ตบสาวไทยระเบิดฟอร์มล้างตาสาวซามูไร

ตบสาวไทยระเบิดฟอร์มล้างตาสาวซามูไร


การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง “ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 17” ที่ยิมส์เนเซียมชาติชายฮอลล์ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ทีมสาวไทย อันดับ 16 ของโลก ลงสนามในรอบ 2 พบกับคู่ปรับเก่า ญี่ปุ่น ทีมอันดับ 3 ของโลก โดย “โค้ชอ๊อด” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมสาวไทย ส่งผู้เล่นชุดแรก ประกอบด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ (กัปตันทีม), ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, ทัดดาว นึกแจ้ง, นุศรา ต้อมคำ, ฐาปไพพรรณ ไชยศรี โดยมี ปิยะนุช แป้นน้อย เป็นตัวรับอิสระ


เริ่มเซตแรกสาวไทยเป็นฝ่ายเริ่มเกมได้ดีกว่า ฐาปไพพรรณ ตีทำแต้มให้ไทยนำ 6-0 จากนั้นญี่ปุ่นมาได้แต้มจากซาโอริ แต่สาวไทยก็ยังโจมตีทำแต้มได้ต่อเนื่อง วิลาวัณย์ ตีทิ้งห่างให้ไทย 12-1 รูปเกมยังคงเป็นสาวไทยที่ทำได้ดีกว่าทั้งการทำแต้มและบล็อกที่เหนียวแน่น ในขณะที่สาวญี่ปุ่นเล่นผิดพลาดกันเองบ่อยครั้ง ปลื้มจิตร์ ตีให้ไทยนำ 24-12 และเป็น อรอุมา ที่หยอดลูกปิดเซตให้ไทยชนะไป 25-15

เซต 2 เริ่มต้นด้วยความสูสีไทยและญี่ปุ่นผลัดกันทำแต้มจนมาเสมอกันที่ 6-6 จากนั้นเป็นฝ่ายไทยที่ต้องทำแต้มจี้ไล่ญี่ปุ่น ก่อน อรอุมา ตีเสมอให้ไทย 13-13 รูปเกมยังคงเป็นไปด้วยความสูสี ทัดดาวและอรอุมา ช่วยกันทำแต้มให้ไทยไล่ตาม 20-21 ช่วงท้ายสาวไทยเล่นได้ไหลลื่นขึ้นแท่นไปก่อน 24-22 และแต้มสุดท้ายเป็นญี่ปุ่นที่ตีออกเอง ไทยชนะไป 25-23 นำอยู่ 2-0 เซต


เซตที่ 3 เป็นฝ่ายญี่ปุ่นเริ่มได้ดีกว่านำไปก่อน 10-7 แต่จากนั้นสาวไทยมาไล่ตีเสมอได้จาก อรอุมา 15-15 แต้มยังคงไม่ทิ้งห่างกันมากนัก วิลาวัณย์ ตีให้ไทยเสมอ 23-23 แต่สุดท้ายเป็นญี่ปุ่นที่ปิดเซตไปได้ ไทย พ่ายไป 23-25 เซตที่ 4 ไทยกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้ง อรอุมา และทัดดาว ทำแต้มได้ดี นำไป 9-5 ไทยยังคงเล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม ฐาปไพพรรณ ตีให้ไทยนำไป 11-7 แต่จากนั้นเกมไทยหลุดไปดื้อ ญี่ปุ่นไล่ตามมา 20-20 รูปเกมเป็นไปอย่างสุดลุ้นแต้มเบียดแบบไม่ห่างกันจนเสมอกัน 24-24 ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกันง่ายๆ สุดท้ายเป็น วิลาวัณย์ ที่ปิดเกมให้ไทยชนะไป 30-28



สรุป ไทย ชนะ ญี่ปุ่น 3-1 เซต 25-15, 25-23, 23-25, 30-28
ล้างเค้นญี่ปุ่นได้สำเร็จพร้อมเก็บ 3 คะแนนแรกในรอบที่ 2

แต่ยังต้องลุ้นเข้ารอบเป็นอันดับที่ 1 ในนัดต่อไป ที่จะพบกับ เวียดนาม
ในวันที่ 17 ก.ย. ที่ยิมส์เนเซียมชาติชายฮอลล์ เวลา 14.00 น.


ส่วนญี่ปุ่น จะไปพบ คาซัคสถาน เวลา 16.30 น.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์