กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
อเล็กซิส-วัลดิเวีย-โบเซชูร์ ซัดคนละตุงช่วยชิลีเชือดจิงโจ้
"อเล็กซิส-วัลดิเวีย-โบเซชูร์" ซัดคนละตุงช่วยชิลีเชือดจิงโจ้
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่สนาม อารีน่า ปันตานัล เมือง คูเอบา ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ เช้าวันที่ 14 มิ.ย. ตามเวลาประเทศไทย เป็นการแข่งขันกลุ่มบี ทีมชาติชิลี พบ ทีมชาติออสเตรเลีย
สำหรับชิลีมาในระบบ 4-3-3 โดย 11 คนแรกของ ชิลี ประกอบด้วย เคลาดิโอ บราโว่, ยูเจนิโอ มีน่า, เมาริซิโอ อิสร่า, อเล็กซิส ซานเชส, อาร์ตูโร่ วิดัล, ฮอร์เก้ วัลดิเวีย, เอดูอาร์โด้ วาร์กาส, แกรี่ เมเดล, กอนซาโล่ ฮาร่า, ชาร์ลส์ อรานกูอิช, มาร์เชโล่ ดิอาซ
ส่วน ออสเตรเลียมาในระบบ 4-3-3 เช่นกัน โดยวาง แมตธิว ไรอัน, อิวาน ฟรานยิช, เจสัน เดวิดสัน, ทิม เคฮิลล์, มาร์ก มิลลิแกน, แมตธิว สปิราโนวิช, แมตธิว เลกกี, ทอมมี่ ออร์, ไมล์ เยดินัก, อเล็กซ์ วิลกินสัน, มาร์ก เบรสชาโน่ เป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง ขณะที่ผู้ตัดสินเป็น นูมันดิเอซ ดีเซอร์ ชาวไอวอรี่ โคตส์
เริ่มเกมเป็นชิลีที่ครองบอลบุกได้มากกว่า ขณะที่ออสเตรเลียคอยอาศัยจังหวะสวนกลับ จนนาทีที่ 11 ชิลีมาได้ประตูนำสำเร็จ 1-0 จากจังหวะที่ ชาร์ลส์ อรานกูอิช พาบอลมาสุดเส้นหลังก่อนตักบอลหยอดไปกลางประตู เอดูอาร์โด้ วาร์กาส ขึ้นโหม่งให้ อเล็กซิส ซานเชส ยิงด้วยขวาเสียบเสาแรกเข้าไป
ถัดมานาที 14 ชิลีมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะ อเล็กซิส ซานเชซ ให้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกหลบแนวรับออสเตรเลีย มาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนส่งเข้ากลางให้ ฮอร์เก้ วัลดิเวีย จับหนึ่งจังหวะแล้วปั่นด้วยขวา บอลพุ่งเสียบคานเข้าไปอย่างสวยงาม
หลังเสีย 2 ประตูออสเตรเลียพยายามบุกหวังทวงประตูคืน นาที 26 แมตธิว เลกกี ได้โอกาสหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่จังหวะสุดท้ายกลับยิงข้ามคานออกไปไกล
จากนั้นรูปเกมยังคงออกมาในรูปแบบเดิมคือชิลีเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ออสเตรเลียทำได้เพียงรอตัดบอลและสวนกลับเท่านั้น แต่คราวนี้การสวนกลับของทีมจิงโจ้ได้ผล ในนาที 35 อิวาน ฟรานยิช พาบอลมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษ ให้ ทิม เคฮิลล์ กระโดดขึ้นโหม่งสวนเข้าไปตุงตาข่ายให้ ออสเตรเลีย ไล่มาเป็น 1-2
หลังได้ประตูตีไข่แตกออสเตรเลียเหมือนได้ใจ นาที 36 แมตธิว เลกกี ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เคลาดิโอ บราโว่ ผู้รักษาประตูชิลี แต่ยังยิงไปติดเซฟ ถัดมานาทีเดียวเป็นโอกาสของชิลีบ้าง เมาริซิโอ อิสร่า หลุดเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนตัดสินใจยิงยัดไปที่เสาแรก แต่สุดท้ายยังติดบล็อกผู้เล่นออสเตรเลีย
จากนั้นทิม เคฮิลล์ มาได้รับใบเหลืองแรกของเกม นาที 44 เนื่องจากไปเถียงผู้ตัดสินในจังหวะที่ตัวเองถูกทำฟาวล์บริเวณกลางสนาม จบครึ่งแรกชิลีออกนำ ออสเตรเลีย 2-1
ครึ่งหลังนาที 49 ออสเตรเลียจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรกโดยส่ง ไรอัน แม็กโกแวน ลงมาแทน อิวาน ฟรานยิช ที่เกิดอาการบาดเจ็บ นาที 50 ออสเตรเลียเกือบได้ประตูตีเสมอ ทอมมี่ ออร์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้าย เข้ามากลางประตู แล้วเป็นทิม เคฮิลล์ ที่แทรกตัวเข้าไปโหม่ง แต่บอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นถัดมาอีก 2 นาที แมตธิว เลกกี เปิดจากริมเส้นด้านขวาเข้าไปกลางประตูให้ ทิม เคฮิลล์ พุ่งโหม่งเข้าประตูไป แต่น่าเสียดายที่ผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า
ออสเตรเลียยังคงใช้ลูกโยนยาวโจมตีชิลี นาที 56 มาร์ก เบรสชาโน่ ได้โอกาสซัดบอลจากที่เพื่อนเปิดมาให้ ด้วยซ้ายจังหวะเดียวไปที่เสาแรก แต่ เคลาดิโอ บราโว่ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ ปัดออกหลังไปได้
เกมยังคงเป็นของออสเตรเลียส่วนใหญ่ ทำให้ ฮอร์เก้ ซามปาโอลี่ กุนซือชิลี ต้องแก้เกมโดยการถอด อาร์ตูโร่ วิดัล ออก แล้วส่ง เฟลิเป้ กูเตียร์เรซ ลงสนามแทน ในนาที 59 จากนั้นถัดมานาทีเดียว โอกาสเป็นของชิลี เมื่ออเล็กซิส ซานเชส แทงบอลทะลุช่องให้ เอดูอาร์โด้ วาร์กาส หลุดเข้าไปจิ้มบอลผ่านมือ แมตธิว ไรอัน นายทวารออสเตรเลียไปแล้ว แต่ อเล็กซ์ วิลกินสัน ปราการหลังออสเตรเลียวิ่งเข้ามาสกัดบอลออกจากเส้นได้ทัน
จากนั้นทั้ง 2 ทีม ผลัดกันรุกรับอย่างสูสี ออสเตรเลียยังคงอาศัยลูกกลางอากาศโจมตี ส่วนชิลีใช้การต่อบอลบุกเข้าใส่ แต่ก็ยังทำอะไรกันไม่ได้ จนนาที 67 ทั้ง 2 ทีมต้องปรับแผน โดยชิลี เปลี่ยนเอาฌอง โบเซชูร์ ลงแทน ฮอร์เก้ วัลดิเวีย ส่วนออสเตรเลียส่ง เบน ฮอลโลแรน แทน ทอมมี่ ออร์ ก่อนนาที 77 ออสเตรเลีย จะเปลี่ยนคนสุดท้าย โดยเอา เจมส์ ทรอยซี่ ลงแทน มาร์ก เบรสชาโน่
เกมทั้ง 2 ทีมยังไม่กระเตื้อง ต่างยังไม่สามารถเจาะแนวรับของกันและกันเข้าไปยิงเน้นๆได้ นาที 87 ชิลีส่งศูนย์หน้าอย่าง เมาริซิโอ ปินิญ่า ตัวสำรองคนสุดท้าย ลงมาแทน เอดูอาร์โด้ วากาส หวังพังประตูเพิ่ม จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ชิลีมาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะซ้ำนอกกรอบเขตโทษของฌอง โบเซชูร์ ให้จบ 90 นาที ชิลี ชนะ ออสเตรเลีย 3-1
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
