 43 ครั้ง โดยศึกครั้งสุดท้ายของ “ร็อคกี้” เกิดขึ้นที่สังเวียน แยงกี้ สเตเดี้ยม ต่อหน้าแฟนมวยมากกว่า 60,000 คน ซึ่งเขาสามารถเอาชนะน็อค อาร์ชี มัวร์ คู่ต่อสู้ในเวลานั้นลงได้อย่างงดงามในยกที่ 9

เอริค คันโตน่า
“ก็องโต” ผู้สร้างตำนานกังฟูสะท้านภพและนำทีมปิศาจแดง แมนฯยู ครองความยิ่งใหญ่ในช่วงยุค 90 ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ต ชนิดช็อกแฟนบอล ในเดือนพฤษภาคม ปี 1997 หลังนำทัพผีแดงคว้าถ้วยพรีเมียร์ชิปประจำฤดูกาล 1996/97 ซึ่งนับเป็นการซิวแชมป์ 2 สมัยซ้อน ด้วยวัยเพียง 30 ปี คันโตน่าในตำแหน่งมิดฟิลด์เชิงสูง ถือว่า ยังมีอายุการใช้งานต่อไปได้อีกหลายปี ทว่าเขากลับตัดสินใจหันหลังให้เกมลูกหนัง จึงสร้างความเสียดายให้กับแฟนบอลไม่น้อย สำหรับผลงานความยอดเยี่ยมบนเส้นทางนักเตะ ดาวยิงเมืองน้ำหอม คว้าแชมป์พรีเมียร์ชิปได้ 4 สมัย ในรอบ 5 ปี ขณะที่เกมสุดท้ายในพรีเมียร์ชิป คือ เกมที่พบกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในวันที่ 11 พฤษภาคม ปี 97

แบร์รี่ ซานเดอร์ส
ซานเดอร์ส คงไม่รู้เลยว่า การประกาศรีไทร์แบบเรียบง่าย ด้วยการส่งแฟ็กซ์ไปยังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในบ้านเกิด เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 1999 จะสร้างความตื่นตระหนกตกใจไปทั่ววงการเอ็นเอฟแอล ได้มากแค่ไหน เนื่องจากเขา ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 30 ปี ยังมีสัญญาเหลือกับทีมต้นสังกัด ดีทรอยต์ ไลอ้อน อยู่อีกหลายปี แถมยังลุ้นทุบสถิติวิ่งทำระยะของวอลเตอร์ เพล์ตัน ด้วยผลงานวิ่งทำระยะที่ตอนนั้นรันนิ่งแบ็กตัวเก่งทำได้ 15,269 หลา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์