“ซิโก้” ปัดคุม “ช้างศึก” ชุดอื่นขอพุ่งเป้าแชมป์ “ซูซูกิคัพ”

“ซิโก้” ปัดคุม “ช้างศึก” ชุดอื่นขอพุ่งเป้าแชมป์ “ซูซูกิคัพ”

“ซิโก้” ปัดคุม “ช้างศึก” ชุดอื่นขอพุ่งเป้าแชมป์ “ซูซูกิคัพ”

“ซิโก้” เซย์โน คุมทีมอื่นในตอนนี้ ขอโฟกัสพา “ช้างศึก” คว้าแชมป์ “ซูซูกิคัพ” ให้ได้เท่านั้น ไฟเขียวลูกทีมพัก 1 วัน ก่อนกลับมาซ้อมต่อที่ราชมังคลากีฬาสถาน 3 วัน จากนั้นจะบินไปดวลแข้งกับ “ฟิลิปปินส์” ด้าน “เกษม” ชี้ แม้ “แข้งไทย” จะเคยอุ่นแข้งถล่ม “ตากาล็อก” มาแล้ว 3-0 แต่เกมรอบรองฯ นัดนี้ ไม่ง่ายแน่นอน

ความเคลื่อนไหวของนักเตะ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ชุดลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 หลังจากที่ผ่านรอบแรก

 ด้วยผลงานชนะรวด 3 นัด เป็นทีมอันดับ 1 ของกลุ่ม Bนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ย. “บิ๊กเษม”เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีม พร้อมด้วย “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ นำทัพ “ช้างศึก”  เดินทางกลับถึงประเทศไทย ด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 360 โดยรอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันที่ 6 ธ.ค. ฟิลิปปินส์ จะพบกบั ไทย, 7 ธ.ค. มาเลเซีย พบกับ เวียดนาม ส่วนนัดที่ 2 วันที่ 10 ธ.ค. ไทย จะพบพบ ฟิลิปปินส์ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน, วันที่ 11 ธ.ค. เวียดนาม พบกับ มาเลเซีย ส่วนรอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขัน วันที่ 17 กับ 20 ธ.ค.

    
“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กล่าวว่า ตนจะปล่อยให้นักเตะพักผ่อน 1 วัน

 จากนั้นเช้าวันที่ 1 ธ.ค. จะกลับมาเก็บตัวฝึกซ้อมที่โรมแรมเอสซีปาร์ค และซ้อมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน 3 วัน ก่อนออกเดินทาง ซึ่งจากการที่เรามีเวลาน้อยจึงต้องงดไปเก็บตัวที่กิเลนวัลเลย์หรือเชียงใหม่ ซึ่งแม้จะซ้อมที่กรุงเทพฯ และมีสิ่งเร้ามากมายแต่ส่วนตัวไม่กลัวว่านักเตะจะเสียสมาธิและเชื่อว่าทุกคนจะมีสปิริตเต็มที่และไม่แตกแถวแน่นอน พร้อมกันนี้ “โค้ชซิโก้” ยืนยันด้วยว่า เวลานี้ยังไม่มีคนสนใจให้ไปทำทีมและตนจะขอโฟกัสนำ “ช้างศึก” ประสบความสำเร็จให้ได้เท่านั้น

    
ด้าน“บิ๊กเษม” เกษม จริยวัฒน์วงศ์ กล่าวว่า เกมอุ่นเครื่องแม้ว่าไทยจะถล่มฟิลิปปินส์ 3-0

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะคู่แข่งได้ง่ายๆ อีก โดยเฉพาะการเล่นดป็นทีมเยือน ดังนั้นจะต้องทำการบ้านให้หนักและรู้ลึกรู้จริงให้ได้มองว่าย่อมได้เปรียบกว่าคู่ต่อสู้ ขณะเดียวกันตนเพิ่งดูพยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์ ในห้วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามรสุมเพิ่งเข้าก็น่าหวั่นใจเหมือนกันว่าวันแข่งขัน 6 ธ.ค. นี้ อาจจะกระทบกับการการแข่งขันก็ได้ นอกจากนี้ยังต้องเตรียมแผนรับมือสนามหญ้าเทียม ด้วยการขอไปซ้อมที่ลีโอ สเตเดี้ยม 1 วัน ก่อนเดินทางอีกด้วย

    
ส่วน “กีรติอุส” กีรติ เขียวสมบัติ กองหน้าที่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทุกนัดแต่ฟอร์มยังไม่เข้าฝัก เปิดเผยว่า

 ถือว่าเป็นปีชงของตนเองอย่างแท้จริง ทำอะไรติดขัดไปหมด แต่ได้กำลังใจจากครอบครัวและลูกสาวทำให้มีแรงฮึดสู้ต่อแน่นอน ขณะที่ “บังดุล” อดุล หละโสะ กัปตันทีมชาติไทย ได้ออกโรงป้องกีรติ พร้อมกับวอนแฟนบอลให้วิพากษ์วิจารณ์ทีมชาติไทยอยู่ในขอบเขตยอมรับได้ โดยอยากให้กำลังใจกันมากกว่าเพราะนักเตะทุกคนต่างมุ่งมั่นทำเพื่อชาติอย่างเต็มที่

    
สำหรับรอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 นั้น จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้

ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป โดยมี 4 ราคา คือ บัตร 500 บาท โซน W1 (มีหลังคา), บัตร 300 บาท โซน W2 , W3 (มีหลังคา), บัตร 200 บาท โซนE (ฝั่งไม่มีหลังคา) และบัตร 100 บาท โซน N, S (ฝั่งหลังประตูทั้ง 2 ด้าน) ซึ่งทั้งในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะจำหน่ายในราคาเดียวกัน.
 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์