‘สิงห์-เรือ’พิการบู๊บิ๊กแมทช์พรีเมียร์

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์นี้ มีการดวลแข้งกันถึง 10 คู่ โดยคู่เอกอยู่ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จ่าฝูง ดวลกับ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง และแชมป์เก่า ที่มีคะแนนตามหลังอยู่ 5 แต้ม ซึ่งจะคิกออฟในเวลา 00.30 น.

เกมนี้ เชลซี ส่อแววขาดสองนักเตะกำลังสำคัญที่คว้าตัวมาในซีซั่นนี้ทั้ง เชส ฟาเบรกาส กองกลางจอมทัพชาวสเปน ที่บาดเจ็บ และดีเอโก้ คอสต้า หัวหอกเลือดแซมบ้าชาวสเปน ที่ติดโทษแบนเนื่องจากไปจงใจเหยียบ เอ็มเร่ ชาน ดาวเตะลิเวอร์พูล อย่างน่าเกลียด ในเกมลีกคัพ รอบรองฯ นัดที่ 2 นอกจากนี้ยังต้องทดสอบความฟิตของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อันเดร ชูร์เล่, จอห์น โอบี มิเคล และฟิลิเป้ ลุยซ์

ทางด้าน “เรือใบสีฟ้า” ที่ฟอร์มค่อนข้างจะอืดๆ นับตั้งแต่ ยาย่า ตูเร่ จอมทัพคนสำคัญเดินทางไปทำศึกแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ บวกกับ ซามีร์ นาสรี่ กองกลางชาวฝรั่งเศส ก็บาดเจ็บพักยาว นอกจากนี้ วิลฟรีด โบนี่ หัวหอกตัวใหม่ก็ยังติดภารกิจเดียวกับ ยาย่า อย่างไรก็ตามตัวหลักอย่าง แวงซองต์ ก็องปานี กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ พร้อมลงสนาม

11 ตัวจริงที่จะลงเล่นมีดังนี้ เชลซี : ติบอร์ กูร์กตัวส์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เนมานญ่า มาติซ, รามิเรส, วิลเลี่ยน, ออสการ์, เอแด็น อาซาร์ และดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, แมนฯซิติ้ : โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลต้า, แวงซองต์ ก็องปานี, เอเลเควียม มองกาล่า, กาแอล กลีชี่, แฟร์นานโด, แฟร์นานดินโญ่, เฆซุส นาบาส, ดาบิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์ และเซร์คิโอ อเกวโร่

สำหรับสถิติคู่นี้ เชลซี เหนือกว่าด้วยการชนะ 61 เสมอ 38 แมนฯซิตี้ ชนะ 50 ส่วนการเจอกันในฤดูกาลนี้เกมแรก ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เสมอกันไป 1-1 แถม แฟรงค์ แลมพาร์ด เด็กเก่าเชลซี ยิงประตูให้แมนฯซิตี้ อีกด้วย ส่วนปรีวิวอีก 2 คู่สำคัญมีดังนี้

22.00 น. แมนฯยูไนเต็ด-เลสเตอร์ : “ปีศาจแดง” ยังยึดระบบ 3-5-2 เหมือนเดิม แถมยังให้ อังเคล ดิ มาเรีย ขยับขึ้นไปยืนกองหน้าคู่กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ส่วน เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกธรรมชาติให้มาเดินเกมแดนกลาง ร่วมกับ ฆวน มาต้า และมารูยาน เฟลไลนี่ ส่วนแนวรับนั้นไม่มี จอนนี่ อีแวนส์ กับ คริส สมอลลิ่ง ที่บาดเจ็บ ทำให้ แพทริค แม็คแนร์, ฟิล โจนส์ และดาลี่ย์ บลินด์ จะยืนเป็นตัวจริง

ทางฝั่ง “สุนัขจิ้งจอก” ที่เคยยำแมนยูฯถึง 5 เม็ดในการเจอกันนัดแรก ไม่มีแน่นอนคือ 2 แข้งที่เจ็บ คือ แคสเปอร์ ชไมเคิล นายประตู และ แมตต์ อัพสัน ปราการหลัง ส่วน แมทธิว เจมส์ ที่ติดแบน และริยาด เมห์เรซ ไปเล่นแอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ รวมถึง คริส วูดส์ กับ เลียม มัวร์ ต้องทดสอบความฟิต โดยนัดนี้จะประเดิมส่ง อันเดรจ ครามาริซ ลงเล่นในลีกเป็นเกมแรก

22.00 น. ลิเวอร์พูล-เวสต์แฮม : “หงส์แดง” ที่เพิ่งอกหักชวดชิงลีกคัพ เกมนี้มีปัญหาแน่เมื่อ มามาดู ซาโก้ ปราการหลังที่กำลังเล่นได้ดี ได้รับบาดเจ็บที่หลัง ทำให้พลาดเกมนี้แน่นอน รวมไปถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่น่าจะได้พัก หลังจากลงเล่นตลอด 120 นาทีเกมลีกคัพ โดยแนวรุกจะได้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ กลับมาอีกครั้งหลังจากเดี้ยงไปนาน แต่จะเป็นตัวสำรองไปก่อน โดยวาง อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และคูตินโญ่ ล่าตาข่าย

ทางด้าน “ขุนค้อน” รอทดสอบความฟิตของ เจมส์ คอลลินส์ หากลงไม่ได้ เจมส์ ทอมกินส์ จะยืนเซ็นเตอร์แบ๊กคู่กับ วินสตัน รีด อย่างไรก็ตามแดนกลางถือว่าครบเครื่องมากๆ ทั้ง เควิน โนแลน, อเล็กซานเดอร์ ซง และมาร์ค โนเบิ้ล โดยวาง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เด็กเก่าหงส์เป็นตัวเดินเกม และมี แอนดี้ แคร์โรลล์ อดีตเด็กหงส์อีกคน ปักหอกคู่กับ ดิอาฟรา ซาโก้