ปืนใหญ่ยิงดับหงส์แดง-ผีแดงเชือดฟูแล่ม-เรือใบเรียงหน้ายิงถล่มเละ7-0-เชลซีพ่ายนิวคาสเซิล

ภาพจาก ข่าวสดภาพจาก ข่าวสด


การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 10 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ทีม"ปืนใหญ่" อาร์เซนอล จ่าฝูง เปิดสนามเอมิเรตส์ พบ"หงส์แดง" ทีมอันดับ 2 เกมนี้ อาร์เซนอลเล่นได้เหนือกว่า โดยเฉพาะการต่อบอลแดนกลาง ทั้งซานติ กาซอร์ล่า โทมัส โรซิกกี้ มิเกล อาร์เตต้า ประสานงานกันอย่างลงตัว
 
 นาที 19 กาซอร์ร่ายิงซ้ำจากจังหวะแรมซีย์ โหม่งชนเสาบอลกระดอนออกมาเข้าทาง กาซอร์ร่าซัดด้วยขวา บอลเข้าตาข่าย ปืนใหญ่นำ 1-0
 
 หลังจากนั้นมีโอกาสอีกหลายครั้ง แต่ยิงเพิ่มไม่ได้ ขณะที่ลิเวอร์พูลมีโอกาสจากจอร์แดน เฮนเดอร์สัน แต่ก็ยิงข้ามคาน
 
 ครึ่งหลังลิเวอร์พูลส่งเฟลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางดาวรุ่งที่หายเจ็บ เป็นตัวสำรอง ทำเกมได้วุบวาบ มีโอกาสตีเสมอหลายครั้ง แต่ผุ้รักษาประตูอาร์เซนอลป้องกันไว้ได้
 
 ขณะที่จังหวะสวนกลับของอาร์เซนอลกผ็อันตราย โอลิวิเยร์ ชิรูด์มีโอกาสหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ซิมง มิโญเลต์ป้องกันไว้ได้ 2-3 จังหวะ
 
 กระทั่งนาที 59 แรมซีย์ได้ยิงไกล25 หลาหน้าเขตโทษ บอลเสียบตาข่าย เป็นประตูชัยให้อาร์เซนอลชนะ 2-0 ครองจ่าฝูงต่อไป เตะ 10 นัด มี 25 คะแนน ตามด้วยเชลซี 10 นัด มี 20 คะแนน ลิเวอร์พูลหล่นมาอยู่ที่ 3 เตะ 10 นัด มี 20 คะแนน เป็นรองประตูได้เสีย
 
 ด้าน"เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม เปิดสนามคราเวน คอทเทจ ในกรุงลอนดอน ต้อนรับการมาเยือนของ "ผีแดง" แมนฯยู 

เกมนี้ทีมเยือนได้ประตูขึ้นนำก่อนตั้งแต่ต้นเกม จากจังหวะที่เวย์น รูนีย์ หลุดไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนปาดเข้ากลางให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ยิงเข้าไปอย่างสบาย ในนาทีที่ 9

จากนั้นนาที 20 แมนฯยู ได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 อัดนาน ยานาไซ กองกลางดาวรุ่งจ่ายบอลทะลุช่องให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปซัดเต็มข้อ บอลพุ่งอัดเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม

 และอีก 2 นาที ถัดมา แมนฯยูมาได้ประตูที่ 3 เมื่อโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับบอลทะลุช่องหลุดไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะจ่ายบอลเข้ากลางให้ เวย์น รูนีย์ ยิงเข้าไปแบบนิ่มๆ

 จบครึ่งแรก แมนฯยู นำ 3-0

 ครึ่งหลัง ทีมเยือนยังเป็นฝ่ายที่เล่นได้ดีกว่า แต่ยังทำประตูเพิ่มไม่ได้

 จนกระทั่งนาที 65 เจ้าถิ่นมาได้ประตูตีไข่แตกจาก คาคานิคลิช ที่หลุดเข้าไปในกรอบเขตก่อนซัดแฉลบเวย์น รูนีย์ เข้าไป

  จบเกม แมนฯยู บุกถล่ม ฟูแล่ม คาบ้าน 3-1


 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถลุง "นกขมิ้นเหลืองอ่อน" นอริช ซิตี้ ขาดลอย 7-0 

  เกมนี้เจ้าถิ่นได้ประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของ แบรดลีย์ จอห์นสัน นาที16, ดาวิด ซิลบา นาที 20,มาติย่า นาสตาซิช นาที 25, อัลวาโร เนเกรโด นาที 36, ยาย่า ตูเร่ นาที 60, เซอร์จิโอ กุน อาเกวโร่ นาที 71 และ เอดิน เชโก้ นาที86

 ผลคู่อื่น

 ฮัลล์ ซิตี้ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0, สโต๊ก ซิตี้ เสมอ เซาแธมป์ตัน 1-1, เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0 และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ แอสตัน วิลล่า 0-0 

 ด้าน“สาลิกาดง”นิวคาสเซิลเปิดสนามเซนต์เจมส์ปาร์ก ต้อนรับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี 

  เกมนี้ โจเซ่ มูรินโญ่ จัดผู้เล่นลงสนามแบบฟูลทีม โดยมีแฟรงก์ แลมพาร์ด คุมแดนกลางคู่กับ รามิเรส พร้อมส่ง เอเดน อาซาร์, ฮวน มาต้า และ ออสก้า ลงปั้นเกมรุก ในขณะที่เฟอร์นันโด ตอร์เรส ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

  เริ่มเกมครึ่งแรก เป็นฝ่ายทีมเยือนที่ครองบอลได้มากกว่าได้ยังไม่สามารถหาจังหวะจบสกอร์ได้

  เกมดำเนินมาถึงนาที12เชลซีมีโอกาสได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ฮวน มาต้า เปิดลูกเตะมุมเข้ามา จอห์น เทอร์รี่ ได้ขึ้นโขกแบบเต็มๆแต่บอลชนคานอย่างน่าเสียดาย

  นาที 21 ทีมเยือนมีโอกาสลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกของแฟรงก์ แลมพาร์ด แต่บอลเหินข้ามคานไปเยอะ

  อีก 2 นาที ต่อมา แอชลีย์ โคล แบ๊กซ้ายจอมเก๋าของเชลซี มีโอกาสยิงอัดเข้ามาแต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น

  นาที 30 เจ้าบ้านมีโอกาสลุ้นประตูบ้าง จากจังหวะที่ โลอิก เรมี่ พักบอลให้ โยฮัน กาบาย ได้ส่องไกล แต่บอลพุ่งไปตรงตัวปีเตอร์ เช็ก 

  จากนั้นนาที 36 แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมให้ จอห์น เทอร์รี่ มีโอกาสขึ้นโหม่งอีกครั้ง แต่บอลลอยไปติด ดาวิเด้ ซานตอน กองหลังเจ้าบ้านที่ยืนคุมเส้นอยู่ 

  และจากจังหวะดังกล่าวเจ้าบ้านวางบอลยาวสวนกลับเร็วมาให้ มุสซ่า ซิสโซโก้ กองกลางชาวฝรั่งเศส ลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ซัดเบาเกินไป

  นาที 45 มาติเยอร์ เดอบูชี่ แบ๊กจอมบุกของเจ้าบ้านมีโอกาสส่องไกลจากระยะ 25 หลา แต่ไม่ตรงกรอบ

  หมดครึ่งแรกทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกัน 0-0

  เริ่มต้นครึ่งหลังเป็นฝ่ายเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่าและมีโอกาสลุ้นหลายครั้ง นาที 58 โยฮัน กาบาย กองกลางของนิวคาสเซิลมีโอกาสส่องไกลอีกครั้งบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกไป

  นาที 60 โยฮัน กาบาย เปิดบอลเข้ามาให้โชล่า อเมโอบี้ หัวหอกตัวเก๋าโหม่งตั้งให้ โลอิก เรมี่ แต่บอลยังตรงตัวปีเตอร์ เช็ก

  จนกระทั่งนาที 68 เจ้าบ้านเป็นฝ่ายได้เฮก่อน โยฮัน กาบาย โยนฟรีคิกจากระยะกว่า 40 หลา บอลพุ่งเข้ามาในกรอบเขตโทษ โยอัน กุฟฟร็อง พุ่งโหม่งเต็มหัว นิวคาสเซิลนำ 1-0 

  หลังจากนั้นทีมเยือนมีโอกาสลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อินวาโนวิช เปิดบอลให้กับซามูเอล เอโต้ หัวหอกตัวสองซัดแต่บอลแฉลบกองหัลงเจ้าบ้าน ในนาที 73

  ช่วงท้ายเกม เจ้าบ้านมาได้ประตูตอกฝาโลงจากจังหวะที่ กาเบรียล โอแบร์กต็อง ทำชิ่งกับ อนิต้า ก่อนจะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้โลอิก เรมี่ได้ซัดเต็มๆ บอลพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม 

  จบเกมนิวคาสเซิล เปิดบ้านเอาชนะ เชลซี 2-0

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์