เบลเยี่ยม ยิงท้ายเกม ถีบไวกิ้ง กลับบ้านฉิวเฉียด

เบลเยี่ยม ยิงท้ายเกม ถีบไวกิ้ง กลับบ้านฉิวเฉียด

การแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. นัดส่งท้ายกลุ่มอี ที่สนามสต๊าด เดอ นีซ เมืองนีซ "ไวกิ้ง"สวีเดน พบกับ "ปีศาจแดง"เบลเยียม

สำหรับสถานการณ์ของทั้งคู่ สวีเดนรั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม เก็บไป 1 แต้มจาก 2 นัด โดยเสมอไอร์แลนด์ 1-1 และแพ้อิตาลี 0-1 นัดนี้ถ้าชนะจะเข้ารอบแน่นอน แต่ถ้าไม่ชนะก็ตกรอบทันทีเช่นกัน ด้านเบลเยียมรั้งรองจ่าฝูง 3 แต้ม หลังแพ้อิตาลี 0-2 และชนะไอร์แลนด์ 3-0 เกมนี้ขอแค่ไม่แพ้จะเข้ารอบทันที

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงมีดังนี้
สวีเดน (4-4-2) : อันเดรียส อิซักส์สัน - วิกตอร์ ลินเดลอฟ, เอริก โยฮันส์สัน, อันเดรียส กรานควิสต์, มาร์ติน โอลส์สัน - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลบิน เอ็กดัล, คิม คัลล์สตรอม, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - มาร์คุส เบิร์ก, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช(กัปตันทีม)


เบลเยียม (4-2-3-1) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ - โธมาส์ มูนิเยร์, โทบี้ อัลเดอร์วีเรลด์, โธมัส แฟร์มาเล่น, แยน แฟร์ตองเก้น - รัดย่า นาอิงโกลัน, อักเซล วิตเซล - ยานนิก แฟร์เรร่า การ์รัสโก้, เควิน เดอ บรอยน์, เอเดน อาซาร์(กัปตันทีม) - โรเมลู ลูกากู


เริ่มเกม ได้เพียง 4 นาที วีเดน เกือบได้ประตู มาร์คุส เบิร์ก ตวัดยิงเผาขน แต่ธีโบด์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตู เซฟชกบอลออกไปได้หวุดหวิด เบลเยี่ยมสวนกลับทันที และมีโอกาสเกือบได้ประตูหลายครั้งหลายหนในเวลาไล่เลี่ยกัน ต่างฝ่ายต่างมีโอกาสโต้กลับสร้างจังหวะ เกือบจะได้ยิงประตูกันอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถจบสกอร์ในจังหวะสุดท้ายได้

ผ่านไปนาทีที่ 10 "ปิศาจแดงแห่งยุโรป" เริ่มครองบอลในแดนสวีเดนได้มากขึ้น เอเดน อาซาร์ ลากบอลขึ้นไปยิงไกลแต่ก็ยังไร้ผล เกมผ่านไป 20 นาที สถานการณ์ยังผลัดกันรุกรับเช่นเดิม นาที 32 อัลบิน เอ็กดัล ของสวีเดน ทำฟาว์ล หยุดเกมโต้กลับของ เดวิด เดอ บรอยน์ ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้นักเตะสวีเดนเป็นคนแรก แต่เบลเยี่ยมก็ยิงฟรีคิกไม่ดี ติดกำแพงเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

แม้จังหวะเปิดเกมรุกเข้าใส่ของเบลเยี่ยมเหนือกว่าเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่สามารถฝ่าแนวรับสวีเดนได้เลย ซ้ำบางจังหวะผู้เล่นเบลเยี่ยมกลับทำผิดพลาด ยิงออกนอกกรอบไปเองเสียหมด นาที 39 เอริก โยฮันส์สัน ของสวีเดนโดนใบเหลืองไปอีกเป็นคนที่สองจากจังหวะหยุดเกมของ โรเมลู ลูกากู กองหน้าเบลเยียมกลางสนาม ท้ายครึ่งแรก อักเซล วิตเซล ของเบลเยี่ยมก็โดนใบเหลืองบ้าง จากจังหวะใช้มือฟาดหน้าผู้เล่นสวีเดน จบครึ่งแรกสกอร์ยังไม่ขยับ 0-0

ครึ่งหลัง นักเตะไวกิ้งเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเปิดเกมก่อนบ้าง และมีโอกาสครองบอลทำเกมรุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง นาที 50 สลาตัน อิบราฮิโมวิช ได้โหม่งเผาขน แต่บอลก็ลอยข้ามคานออกไปแบบเสียของ นาทีถัดมา เอ็กดัลได้ยิงอีกครั้ง บอลก็เข้าซอง กูร์กตัวส์ นายทวารเบลเยี่ยมอีก เบลเยี่ยมมีโอกาสสวนกลับเร็วบ้าง แต่ก็ทำพลาดในจังหวะสุดท้ายไปหมดเช่นกัน

นาที 62 สวีเดนสวนกลับเร็ว อิบราฮิโมวิช ได้บอลตวัดยิง เข้าประตู แต่ไลน์แมนกลับยกเป็นลูกล้ำหน้า เบลเยียมสวนกลับ ลูกากูได้บอลหน้าประตู แต่ก็หวดวืดไปอีกเหมือนกัน เดอ บรอยน์ ได้ยิงบ้างแต่ลูกก็โดน ผู้รักษาประตูสวีเดนปัดออกหลังไป รูปเกมผ่านไปแบบผลัดกันเข้าทำ สูสีทั้งคู่


นาที 69 สวีเดนเปลี่ยน จิมมี่ คูร์มาซ ลงแทน เซบาสเตียน ลาร์สสัน เบลเยี่ยมก็เปลี่ยน ยานิก แฟร์เรร่า การรัสโก้ ออก ส่ง ดริส เมอร์เทนส์ ลงมาแทนในแดนหน้า นาที 72 ลูกากู ลากบอลหลุดเข้ากรอบ แต่ก็ยิงไปติดผู้รักษาประตูสวีเดนอีก จังหวะถัดมา ลูกากู หลุดเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปยิงตุงตาข่ายแต่ ไม่ได้ประตูเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า สวีเดนสวนกลับ อิบราฮิโมวิช ถูกทำฟาว์ล จึงได้ฟรีคิกระยะ 25 หลา ศูนย์ฟน้าร่างยักษ์รับหน้าที่ลุกขึ้นมาปั่นเอง บอลทะลุกำแพงเบลเยี่ยม แต่ถูกผู้รักษาประตูชกออกมาได้หวุดหวิด

นาที 77 อิบราฮิโมวิช ได้ฟาว์ลอีกครั้ง ระยะ 35 หลา โยนบอลเข้ามาหน้าประตูเบลเยียม แต่ก็โหม่งออกหลังไปอีก ปิศาจแดงสวนกลับ ลูกากูคนเดิมได้บอลเผาขน แต่ก็ยังตวัดยิงข้ามคานไปเหมือนเดิม เมอร์เทนส์ ลากเลื้อยเข้าไปยิงแต่บ้าง แต่ผู้รักษาประตูสวีเดนก็ชกบอลออกหลังไป ถึงนาที 81 สวีเดน เปลี่ยน เออร์คาน เชนกิ้น แทน มาร์ติน โอลด์สัน

กระทั่งมาถึงนาที 83 แฟนบอลปิศาจแดง แห่งยุโรป ได้เฮกันลั่น เมื่อ รัดยา นาอิงโกลัน ยิงไกลบอลพุ่งเสียบเสาสองตุงตาข่ายกลายเป็นประตูให้ เบลเยี่ยม ขึ้นนำ 1-0 นาที 86 และกลายเป็นประตูชัยให้ เบลเยี่ยม เอาชนะ สวีเดน ไปในที่สุด 1-0 ถีบทีม"ไวกิ้ง"ร่วงตกรอบกลับบ้าน ไปในที่สุด ขณะที่เบลเยียมมี 6 แต้ม คว้ารองแชมป์กลุ่ม เข้ารอบไปเจอฮังการี

 

ขอบคุณ>>khaosod.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์