อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก

อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก



"ฟ้าขาว"ดวลเป้าดับ"กังหัน"ลิ่วชิงฯ"อินทรีเหล็ก"

 การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ระหว่างทีม "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา จากทวีปอเมริกาใต้ ที่เฉือนชนะ เบลเยียม 1-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย พบกับ "กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ ทีมดังจากยุโรป ที่ดวลจุดโทษ ชนะ 

  เกมนี้ ฮเลฮานโดร ซาเบญ่า กุนซือทีมชาติอาร์เจนตินา มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดที่แล้ว 2 ตำแหน่ง ส่ง เอ็นโซ่ เปเรซ ลงสนามแทน อังเคล ดิ มาเรีย ที่มีปัญหาบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ มาร์กอส โรโฮ ที่ได้ลงสนามแทน โฮเซ่ บาซันต้า 

  สำหรับรายชื่อ 11 ตัวจริงของทีม"ฟ้าขาว" ประกอบด้วย เซอร์จิโอ โรเมโร่,เอเซเกล การาย, พาโบล ซาบาเลต้า, ลูคัส บิเกลีย, เอ็นโซ่ เปเรซ, กอนซาโล่ อิกัวอิน, ลิโอเนล เมสซี่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, มาร์ติน เดมิเคลิส, มาร์กอส โรโฮ และ เอเซเกล ลาเวซซี่

  ขณะที่ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ ได้รับข่าวดี เมื่อ ไนเจล เดอ ยอง มิดฟิลด์พันธุ์ดุของทีมสามารถ

เรียกความฟิตกลับมาลงสนามได้ทันเวลา โดย 11 ตัวจริงของทีม"กังหันสีส้ม" ได้แก่ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซน, รอน ฟลาร์, สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, บรูโน่ มาร์ติน อินดี้, ดาลีย์ บลินด์ , ไนเจล เดอ ยอง , โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ , อาร์เยน ร็อบเบน, เดิร์ก เคาต์  และ จอร์จินิโอ ไวนัลดุม 


อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก


   เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเล่นอย่างรัดกุม กระทั่ง นาที 13 ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน เลี้ยงบอลขึ้นไปทางฝั่งขวา ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ล้มตัวสกัด แต่บอลมาเข้าทาง เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ได้จังหวะสับไก จากหน้าเขตโทษ แต่บอลยังไม่เข้าเป้า

  อีก 2 นาทีต่อมา เป็นฝ่ายทีม"ฟ้าขาว" ที่ได้ลุ้นบ้าง ลีโอเนล เมสซี่ ได้ลองปั่นฟรีคิก ระยะ 20 หลา บอลผ่านกำแพงไปแล้ว แต่ยังตรงตัวของ แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น รับไว้ได้แบบไม่มีปัญหา

 เข้าสู่ช่วง 20 นาทีแรกของเกม อาร์เจนตินา เริ่มเป็นฝ่ายที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์มากนัก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

 เกมดำเนินมาถึง นาที 24 ทีม"ฟ้าขาว" ได้ลุ้นอีกครั้ง เอเซเกล ลาเวซซี่ เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้าย ก่อนที่ เอเซเกล 
การาย จะเบียดชนะ รอน ฟลาร์ ได้โหม่งไม่เต็ม บอลเหินข้ามคานออกไป 

 นาที 28 เกมต้องหยุดไปพักหนึ่ง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ลงไปนอนกับพื้น หลังขึ้นโหม่งแย่งกับ จอร์จินิโอ ไวนัลดุม 
แล้วหัวโขกกัน

  หลังจากนั้นเป็นฝ่ายยอดทีมจากอเมริกาใต้ ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของฮอลแลนด์ ที่
เล่นได้อย่างเหนียวแน่น

  นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ลีโอเนล เมสซี่ มีโอกาส เปิดฟรีคิกระยะไกล แต่บอลลึกเกินไป แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น 
กระโดดคว้าเข้าซองได้อย่างสบาย ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0

 ครึ่งหลัง ทีมชาติฮอลแลนด์ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่ง ดาริล แยนมัต ลงสนามแทน บรูโน่ มาร์ติน อินดี้ ที่โดนเจาะ
อย่างหนัก และโดนใบเหลืองในช่วงท้ายครึ่งแรก จากจังหวะที่ไปทำฟาวล์ ลีโอเนล เมสซี่ 
 
  นาที 50 ฮอลแลนด์ เป็นฝ่ายที่ได้ลุ้นบ้าง จากลูกฟรีคิก ของ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

 อีก 8 นาทีต่อมา "ทีมฟ้าขาว" ได้โอกาสอีกครั้ง เอเซกาล ลาเวซซี่ กระชากบอลหลุดไปทางฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ากลางให้ กอนซาโล่ อิกัวอิน ได้โหม่งเต็มๆ แต่ รอน ฟลาร์ บล็อกเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด

  นาที 62 ทีม"กังหันสีส้ม" ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนที่สอง ส่ง ยอร์ดี้ คลาซี่ ลงสนามแทน ไนเจล เดอ ยอง 

 เกมดำเนินมาถึงนาที 74 ดาริล ยานมัต ทำเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กระโดดยิง 
แต่บอลไม่ตรงกรอบ และผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้า


อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก


 จากนั้นไม่ถึงนาที ทีมชาติอาร์เจนตินา พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย จากจังหวะที่ เอ็นโซ่ เปเรซ จ่ายทะลุช่อง ให้ กอนซาโล่ อิกัวอิน ได้โอกาส เข้าชาร์จเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษ บอลเข้าหน้าต่างอย่างหวุดหวิด

 เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกม อาร์เจนติน่า ขอเปลี่ยนตัวทีเดียว 2 คน ส่ง โรดริโก้ ปาลาซิโอ และ เซอร์จิโอ 
อเกโร่ ลงสนามแทน เอ็นโซ่ เปเรซ และ กอนซาโล่ อิกัวอิน

 นาที 83 ทีมจากอเมริกาใต้ ยังเป็นฝ่ายที่หาโอกาสเข้าทำได้จะแจ้งกว่า และได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ มาร์กอส โรโฮ 
แต่ แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ยังรับไว้ได้แบบไม่ยากเย็น

 เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฮอลแลนด์ พลาดโอกาสได้ประตูชัยอย่างน่าเสียด้าย เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ทำชิ่งให้ อาร์เยน 
ร็อบเบน ทะลุเข้าไปในเขตโทษ และกำลังจะสับไกยิง แต่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ล้มตัวสกัดไว้ได้ในจังหวะสุดท้าย ก่อน
จะจบการแข่งขัน 90 นาที ด้วยสกอร์ 0-0 ส่งผลให้ทั้งสองทีมต้องไปแข่งขันกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ อีก 30 นาที

  เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังคงเล่นได้อย่างเหนียวแน่น ก่อนที่ หลุยส์ ฟานกัล จะตัดสินใจ เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย ส่ง คลาส-แยน ฮุนเตลลาร์ ลงสนามแทน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นาที 96

 นาที 98 ฮอลแลนด์ ได้ลุ้นอีกครั้ง อาร์เยน ร็อบเบน กระชากบอลไปที่หน้าเขตโทษ ก่อนสับไกยิง แต่ เซอร์จิโอ โร
เมโร่ ยังเซฟไว้ได้

อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก



 อีก 2 นาทีต่อมา อาร์เจนตินา เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง มักซี่ โรดริเกซ ลงสนามแทน เอเซเกล ลาเวซซี่

 นาที 104 คลาส-แยน ฮุนเตลลาร์ โดนใบเหลือง จากจังหวะที่ไปเข้าบอลหนักใส่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ก่อนจะหมดครึ่งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษด้วยการเสมอกัน 0-0

 เกมในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังต้องหยุดไปพักใหญ่ หลัง พาโบล ซาบาเลต้า ต้องได้รับการปฐมพยาบาล จากจังหวะ
ที่ปะทะกับ เดิร์ก เคาต์ 

  หลังจากนั้นทั้งสองทีมยังเล่นแบบรัดกุม เกมส่วนใหญ่ต่อสู้กันที่กลางสนาม ก่อนที่ สเตฟาน เดอ ฟรายจ์ จะลองยิงไกล แต่บอลหลุดกรอบไปเยอะ ในนาที 110 

 นาที 115 อาร์เจนติน่า พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย  จากจังหวะวางบอลโยนเข้าไปในเขตโทษ  โรดริโก้ 
ปาลาซิโอ ได้โหม่งจากระยังหวังผล แต่บอลตรงตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซน

 อีก 2 นาทีต่อมา ทีม"ฟ้าขาว" ได้ลุ้นอีก ลีโอเนล เมสซี่ เลื้อบอลไปทางริมเส้นฝั่งขวาสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดเข้ากลาง 
มักซี่ โรดริเกซ ได้โอกาสยิง แต่เบาเกินไป

  ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมยังยิงประตูกันไม่ หมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ต้องไปตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ

 เริ่มดวลจุดโทษ โดยฮอลแลนด์เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน พร้อมส่ง รอน ฟลาร์ รับหน้าที่คนแรก แต่ยิงเบาเกินไป เซอร์จิโอ โรเมโร่ เซฟไว้ได้ ขณะที่ ลีโอเนล เมสซี่ คนแรกของอาร์เจนติน่า สังหารเข้าไปแบบเยือกเย็น ทีมจากอเมริกาใต้นำ 1-0

 คนที่ 2 ของ ฮอลแลนด์ เป็น อาร์เยน ร็อบเบน ยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ส่วน เอเซเกล การาย คนที่ 2 ของอาร์เจนติน่า ยิงเต็มข้อบอลพุ่งเสียบคาน ทีม"ฟ้าขาว" ยังนำ 2-1

 คนที่ 3 ของฮอลแลนด์ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ติดเซฟของ เซอร์จิโอ โรเมโร่ ส่วน เซอร์จิโอ อเกโร่ ยิงไม่พลาด อาร์เจนติน่า นำ 3-1

 คนต่อมา เดิร์ก เคาต์ ยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ มักซี่ โรดริเกซ คนที่ 4 ของทีม"ฟ้าขาว" ยิงไม่พลาดเช่นกัน ส่งผลให้ อาร์เจนติน่า ชนะการดวลจุดโทษทันที 4-2 

  ส่งผลให้ทีมชาติอาร์เจนติน่า เอาชนะการดวลเป้าไปด้วยสกอร์ 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ ทีมชาติเยอรมนี ที่ถล่มเจ้าภาพบราซิล ขาดลอย 7-1 โดยถือเป็นการผ่านเข้าสู่รอบชิงฯเป็นครั้งที่ 5 ของทีม"ฟ้าขาว"

อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก


อาเจนติน่าดวลโทษดับกังหันลิ่วชิงฯอินทรีเหล็ก



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์