กรีซมันน์ฮีโร่กดสองประตูช่วยฝรั่งเศสพลิกแซงไอร์แลนด์

กรีซมันน์ฮีโร่กดสองประตูช่วยฝรั่งเศสพลิกแซงไอร์แลนด์

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 15 "ยูโร 2016" รอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ปาร์ก โอลิมปิก ลียง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ 26 มิ.ย.เป็นการพบกันระหว่าง "ตราไก่"ฝรั่งเศส เจ้าภาพแชมป์กลุ่มเอ กับ "ยักษ์เขียว"ไอร์แลนด์ อันดับจากลุ่มอี


ฝรั่งเศสภายใต้การนำของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เล่นในระบบ 4-3-3 ส่ง อูโก้ ยอริส, ปาทริซ เอวร่า, อาดิล รามี่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, อ็องตวน กรีซมันน์, ดิมิทร ปาเยต, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, แบลส มาตุยดี้, ปอล ป๊อกบา, วาการี่ ซาญ่า และ โลร็อง กอสเซียลนี่ เป็น 11 ตัวจริง


ฟากไอร์แลนด์ของกุนซือมาร์ติน โอนีลล์ เล่นระบบ 4-4-2 ใส่ชื่อ ดาร์เรน แรนดอร์ฟ, เซมัส โคลแมน, ริชาร์ด คีโอห์, เจมส์ แม็กคาธี่, เชน ลอง, เจมส์ แม็กคลีน, เชน ดัฟฟี่, เจฟฟ์ เฮนดริก, สตีเฟ่น วอร์ด, ร็อบบี้ เบรดี้ และ ดาริล เมอร์ฟี่ เข้ารับมือ


เริ่มเกม

ได้เพียงอึดใจเดียวเท่านั้นแฟนบอลเจ้าถิ่นถึงกับอึ้งเมื่อ ปอล ป๊อกบา ทำฟาวล์ เชน ลอง ในกรอบเขตโทษผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้ลูกโทษกับไอร์แลนด์ก่อนที่ ร็อบบี้ เบรดี้ จะรับหน้าที่สังหารให้ขุนพลยักษ์เขียวขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 2


หลังเสียประตูฝรั่งเศสดาหน้าโหมบุกหนักและได้ลุ้นจากทั้งการยิงและการโหม่งแต่บอลยังเข้ามือดาร์เรน แรนดอร์ฟ ผู้รักษาประตูไอร์แลนด์ ส่วนทัพยักษ์เขียวหันมาเน้นตั้งรับพร้อมกับโต้กลับเร็วและเกือบบวกประตูที่สองเช่นกัน กระทั่งเกมผ่าน 30 นาทีแรกไอร์แลนด์เริ่มตั้งเกมติดและเป็นฝ่ายเปิดหน้าบุกเข้าใส่ฝรั่งเศสได้ลุ้นหลายครั้งแต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้จบ 45 นาทีฝรั่งเศสยังตามหลังอยู่ 0-1


เริ่มครึ่งหลัง

ฝรั่งเศสปรับทัพทันทีด้วยการถอด เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่โดนใบเหลืองในครึ่งแรกออกพร้อมกับส่ง คิงส์ลีย์ โกม็อง ลงเล่นแทน นาที 55 แบลส มาตุยดี้ ได้ยิงจากนอกกรอบแต่ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ยังพุ่งปัดออกหลังได้ทัน กระทั่งนาที 58 บาการี่ ซาญ่า แบ๊กขวาฝรั่งเศสเปิดจากด้านข้างไปหน้าประตูให้ อ็องตวน กรีซมันน์ ขึ้นโหม่งตุงตาข่ายให้ทั้งสองทีมกลับมาเสมอกัน 1-1


ฝรั่งเศสยิ่งเล่นยิ่งคึกเข้าสู่นาที 61 อาดิล รามี่ โยนยาวจากแดนหลังไปหน้าประตูโอลิวิเยร์ ชิรูด์ โหม่งต่อให้ กรีซมันน์ ยิงในกรอบเขตโทษตุงตาข่ายส่งทัพตราไก่กลับมาแซง 2-1 สถานการณ์ของไอร์แลนด์ยังไม่ดีขึ้นนาที 66 เชน ดัฟฟี่ กองหลังไอร์แลนด์ตัดฟาวกรีซมันน์ที่หลุดเดี่ยวผู้ตัดสินเป่าฟาวล์พร้อมกับควักใบแดงไล่ดัฟฟี่ออกจากสนามขุนพลยักษ์เขียวเหลือผู้เล่น 10 คน


เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายฝรั่งเศสที่ได้เปรียบจำนวนผู้เล่นเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนแม้ว่าจะมีโอกาสลุ้นประตูเพิ่มหลายครั้งสุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ

ทำให้จบ 90 นาทีฝรั่งเศสพลิกกลับมาชนะไอร์แลนด์ 2-1 เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายโดยรอพบผู้ชนะระหว่างอังกฤษกับไอซ์แลนด์


ชมไฮไลต์ด้านล่าง >>


ขอบคุณ>>khaosod.co.th

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์