คานูยิงส้มหล่น!ปอมปีย์แชมป์เอฟเอคัพ

คานูยิงส้มหล่น!ปอมปีย์แชมป์เอฟเอคัพ

ปอร์ทสมัธปลดล็อกทำลายประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แรกให้สโมสรในรอบ 69 ปีได้สำเร็จหลังเอ็นวานโก้ คานูสวมบทฮีโร่ยิงประตูส้มหล่นในครึ่งแรกเฉือนคาร์ดิฟฟ์สุดหวิว 1-0 ซิวเอฟเอ คัพไปครองรูดม่านซีซั่น 2007-08 อย่างสมบูรณ์แบบ

ปอร์ทสมัธ 1-0 คาร์ดิฟฟ์

ประตู :
1-0 คานู น.37

ช่วงแรกกลายเป็นคาร์ดิฟฟ์ที่ขึงเกมอยู่ข้างเดียวแต่จังหวะทะลุทะลวงยังไม่เด็ดขาดแต่นาทีที่ 12 ยอดทีมจากเวลส์ได้เสียวเมื่อเลดลีย์แทงบอลทะลุตัดหลังเซนเตอร์ให้แพร์รี่เบียดกับแคมป์เบลล์ก่อนซัดด้วยอีซ้ายติดบล็อกเจมส์ที่ออกมาเร็ว

แต่หลังจากเป็นฝ่ายรับซะส่วนใหญ่นาทีที่ 15 ปอมปีย์เป็นฝ่ายนวดบ้างและเอนเคิ่ลมันปัดลูกฟรีคิกที่สาดเข้าในเขตโทษไม่ดีบอลตกตรงหน้าคานูซึ่งเข้าไม่ทันเลยถูกเคลียร์ทันเวลา

นาที 24 คาร์ดิฟฟ์น่าจะได้ประตูสุดๆเมื่อได้ฟรีคิกตรงกรอบเขตโทษฝั่งขวาเป็น ไหลตั้งเข้าเขตโทษให้ วิ่งมายิงเน้นๆแต่ดันโดนไม่เต็มเลยถูกเคลียร์อย่างน่าเสียดาย

เกมคู่นี้ทันกันโดยที่คาร์ดิฟฟ์เองก็วิ่งสู้ฟัดจนปอร์ทสมัธเองก็น่วมเหมือนกันนาที 34 จอห์นสันล็อกหลอกหล่อตรงกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตบยัดเข้าในแต่เอ็นเคิ่ลมันบินทุบออกไปก่อนที่เมนเดสจะเก็บตกยิงไกลนอกเขตแต่อดีตจอมหนึบของแอสตัน วิลล่ายืนถูกทางรับเอาไว้สบายๆ

แต่แล้วก่อนหมดเวลา 8 นาทีทำนบเกมรับของยอดทีมจากเดอะแชมเปี้ยนชิพก็มาพังลงง่ายๆจากจังหวะที่เหมือนไม่น่าจะมีอะไรเมื่ออูทาก้ายึกยักอยู่ทางริมกรอบโทษฝั่งขวาและเหมือนจะไปไม่ได้เพราะถูกตัวประกบยืนจังก้าคอยดักไว้อยู่ก่อนหาทางปาดยัดแรงทะลุมาก่อนที่เอ็นเคิ่ลมันจะล้มตัวรับบอลกระฉอกสุดหมูเลยถูกคานูจิ้มเผาขน 2 หลาไม่มีเหลือ ปอมปีย์นำแล้ว 1-0

ความที่ไม่เฉียบขาดของคาร์ดิฟฟ์ทำให้พวกเค้ายังพลาดโอกาสตีเสมออย่างรวดเร็วไปอีกหลังแพร์รี่ได้ลูกแทงทะลุหลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแต่ดันจ่ายมาเสาสองให้ที่ทั้งลึกและแรงเลยทำให้แม็คนัฟตันอดยิงบอลออกหลังไปซะงั้น

ช่วงทดเจ็บเจมส์ออกมาตัดลูกเตะมุมไม่ดีทำบอลลั่นจนถูกลูเว่นแปข้ามหัวบอลเสียบตาข่ายเข้าไปแต่ไมค์ ดีนเป่าว่าทำแฮนด์บอลก่อนอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรกปอมปีย์นำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังมาเล่นกันใหม่นาที 53 ปอร์ทสมัธพลาดโอกาสขึ้นนำสุดๆจากจังหวะที่ดิยาร์ร่าซึ่งวันนี้เด่นมากแงะบอลจากกลางสนามก่อนติดเครื่องขึ้นมาเองก่อนฝากบอลให้ครันชาร์ซึ่งงัดส้นทะลุหลุดเข้ากรอบโทษทางซ้ายแล้วตบบอลเข้ากลางให้คานูวิ่งมาแปเน้นๆแต่ไปแฉลบหน้าอกเลเว่นบอลผ่านเสาสองออกไปนิดเดียวสุดเสียว

นาที 62 เดฟ โจนส์กุนซือจอมตุ๋ยเห็นท่าไม่ดีเลยเปลี่ยนเอาเจ้าหนูแรมซี่ลงมาเปลี่ยนเกมหมายทวงประตูตีเสมอให้ได้

แต่เกมของคาร์ดิฟฟ์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเพราะใจสู้ก็จริงแต่จังหวะขึ้นมายังขาดๆเกิดๆและนาที 71 ก็เกือบพังเมื่อนูเจนท์ตัวสำรองที่ลงมาแทนอูทาก้าหลุดขึ้นมาทางกรอบโทษฝั่งขวาและตัดสินใจยิงมุมแคบตรงนั้นเลยร้อนถึงเอ็นเคิ่ลมันต้องปัดสองมือเอาปลอดภัยไว้ก่อน

นาที 79 คาร์ดิฟฟ์ได้เสียวบ้างจากลูกเตะมุมแต่ลูเว่นดันล้มตัวโขกบอลเด้งพื้นซะก่อนเลยข้ามคานออหลังเอง

แฮร์รี่ เร้ดแนปป์กะรับและสวนเต็มตัวหลังส่งมิลาน บารอสมาแทนคานูในช่วงท้ายและคาร์ดิฟฟ์โหมบุกหนักเอามากๆแต่ยังหาโอกาสยิงเหน่งๆไม่ได้ซักทีหมดเวลาเป็นปอมปีย์ที่คว้าแชมป์เอฟเอ คัพไปครองและเป็นแชมป์แรกของพวกเขาในรอบ 69 ปีอีกด้วย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ปอร์ทสมัธ :
เจมส์,จอห์นสัน,แคมป์เบลล์,ดิสแต็ง,ไฮร์ดาร์สสัน,อูทาก้า,เปโดร เมนเดส,ดิยาร์ร่า,มุนตารี่(นูเนจท์ น.69),ครันชาร์,คานู(บารอส น.87)

คาร์ดิฟฟ์ : เอนเคิ่ลมัน,แม็คนัฟตัน,จอห์นสัน,ลูเว่น,คาปัลดี้,เลด์ลีย์,เร(ซินแคลร์ น.86),แม็คเฟล,วิทธิงแฮม(แรมซี่ย์ น.61),แพร์รี่,ฮัลเซลเบ็งค์












































[/img]

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีจากซ็อคเกอร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์