คานูหวังพาปอมปีย์ซิวเอฟเอ

แม้จะไม่ใช่นักเตะที่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า

เอ็นวานโก้ คานู ศูนย์หน้าชาวไนจีเรีย เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีม "เดอะ ปอมปีย์"ปอร์ตสมัธ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึกเอฟเอ คัพได้เป็นผลสำเร็จ

การโคจรมาพบกันในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ของปอร์ตสมัธและคาร์ดิฟฟ์ ทำให้ทั้งคู่ถูกพูดถึงว่าเป็นคู่ชิงแห่งความฝัน แต่หมายถึงความฝันที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะใครจะไปคิดว่าแชมป์เอฟเอ คัพ จะตกเป็นของทีมเล็กๆ เช่นนี้

อย่างไรก็ตาม คานูกล่าวว่า

ไม่ใช่เรื่องแปลกแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาเป็นเหมือนความฝันมาโดยตลอด

"การได้เล่นนัดชิงชนะเลิศอีกครั้งเป็นเหมือนความฝัน ผมมีความสุขมาก เพราะเราฝันถึงการได้เข้าชิงมาโดยตลอด และตอนนี้ความฝันของเราก็กำลังจะกลายเป็นจริง ชีวิตที่ผ่านมา ผมคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย แต่ผมก็ยังอยากจะคว้าแชมป์เพิ่มอีก ผมภูมิใจกับความสำเร็จที่ทำได้ แต่ถ้าคิดอีกแง่หนึ่ง มันก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าหากคุณได้เล่นให้ทีมใหญ่ๆ เหมือนกับว่า ถ้าหากเป็นอาร์เซนอลได้แชมป์เอฟเอ คัพ มันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเป็นปอร์ตสมัธ จะมีกี่คนที่คิดว่าเราจะทำได้

"แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก คือเป้าหมายสูงสุดสำหรับผม แต่ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ทำให้เอฟเอ คัพมีความหมายกับผมมากเหลือเกิน ตอนมาอังกฤษใหม่ๆ ผมไม่รู้หรอกว่าเอฟเอ คัพมันมีค่ายังไง จนได้เล่นเกมแรก ผมถึงเข้าใจ" คานูกล่าว

คานูเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา
 
และแพทย์แนะนำให้เลิกเล่นฟุตบอลอีก หากไม่อยากจบชีวิตก่อนวัยอันควร แต่กองหน้าวัย 31 ปี กลับเลือกที่จะยึดอาชีพค้าแข้งต่อไป เพราะไม่สามารถตัดขาดจากสิ่งที่รักที่สุดได้ และการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ให้ได้ ต่อหน้าแฟนบอลในสนามเวมบลีย์ 90,000 คน คือผลตอบแทนที่คุ้มค่า สำหรับการเสี่ยงชีวิตเล่นฟุตบอลมาจนถึงทุกวันนี้

"ผมเคยเจอเรื่องที่หนักหนาสาหัสมาแล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นในโลกของฟุตบอลก็เทียบไม่ได้ทั้งนั้น หลังจากเข้ารับการผ่าตัด 4-5 ชั่วโมง ผมพบว่าไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับผมอีกต่อไป ผมไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับผมในวันเสาร์นี้ ก็แค่นักเตะของ 2 ทีมพยายามที่จะเอาชนะกันก็เท่านั้น"

"ที่ผ่านมา เราทำผลงานได้ดีมาก รวมถึงการเอาชนะแมนฯยูด้วย ตอนนี้เรารู้ว่าเราคงไม่สามารถทำให้แฟนบอลผิดหวังได้ ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเราทั้งฤดูกาล จะไม่มีค่าอะไรเลย ถ้าหากเราไม่ได้เป็นเจ้าของถ้วยแชมป์ คาร์ดิฟฟ์เป็นทีมที่มาแรงมาก แต่เราต้องไม่เสียสมาธิ การคว้าแชมป์ให้ได้ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด"