มังกรแดงผงาด! เวลส์ถล่มรัสเซียไม่ยั้ง 3-0 ซิวแชมป์กลุ่ม

มังกรแดงผงาด! เวลส์ถล่มรัสเซียไม่ยั้ง 3-0 ซิวแชมป์กลุ่ม

เวลส์ทำผลงานรอบแบ่งกลุ่มในยูโรหนแรกสวยหรู หลังไล่อัดรัสเซียไม่ไว้หน้า 3-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่มบี


ฟุตบอลยูโร 2016 เกมนัดที่สามของกลุ่มบี ที่สตาดียอม มูว์นีซีปาล ในเมืองตูลูส เป็นการพบกันระหว่างรัสเซีย ทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ที่เก็บได้เพียง 1 คะแนนจากการลงสนาม 2 นัด พบกับ เวลส์ ที่มี 3 คะแนนจากการลงสนาม 2 นัด

เลโอนิด สลัตสกี้ กุนซือทีมหมีขาว ในระบบ 4-2-3-1 เลือกใช้ โรมัน ชิโรคอฟ ออกสตาร์ทเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง คอยประงานกับ พาเวล มามาเยฟ และเดนิช กลูชาคอฟ ในแดนกลางโดยมีอาร์เต็ม ซิวบา เป็นกองหน้าตัวเป้า

ด้านคริส โคลแมน เทรนเนอร์ทัพมังกรแดงเลือก แซม โวคส์ ลงมาเป็นศูนย์หน้าคู่กับแกเร็ธ เบล ในแดนหน้า ที่เหลือยังคงเป็นแข้งกำลังหลักจาก 2 เกมแรกอย่าง แอชลีย์ วิลเลียมส์, โจ อัลเลน และอารอน แรมซีย์

เริ่มเกมมาได้เพียง 11 นาที เวลส์ได้ประตูออกนำรัสเซียอย่างรวดเร็ว 1-0 จากจังหวะที่โจ อัลเลน ฉวยโอกาสแทงบอลทะลุช่องอย่างเหนือชั้นจากบริเวณกลางสนามมาให้ อารอน แรมซีย์ ก่อนเจ้าตัวจะงัดบอลยกข้ามตัว อิกอร์ อคินเฟเยฟ ตุงตาข่าย

หลังเสียประตู รัสเซียเดินหน้าโหมบุกใส่รัสเซียในทันที เน้นการต่อบอลเจาะแนวรับทีมมังกรแดง บวกกับโยนบอลมาให้อาร์เต็ม ซิวบาเป็นส่วนใหญ่ แต่สุดท้ายยังไม่สามารถเอาชนะเกมรับของเวลส์ได้

เวลส์ที่เน้นเล่นเกมโต้กลับโจมตีเป็นส่วนใหญ่ มาได้ประตูหนีห่างรัสเซียออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 20 เมื่อแกเร็ธ เบล จัดการกระชากบอลจากบริเวณกลางสนาม ก่อนจะไหลบอลผ่านแนวรับรัสเซียมาเข้าทาง นีล เทย์เลอร์ ที่รออยู่ทางกราบซ้ายของเขตโทษรัสเซีย ซัดบอลจังหวะแรกไปติดเซฟของอิกอร์ อคินเฟเยฟ แต่ปัดบอลไม่ห่างตัว ทำให้เทย์เลอร์ได้โอกาสยิงอีกครั้งและคราวนี้เป็นประตู

มังกรแดงผงาด! เวลส์ถล่มรัสเซียไม่ยั้ง 3-0 ซิวแชมป์กลุ่ม

นาทีที่ 27 รัสเซียเกือบได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่แอชลีย์ วิลเลียมส์สกัดบอลไม่ขาด จนบอลมาเข้ามาอาร์เต็ม ซิวบา ได้โอกาสยิงในกรอบเขตโทษ ทว่าเวย์น เฮนเนสซี กลับปฏิเสธลูกยิงดังกล่าวออกไปหวุดหวิด


เวลาที่เหลือในครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างเปิดหน้าบุกแลกกันอย่างสนุก เวลส์เกือบได้ประตูทิ้งห่างออกไปอยู่หลายครั้ง ทั้งจากการยิงของแซม โวคส์ และ อาร์รอน แรมซีย์ จากการไหลบอลของแกเร็ธ เบล รวมถึงโอกาสจากเจ้าตัวเอง ทว่ายังไม่เฉียบคมพอ ขณะที่รัสเซียยังคงเน้นใช้บอลโยนโจมตีแนวรับเวลส์สลับกับการหาโอกาสจากลูกยิงไกลของทั้งอเล็กซานเดอร์ โคโครินและดมิทรี คอมบารอฟ แต่จากจังหวะสุดท้ายยังไม่แม่นยำพอ ทำให้หมดครึ่งแรก เวลส์นำรัสเซียอยู่ 2-0

เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง รัสเซียขยับเปลี่ยนตัวผู้เล่นสองราย ถอดวาชิรี เบราซุตสกี และโรมัน ชิโรคอฟ กัปตันทีมออก แล้วส่งอเล็กเซ บาราซุตสกี และอเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ลงเล่นแทน ขณะที่เวลส์ยังไม่มีการรายงานเปลี่ยนตัวผู้เล่น

ถัดมานาทีที่ 58 เวลส์มาได้ฟรีคิกบริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้ายของรัสเซีย แต่แกเร็ธ เบล ที่เคยทำประตูระยะนี้ได้ในเกมชนะสโลวาเกีย 2-1 กลับซัดบอลจังหวะนี้หลุดเสาออกไป

สกอร์ของเวลส์เริ่มขยับหนีห่างออกไปเป็น 3-0 จากโอกาสโต้กลับที่คริส กันเทอร์ ไหลบอลทางกราบขวามาให้อารอน แรมซีย์ จ่ายบอลตัดกองหลังรัสเซียที่รุมอยู่ถึง 4 คนมาเข้าทางแกเร็ธ เบล ที่ได้โอกาสดวลกับอิกอร์ อคินเฟเยฟ ก่อนเจ้าตัวจะซัดบอลผ่านมือเข้าประตูไปอย่างไม่ยากเย็น และถือเป็นประตูที่ 3 ของเจ้าตัวในทัวร์นาเม้นต์นี้อีกด้วย

มังกรแดงผงาด! เวลส์ถล่มรัสเซียไม่ยั้ง 3-0 ซิวแชมป์กลุ่ม

ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งเวลาหลัง เกมยังคงรูปแบบเดิมเหมือนในครึ่งเวลาแรก รัสเซียเน้นการครองบอลเพื่อหาโอกาสจ่ายให้บรรดาผู้เล่นแนวรุกสลับการการเล่นบอลยาวโจมตีเกมรับเวลส์ รวมถึงโอกาสจ่อๆหน้าเขตโทษของอาร์เต็ม ซิวบา ที่บอลเหินข้ามคานออกไปและลูกยิงของอิกอร์ สมอลนิคอฟ ขณะที่เวลส์ยังคงเน้นเกมโต้กลับเร็ว โดยอาศัยทักษะของแกเร็ธ เบล และอาร์รอย แรมซีย์ ในการโจมตีพื้นที่สุดท้ายของรัสเซีย


ท้ายที่สุดไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มได้ จบเกม เวลส์ไล่ถล่มรัสเซียขาดลอย 3-0 คว้า 3 คะแนนสำคัญพร้อมการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะทีมแชมป์กลุ่มบี

 ขณะที่รัสเซียจบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม จากลงสนาม 3 นัด เก็บได้เพียง 1 คะแนน กระเด็นตกรอบไปพร้อมกับยูเครนและโรมาเนีย

ขอบคุณข่าวจาก>>GOAL.COM/TH

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์