เยอรมันคึก ขี่แซมบ้าไร้เนย์มาร์

เยอรมันคึก ขี่แซมบ้าไร้เนย์มาร์

เยอรมันคึก ขี่แซมบ้าไร้เนย์มาร์ คืนนี้รู้กันใครได้เข้าชิง แต่สถิติบราซิลข่มอื้อ แข่ง21ชนะ12แพ้แค่4 อินทรีลุ้น"โพโดลสกี้"


ฟุตบอลโลกระเบิดความมันส์รอบตัดเชือก "แซมบ้า"บราซิล แชมป์โลก 5 สมัย พิสูจน์ศักดิ์ศรี"อินทรีเหล็ก"เยอรมัน แชมป์โลก 3 สมัย แพทย์ประจำทีมเจ้าภาพยืนยัน "เนย์มาร์" ดาวยิงซูเปอร์สตาร์ปิดฉากบอลโลกแน่นอนแล้ว หลังมีข่าวอาจได้ลุ้นหายเจ็บกลับมาเตะนัดชิง สถิติเก่าๆ นักเตะแซมบ้าเหนือกว่าเจอกัน 21 ครั้ง ชนะ 12 แพ้ 4

ฟุตบอล โลก 2014 ที่ประเทศบราซิล รอบรองชนะเลิศคู่แรก ระหว่าง "แซมบ้า"บราซิล เจ้าภาพ เจ้าของสถิติแชมป์โลก 5 สมัย กับ "อินทรีเหล็ก"เยอรมัน แชมป์โลก 3 สมัย กำหนดลงสนามเวลา 03.00 น. หลังเที่ยงคืนวันอังคารที่ 8 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามเอสตาดิโอ มิเนเรา เมืองเบโล ฮอริ ซอนเต้

เส้น ทางที่ผ่านมา "แซมบ้า"รอบแรกเป็นแชมป์กลุ่มเอ ชนะโครเอเชีย 3-1 เสมอเม็กซิโก 0-0 ชนะแคเมอรูน 4-1 เก็บได้ 7 คะแนน รอบ 16 ทีมชนะชิลีด้วยการดวลจุดโทษตัดสิน 3-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 1-1 รอบก่อนรองชนะเลิศชนะโคลัมเบีย 2-1 ขณะที่ "อินทรีเหล็ก" รอบแรกเป็นแชมป์กลุ่มจี ถล่มโปรตุเกส 4-0 เสมอกานา 2-2 ชนะสหรัฐอเมริกา 1-0 เก็บได้ 7 คะแนน รอบ 16 ทีมเสมอแอลจีเรียใน 90 นาที 0-0 ก่อนจะชนะช่วงต่อเวลา 2-1 รอบก่อนรองชนะเลิศชนะฝรั่งเศส 1-0

ความ พร้อมก่อนลงสนาม ทีมเจ้าภาพจะไม่มีเนย์มาร์ กองหน้าดาวซัลโวประจำทีมที่ยิงไปแล้ว 4 ประตู เนื่องจากบาดเจ็บกระดูกสันหลังร้าวจนต้องบอกลาบอลโลกไปแล้ว รวมถึงติอาโก้ ซิลวา ที่ติดโทษแบน แต่จะได้ หลุยส์ กุสตาโว่ กองกลางตัวรับพ้นโทษกลับมาช่วยทีม

คาดว่าหลุยส์ ฟิลิปเป้ สโคลารี่ กุนซือ จอมเก๋า จะใช้ระบบ 4-2-3-1 ฮูลิโอ เซซาร์ ผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย ดาเนียล อัลเวส, ดานเต้, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เซโล่ คู่กลางรับ แฟร์นันดินโญ่ ประสานงานกับ หลุยส์ กุสตาโว่ กลางรุกใช้ วิลเลี่ยน, ออสการ์, ฮัล์ก โดยมี เฟร็ด เป็นศูนย์หน้า

ด้าน ขุนพลอินทรีเหล็ก จะไม่มี ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นบอลโลกครั้งนี้ และต้องเช็กความฟิต ลูคัส โพโดลสกี้ คาดว่าโจอาชิม เลิฟ กุนซือมาดเนี้ยบ จะใช้แผนการเล่น 4-3-3 มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตู กองหลังใช้ ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, มัตส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองกลาง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, โทนี่ โครส ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่าง เมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่, โธมัส มุลเลอร์

คู่นี้เคยเจอกันมา 21 ครั้ง บราซิลเหนือกว่าชนะ 12 เสมอกัน 5 เยอรมันชนะ 4 ครั้ง ล่าสุดเจอกันเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2011 เยอรมันชนะ 3-2 โช เซ่ ลุยซ์ รุนโก้ แพทย์ประจำทีมบราซิล ยืนยันว่า เนย์มาร์จะหมดสิทธิ์ลงเล่นตลอดช่วงที่เหลือของฟุตบอลโลกครั้งนี้อย่างแน่นอน หลังมีข่าวลือออกมาว่ากองหน้าตัวเก่งของทีมอาจหายทันได้ลุ้นกลับมาทันเล่น นัดชิงชนะเลิศ

ทั้งนี้ดาวยิงวัย 22 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังจากจังหวะถูกฮวน คาร์มิโล ซูนิก้า กองหลังโคลัมเบียเข้าปะทะอย่างรุนแรง ในรอบก่อนรองชนะเลิศที่บราซิลชนะ 2-1 รุน โก้กล่าวว่า "ไม่มีโอกาสสำหรับเนย์มาร์ในการลงเล่นนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก เขาอยู่กับทีมได้ แต่ไม่มีโอกาสลงสนามได้ เราจะไม่หลอกตัวเอง เราไม่มีทางเลือก แต่เราจะไม่มีเขาในรอบชิงชนะเลิศอย่างแน่นอน"

หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือเจ้าภาพ เปรยๆ หลังเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมที่ริโด เดอ จาเนโร ว่า อาจส่งวิลเลี่ยน มิดฟิลด์จากเชลซีลงแทนตำแหน่งของเนย์มาร์ในเกมกับเยอรมัน โดยระหว่างฝึกซ้อมอุ่นแข้งกับทีมอายุต่ำกว่า 20 ปีของท้องถิ่น วิลเลี่ยนได้ลงเล่นตำแหน่งกองกลางตัวรุกเหมือนที่เนย์มาร์ลงเล่นในฟุตบอลโลก ครั้งนี้ อย่างไรก็ตามสโคลารี่ยังมีตัวเลือกอื่น อาทิ รามิเรส, เบอร์นาร์ด และ เฮอร์นาเนส

ทั้งนี้ ผลการซ้อมอุ่นแข้งดังกล่าว บราซิลชนะ 3-0 โดยได้ประตูจากเบอร์นาร์ด, ดานเต้ และรามิเรส ซึ่งเป็นการซ้อมครั้งสุดท้ายก่อนเดินทางไปยังเมืองเบโล ฮอริซอนเต้ เพื่อลงเตะรอบตัดเชือกกับเยอรมัน ที่สนาม มิเนเรา สเตเดี้ยม ด้าน วิลเลี่ยนกล่าวว่า ไม่สามารถเทียบ เนย์มาร์กับผู้เล่นคนอื่นได้ เพราะเนย์มาร์เป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูง ตนมีสไตล์ที่แตกต่าง เนย์มาร์มีความเป็นกองหน้ามากกว่า ยิงประตูได้มากกว่า จุดแข็งของตนคือการมีส่วนร่วม การจ่ายทำทางให้เพื่อนร่วมทีม 

สำหรับ ผู้ตัดสินเกมรอบตัดเชือกคือ มาร์โก โรดริเกซ เชิ้ตดำจากเม็กซิโก ผู้ทำหน้าที่รอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกลุ่มดี ซึ่งเกิดเหตุการณ์ อื้อฉาว หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าอุรุกวัยกัด จอร์โจ้ คิเอลลินี่ กองหลังอิตาลี เกมดังกล่าว โรดริเกซแจกใบแดงไล่ เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ มิดฟิลด์อิตาลีออกจากสนามหลังยันใส่ผู้เล่นอุรุกวัย แต่ไม่เห็นเหตุการณ์ตอนซัวเรซกัด คิเอลลินี่ ทั้งนี้เชิ้ตดำรายนี้เคยลงทำหน้าที่ในฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มหลายนัด แต่ยังไม่เคยเป่ารอบน็อกเอาต์

ขณะที่โยอาคิม เลิฟ กุนซือเยอรมัน และบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กองกลางตัวหลักออกมาเตือนผู้ตัดสินให้ระมัดระวังการเข้าสกัดหนักของผู้เล่น บราซิล "บราซิลชุดนี้เล่นดุดันกว่าทีมอื่น ขึ้นอยู่กับผู้ตัดสินว่าจะลงโทษได้อย่างเหมาะสมถูกต้องหรือไม่" เลิฟกล่าว 

ส่วนชไวน์สไตเกอร์ เสริมว่า
"การปะทะหนักคือส่วนหนึ่งในเกมของบราซิล ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องระมัดระวัง รวมถึงผู้ตัดสินด้วยเช่นกัน"
พอล ไบรต์เนอร์ ตำนานกองหลังเยอรมัน แนะกุนซือรุ่นน้องให้ดร็อป เมซุต โอซิล เป็นตัวสำรองในเกมกับบราซิล หลังโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานมาตลอด แม้เพิ่งทำประตูได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ชนะแอลจีเรีย 

"โอซิลยังไม่มีความทุ่มเทมากพอ และควรขยันวิ่งไล่บอลมากขึ้นกว่านี้" ไบรต์เนอร์กล่าว ด้าน อลัน เชียเรอร์ อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เผยผ่านคอลัมน์ส่วนตัวในเว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซี ระบุว่าฟุตบอลโลก 2014 ไม่ใช่ยุคของบรรดาศูนย์หน้าธรรมชาติ เพราะประตูที่ยิงกันได้ส่วนใหญ่มาจากนักเตะเพลย์เมกเกอร์หรือกองหน้าตัวต่ำ เป็นส่วนใหญ่

เชียเรอร์ระบุอีกว่า จำนวนประตูที่เกิดขึ้นมากมายในการแข่งขันครั้งนี้ ส่วนมากมาจากบรรดานักเตะตัวทำเกม หรือตำแหน่งของหมายเลข 10 อาทิ เจมส์ โรดริเกซ, โธมัส มุลเลอร์, ลิโอเนล เมสซี่ และเนย์มาร์ ขณะที่ศูนย์หน้าธรรมชาติกลับไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างเปรี้ยงปร้าง เนื่องจากถูกลดทอนความสำคัญในทีมลงไป ดูได้จากนักเตะอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เฟร็ด, กอนซาโล่ อิกัวอิน และดิเอโก้ คอสต้า ที่มีสถิติการยิงในฟุตบอลโลกน้อยกว่ากองหน้าตัวต่ำอย่างเห็นได้ชัด
 

เยอรมันคึก ขี่แซมบ้าไร้เนย์มาร์


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์