ลิโอเนล เมสซี คือนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ถึง 4 สมัย แต่ก่อนหน้านี้มีตำนานนักเตะทั้งในอดีตทั้งปัจจุบัน ที่มีผลงานยอดเยี่ยม และโดดเด่นเมื่ออยู่ในสนาม แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเหล่านั้นไม่เคยได้สัมผัสรางวัลบัลลงดอร์ เลยแม้แต่ครั้งเดียว

เธียร์รี อองรี

                          อองรี ทำสถิติพังประตูในพรีเมียร์ลีกได้ถึง 226 ประตู อีกทั้งยังได้ครองแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในยุคที่อยู่กับ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล แต่ผลงานระดับนี้ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้อดีตกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสคว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองได้

                          ปีที่ อองรี น่าจะได้รับรางวัลมากที่สุดน่าจะเป็นปี 2004 ที่ช่วยให้ อาร์เซนอล ครองแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไม่แพ้ใครแม้แต่นัดเดียว รวมทั้งยังถล่มประตูได้ถึง 39 ประตูจากการลงสนามทุกถ้วย แต่ในปีดังกล่าวเป็น อังเดร เชฟเชนโก ที่คว้ารางวัลไปครอบครอง

ฟรังโก บาเรซี

                          ในระหว่างปี 1987 ถึงปี 1992 "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน มี รุด กุลลิท กับ มาร์โก ฟาน บาสเทน 2  ยอดนักเตะดัตช์คอยแบ่งรางวัลบัลลงดอร์ ร่วมกับนักเตะจากทีมอื่นๆ สองคนนี้ได้รับรางวัลรวมกัน 4 ครั้ง แต่ก็น่าจะมีสักครั้งที่รางวัลนี้จะตกกับ ฟรังโก บาเรซี กองหลังกัปตันทีมบ้าง

                          ว่ากันว่ายังไม่เคยมีกองหลังคนไหนที่เล่นได้ระดับสูงอย่างที่ บาเรซี เคยเล่นในช่วงสุดยอดของชีวิตค้าแข้ง ไม่ว่าจะจัดอันดับสุดยอดแบ็กโฟร์ตอนไหน บาเรซี ก็จะมีชื่อติดอยู่ในแบ็กโฟร์ตลอดกาลอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นกัปตันทีม และเป็นมันสมองของทีมอยู่ข้างหลัง

อันเดรส อิเนสตา

                          ปีนี้เป็นอีกครั้งที่ อันเดรส อิเนสตา ต้องชวดรางวัลบัลลงดอร์ เพียงเพราะว่าเล่นอยู่ในยุคเดียวกับ ลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด้ ไม่อยากนั้นคงจะคว้ารางวัลไปตรองแล้วหลายสมัย กองกลางวัย 28 ปีถือ เป็นส่วนสำคัญกับทีมชั้นยอดของบาร์เซโลนายุคนี้ ช่วยให้ทีมครองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาแล้ว 3 สมัย รวมทั้งแชมป์ลาลีกาอีก 5 สมัย

                          นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่ เมสซี ทำไม่ได้คือการยิงประตูชัยให้ทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และครองแชมป์ยูโร 2012 ร่วมกับสเปน จึงไม่แปลกที่จะได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมยุโรป แต่กับบัลลงดอร์นั้นเป็นอีกเรื่อง

โอลิเวอร์ คาห์น

                          โอลิเวอร์ คาห์น นายทวารรายนี้คือซูเปอร์แมนในช่วงปี 2001 ถึง 2002 และควรจะได้รางวัลบัลลงดอร์ไปแล้วในช่วง 2 ฤดูกาลดังกล่าวที่เซฟจุดโทษถึง 3 ครั้งช่วยให้ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เอาชนะ "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

                          คาห์น ยังช่วยให้ทีมครองแชมป์บุนเดสลีกาได้อย่างสบายๆ แต่ในช่วงปีนั้นรางวัลบัลลงดอร์ กลับกลาย เป็นของ ไมเคิล โอเวน เอาดื้อๆ ส่วน คาห์น เข้าป้ายแค่ที่ 3

เปาโล มัลดินี

                          เปาโล มัลดินี ใช้ชีวิตค้าแข้งในระดับสุดยอดได้เกือบ 15 ปี และแน่นอนว่าได้รับการยกย่องให้เป็นแบ็กซ้ายตลอดกาล ช่วยให้ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ครองสคูเดตโต 7 สมัย และได้แชมป์ยุโรปอีก 5 สมัย แต่กับรางวัลส่วนตัวกลับไม่เคยประสบความสำเร็จทั้งๆ ที่มีโอกาสมากที่สุดในปี 1994

                          มัลดินี เป็น 1 ในกองหลังตัวหลักร่วมกับ บาเรซี และอเลสซานโดร คอสตาคูร์ตา ในการถล่มบาร์เซโลนา ของ โยฮัน ครอยฟฟ์ 4-0 ในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน คัพ แต่รางวัลบัลลงดอร์กลับไปตกกับ ฮริสโต  สตอยช์คอฟ กองหน้าบาร์ซา 

บ็อบบี มัวร์

                          บ็อบบี มัวร์ เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษที่ประสบความสำเร็จที่สุด จากการที่ครองแชมป์ฟุตบอลโลก เมื่อปี 1966 ครั้งดังกล่าวผู้คนอาจจะให้ความสำคัญกับ บ็อบบี ชาร์ลตัน ในตำแหน่งกองหน้ามากกว่า แต่ก็ถือว่า มัวร์ มีส่วนสำคัญในการจัดการกองหน้าชั้นยอดของโลก

                          กรณีของกองหลังจากเวสต์แฮม ก็ไม่แตกต่างจาก ฟรังโก บาเรซี และเปาโล มัลดินี ที่ถูกมองข้ามไป

กุนเทอร์ เนตเซอร์

                          เมื่อ 40 ปีที่แล้วมีข้อถกเถียงกันว่า ใครคือกองกลางที่ดีที่สุดของโลก ซึ่ง 1 ในนั้นคือตัวทำเกมทีมชาติ เยอรมนีอย่าง กุนเทอร์ เนตเซอร์ กองกลางของมึนเชนกลัดบัคที่เคยทำผลงานสุดยอดให้ เยอรมันตะวันตก เอาชนะ อังกฤษ ได้ถึงเวมบลีย์ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ก่อนจะช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไปครอง

                          แต่เมื่อผลรางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้นออกมาก็ตกเป็นของ "ไกเซอร์" ฟรานซ์ เบคเคนเบาเออร์ กัปตันทีม ขณะที่ เนตเซอร์ กับ แกรด มุลเลอร์ เป็นอันดับ 2 ร่วมกัน เรื่องนี้เป็นตัวอย่างก่อนยุคของ อิเนสตา ยุคนี้

เฟเรนซ์ ปุสกัส

                          นับตั้งแต่ปี 1956 ที่มีการแจกรางวัลบัลลงดอร์กันมา เฟเรนซ์ ปุสกัส กองหน้าฮังการีของ รีล มาดริด คือตำนานอีกคนที่ถูกมองข้ามมากที่สุดคนหนึ่ง จากความสำเร็จที่ช่วยให้ราชันชุดขาวครองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาหลายสมัย

                          ผลงานส่วนตัวที่ดีที่สุดคือการได้อันดับ 2 ต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ในปี 1960 หากว่ารางวัลบัลลงดอร์เกิดขึ้นเร็๋วกว่านี้สักนิด ปุสกัส คงจะได้รางวัลไปตั้งแต่ช่วงที่นำ ฮังการี ไล่ถล่ม อังกฤษ 6-3 ที่เวมบลีย์ไปแล้ว

ราอูล กอนซาเลซ

                          ถึงทีมชาติสเปนในยุคของ ราอูล กอนซาเลซ จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก แต่ ราอูล ก็ยังยิงประตูในชีวิตการค้าแข้งได้ถึง 323 ประตู ได้แชมป์ลาลีก 6 สมัยกับ รีล มาดริด แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ อีก 3 สมัย  และมีการเล่นที่เหมือนมายากลให้ราชันชุดขาวบ่อยครั้ง

                          ผลงานดีที่สุดของ ราอูล ในบัลลงดอร์ ทำได้เพียงแค่เป็นอันดับ 2 เมื่อปี 2001 ที่เป็น ไมเคิล โอเว่น ที่ ได้รางวัลไปครอง ทั้งที่ในปีดังกล่าว ราอูล ได้แชมป์ลาลีกา พร้อมกับเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดในปีนั้น

ดีโน ซอฟฟ์

                          ดีโน ซอฟฟ์ นายทวารทีมชาติอิตาลีทำได้ดีที่สุดคือการเป็นอันดับ 2 ของรางวัลบัลลงดอร์เมื่อปี 1973  จากการสร้างสถิติไม่เสียประตูในระดับนานาชาตินานถึง 21 เดือน แต่ผลงานดังกล่าวถูกมองว่าเป็นรอง "นักเตะเทวดา" โยฮัน ครอยฟฟ์ ที่ถูกมองว่าเหมาะสมกว่า

                          ปีดังกล่าว ครอยฟฟ์ นำอาแจ๊กซ์ ครองแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งเกมดังกล่าว อาแจ๊กซ์ เอาชนะ ยูเวนตุส ของ ซอฟฟ์ 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศ แต่หากว่า ยูเวนตุส ได้แชมป์ในปีนั้น ซอฟฟ์ ก็น่าจะได้รางวัลบัลลงดอร์ไปครอง ขณะที่ช่วงอายุ 40 ที่ได้แชมป์โลก 1982 กับอิตาลีนั้น เป็นปีที่ซอฟฟ์ได้สคูเดตโตสมัยที่ 6  กับ ยูเวนตุส แต่ก็มี เปาโล รอสซี หัวหอกเพื่อนร่วมทีมที่ยิง 6 ประตูในฟุตบอลโลกที่สเปนมาชิงรางวัลไปอีก