ฮือฮา “ตะกร้อหญิงไทย” พร้อมใจย้อมผมทองทั้งทีม

ฮือฮา “ตะกร้อหญิงไทย” พร้อมใจย้อมผมทองทั้งทีม

ฮือฮา “ตะกร้อหญิง” พร้อมใจย้อมผมสีทองทั้งทีม เอาฤกษ์เอาชัยก่อนไปสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ “ซันชิโร่”
 
เผย เป็นเคล็ดของทีมที่หวังกระชากเหรียญทอง กลับเมืองไทย ด้าน “ตะกร้อชาย” ยก “เกาหลีใต้” เป็นคู่แข่งแย่งเหรียญทองกับทีมไทย ชี้ งานนี้ “เจ้าภาพ” ใส่หมดหน้าตักแน่ แต่ยังมั่นใจ “หวายหนุ่มไทย” ได้ลูกเก๋าและความสด พอจะหยิบ 2 ทองได้ชัวร์

 ทีมข่าวกีฬาเดลินิวส์ รายงานข่าวการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เมืองอินชอนประเทศเกาหลีใต้
 
โดยทีมตะกร้อชายและหญิงของไทย ที่มีลุ้นถึง 4 เหรียญทอง ได้เดินทางมาถึงเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 17 ก.ย. โดย “ซันชิโร่” นายวีรัส ณ หนองคาย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตะกร้อหญิง เปิดเผยว่า ก่อนเดินทางมาแข่งขัน ทีมหญิง ได้ทำการย้อมผมให้เป็นสีทองสดใสทุกคน เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยและสอดคล้องกับสีของเหรียญทอง ซึ่งถือเป็นการทำเคล็ดว่าทีมตะกร้อหญิงของไทย พร้อมจะคว้า 2 เหรียญทอง กลับเมืองไทยนั่นเอง ซึ่งได้ใช้งบประมาณไปทั้งสิ้น 15,000 บาท และได้รับการสนับสนุนจาก นายธวัช กุมุทพงษ์พานิช ผู้จัดการทีม

    
“สำหรับนัดแรก ทีมตะกร้อสาวไทย จะประเดิมสนามพบกับ เกาหลีใต้ ในรอบแบ่งกลุ่ม วันที่ 23 ก.ย.นี้ ถือว่าไม่ง่าย เพราะตอนนี้ตะกร้อเกาหลีใต้พัฒนาไปไกลมากและตั้งเป้าจะคว้าเหรียญให้ได้ เราคงต้องดูวันแข่งขันว่าใครจะดีกว่ากัน แต่ยังมั่นใจว่าสาวไทยจะเหมา 2 เหรียญทองได้อีกครั้ง” โค้ชวีรัส กล่าว

    
ทางด้าน “อ.กมล” นายกมล ตันกิมหงษ์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชายไทย กล่าวว่า


สภาพทีมนักตะกร้อหนุ่มไทยฟิตมาก ไม่มีใครบาดเจ็บ จะต้องพยายามรักษาสภาพร่างกายไม่ให้เจ็บ เนื่องจากถ้ามีใครเล่นไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนตัว ทีมเวิร์คที่ซ้อมกันมาจะลดลง ซึ่งส่งผลเสียอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เราต้องปรับเกมรับให้แน่นขึ้นอีกด้วย  ขณะเดียวกันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ได้มีการปรับกติกาในตำแหน่งแบ๊ก ในจังหวะเสิร์ฟลูกสามารถเหยียบเส้นวงกลมได้ แต่ห้ามยกเท้าหลักที่ใช้ทรงตัวลอยขึ้นจากพื้น จุดนี้ถือเป็นการพยายามเพิ่มจุดอ่อนและลดศักยภาพของนักตะกร้อไทย แต่การจะดูว่าเท้าลอยหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เชื่อว่าระหว่างการแข่งขันอาจมีปัญหาการประท้วงขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งแน่นอน

    
ส่วนคู่แข่งของทีมไทยยังคงเป็นเจ้าภาพ เกาหลีใต้ ที่ทำผลงานในระยะหลังๆ จากทุกรายได้ดีมาก
 
โดยเข้าชิงชนะเลิศตะกร้อ “คิงส์คัพ” และซูเปอร์ซีรีส์ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองรายการ เกาหลีใต้ จะเล่นแบบสบายๆไม่กดดัน แต่เอเชี่ยนเกมส์ครั้งนี้ในฐานะเจ้าบ้าน พวกเขาจะต้องมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างเต็มที่แน่นอนเพราะว่าแพ้ไม่ได้เหมือนกัน ซึ่งจะทำให้ทีมไทยของเราเจองานยากขึ้นไปอีก

    
“แม้ว่าจะเป็นศึกหนักแต่ผมมองว่าครั้งนี้เรายังเป็นทีมที่ดีและจะคว้าได้ทั้ง 2 เหรียญทอง เพราะอาจจะเป็นเอเชี่ยนเกมส์ครั้งสุดท้ายของนักกีฬาตัวเก๋าๆบางคน เช่นเดียวกับเป็นเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรกของนักกีฬาดาวรุ่ง พวกเขาจึงหวังที่จะทำผลงานให้เต็มที่ แต่เราก็คงไม่ประมาทเพราะว่ากีฬาตะกร้อเป็นความหวังใหม่ของเกาหลีใต้ ที่เจ้าภาพตั้งเป้าว่าจะต้องเข้าชิงชนะเลิศทุกรายการที่ลงแข่งขันไม่ว่าคู่ชิงจะเป็นไทยหรือชาติใดก็ตาม” โค้ชกมล กล่าวทิ้งท้าย

    
สำหรับ “อินชอนเกมส์” มีสถิติที่น่าสนใจก็คือ พรชัย เค้าแก้ว จอมฟาดหมายเลข 1 ผ่านการลงเล่นในศึกเอเชี่ยนเกมส์มา 3 ครั้ง
 
คว้ามาไปแล้วถึง 6 ทอง และหาก พรชัย ที่จะลงแข่งขันอีก 2 รายการ และเก็บเพิ่มอีก 2 ทอง จะทำให้ได้เหรียญทองรวม 8 ทอง ทำลายสถิติของ “โจ้ หลังเท้า” สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักตะกร้อทีมชาติ ไทย ที่ลงแข่ง 4 ครั้ง ได้มา 7 ทอง ส่วน สุริยัน เป๊ะชาญ ตัวชงจอมเก๋าวัย 39 ปี ลงเล่นเอเชี่ยนเกมส์ มา 4 ครั้ง คว้าไป 5 ทอง. 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์