เต็มที่แล้ว!เบลซัดสุดตีนไก่ทิ่มแมวสิบตัว 1-0 ยังแห้วชปล.

เต็มที่แล้ว!เบลซัดสุดตีนไก่ทิ่มแมวสิบตัว 1-0 ยังแห้วชปล. 

ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์สพยายามเต็มที่แล้วกับการไขว่คว้าโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีกที่นั่งสุดท้ายหลังแกเร็ธ เบลกระหน่ำบอลจากระยะ 30 หลาเป็นประตูชัยให้ทีมเบียดชนะซันเดอร์แลนด์ที่เหลือสิบคน 1-0 แต่ผลคู่อาร์เซน่อลดันไม่เข้าทางเลยจำใจต้องไปเล่นแค่ยูโรป้า ลีก 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556
 

 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ 1 : 0 ซันเดอร์แลนด์  

สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน 

ประตู : 1-0 แกเร็ธ เบล น.89
 

ซันเดอร์แลนด์เอาชนะสเปอร์สได้หนเดียวตลอดการพบกัน 8 ครั้งท้ายบนลีกสูงสุด 

สเปอร์สได้เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้สลัดคราบเดี้ยงกลับมาประจำการแนวรับฝั่งซ้ายพร้อมวางอารอน เลนน่อน, แกเร็ธ เบลและ คลินท์ เดมพ์ซี่ย์ประสานเกมบุกหลังเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ โดยมีเป้าหมายแซงอาร์เซน่อลที่อยู่เหนือกว่าแต้มเดียวคว้าตั๋วใบสุดท้ายไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก 

ซันเดอร์แลนด์ไม่มีสเตฟาน เซสเซญองกับเคร็ก การ์ดเนอร์ที่ติดโทษแบน แถมเกมนี้้ต้องถอยมิดฟิลด์โดยธรรมชาติอย่างแจ็ค คอลแบ็คกับเซบาสเตียน ลาร์สสันลงไปเล่นฟูลแบ็คทั้งสองข้าง ส่วน คอนเนอร์ วิคแฮมหายเจ็บกล้ามเนื้อน่องลงจับคู่แดนนี่ เกรแฮมล่าตาข่าย 

ครึ่งแรก 

อเดบายอร์ยิงทักทายตั้งแต่ต้นเกม 
เปิดฉากมาสเปอร์สลุยเข้าใส่ซันเดอร์แลนด์ทันทีแล้วเพียงนาที 5 ก็มีโอกาสจบสกอร์ในจังหวะที่อเดบายอร์ควบบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษด้านขวาก่อนยิงยัดที่เสาแรกโดนมิโญเล่ต์ปัดทิ้งไว้ได้ 

เบลโดนจดชื่อข้อหาพุ่งล้ม 
นาที 20 สเปอร์สน่าได้จุดโทษเมื่อเบลไปโดนลาร์สสันผลักอย่างชัดเจนจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินกลับมองว่าปีกเลือดเวลส์พุ่งล้มเลยแจกใบเหลืองให้เล่นเอาเจ้าตัวรวมถึงสาวก"ยิดอาร์มี่"เซ็งกันเลยทีเดียว 

แมวมีสวนแต่ไม่ผ่านญอริส 
แต่ซันเดอร์แลนด์ก็ไม่ยอมโดนเล่นอยู่ข้างเดียว เมื่อนาที 31 เกรแฮมลากบอลขึ้นมาทางด้านขวาก่อนเปิดมาเสาแรกให้วิคแฮมเข้าสังหารแต่เจอซูเปอร์เซฟของญอริสสกัดออกหลังไปได้ 

ไก่เดือยทองตีปีกบุกต่อเนื่อง 
นาที 35 สเปอร์สทำเกมบุกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเลนน่อนเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาให้เบลสับไกยิงไปติดบล็อกของโคลแบ็ค ซึ่งดาวเตะทีมชาติเวลส์มองว่าอีกฝ่ายใช้มือสกัดแต่กรรมการก็ไม่ได้ว่าอะไร 

เบลหวดฟรีคิกน่ากลัวสาด 
อีกห้านาทีถัดมา"ไก่เดือยทอง"ได้โอกาสลุ้นจบสกอร์ผ่านทางเบลที่ได้หวดฟรีคิกระยะ 30 กว่าหลาแต่ยังปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงพุ่งไปที่เสาซ้ายร้อนถึงมิโญเล่ต์ต้องบินปัดทิ้งกันเลยทีเดียว 

โอเชียออกลายอีกแล้ว 
ท้ายครึ่งแรกนาที 41 โอเชียหวิดมอบโชคให้เจ้าบ้านเมื่อเขาพยายามโหม่งบอลที่สเปอร์สบอมบ์เข้ามาคืนหลังให้มิโญเล่ต์แต่คุมทิศทางไม่ไดีจนเปิดโอกาสให้เบลตามไปเหยียดเท้าทิ่มบอลออกหลัง 

ครึ่งหลัง 

เลนน่อนเก็บตกบอลก่อนส่องออกหลัง 
กลับมาเล่นครึ่งหลังยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว แล้วพอถึงนาที 47 เลนน่อนก็เก็บบอลได้ที่หน้ากรอบเขตโทษก่อนล็อคหนีตัวประกบไปสับไกยิงด้วยอีซ้ายระยะ 25 หลาหลุดเสาออกไป 

เกมชักมัน ผลัดกันสวน 
นาที 49 ฮัดเดิ้ลสตันไปพลาดเสียบอลในแดนตัวเองก่อนที่วิคแฮมไหลบอลออกซ้ายให้เกรแฮมลากหนีดอว์สันไปยิงติดเซฟญอริส ไม่กี่อึดใจให้หลังสเปอร์สสวนกลับขึ้นมาแล้วเป็นอเดบายอร์ที่หมุนตัวยิงแถวหัวกระโหลกไปติดแขนของกูเอญาร์ซึ้งล้มตัวบล็อกในกรอบเขตโทษแต่กรรมการก็ไม่ว่าอะไร 

ไก่ไม่พกดวงยิงยังไงก็ไม่เข้า 
สเปอร์สน่าได้ประตูขึ้นนำสุดๆในนาที 63 เมื่อแฟร์ทองเก้นโยนบอลจากซ้ายเข้ามาแล้วมิโญเล่ต์ออกไปคว้าบอลไม่ดีจนเดมพ์ซี่ย์จิ้มคืนหลังให้พาร์คเกอร์แต่งหาจังหวะจนได้ยิงไปติดบล็อกโคลแบ็คที่ยืนคุมหน้าเส้นแล้วบอลกระดอนไปเข้าทางเลนน่อนหวดสวนคืนมาก็ยังแฉลบโคลแบ็คไปชนเสาอีก

เบลสุดยอดแต่มิโญเล่ต์เยี่ยมกว่า 
นาที 71 "ไก่เดือยทอง"บอมบ์บอลจากแดนหลังขึ้นมาข้างหน้าเข้าทางเบลเอาบอลลงด้วยอกก่อนโยกหนีโคลแบ็คไปทางซ้ายแล้วขยับมาขวาก่อนสับไกยิงไปติดเซฟของมิโญเล่ต์ที่ปรี่มาบล็อกได้เร็ว 

แมวลำบาก..วอห์นถูกไล่ 
สี่นาทีให้หลังสถานการณ์ของ"แมวดำ"แย่ลงเมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นสิบคนในจังหวะที่วอห์นตามความเร็วของเบลไม่ไหวจนเผลอไปตัดฟาวล์รับใบเหลืองที่สองถูกเชิญออกจากสนามทันที 

เบลสุดเจ๋งกดระยะ 30 หลาตุงตาข่าย 
นาที 89 เบลโชว์ความสุดตีนด้วยการขยับหนีตัวประกบจากทางด้านขวาตัดเข้าในมาปั่นบอลโค้งที่ระยะ 30 หลาอ้อมมือมิโญเตืเข้าเสียบเสาไกลอย่างงามเวอร์ๆให้สเปอร์สออกนำ 1-0 นอกจากนี้เบลยังทำสถิติทาบเท็ดดี้ เชอริงแฮมที่ลั่นสกอร์ในลีกมากสุดของสโมสรต่อหนึ่งซีซั่นด้วยจำนวน 21 ประตู 

อย่างไรก็ดีแม้จบเกมสเปอร์สจะโค่นซันเดอร์แลนด์ลงได้ตามเป้าด้วยสกอร์ 1-0 แต่เพราะอาร์เซน่อลดันคว่ำนิวคาสเซิ่ลได้เช่นกันทำให้พวกเขาจบแค่อันดับ 5 ของตารางได้ไปเตะแค่ยูโรป้า ลีก 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

สเปอร์ส : 
อูโก้ ญอริส, ไคล์ วอล์คเกอร์, แยน แฟร์ทองเก้น, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ (กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน น.83), สกอตต์ พาร์คเกอร์ (มุสซ่า เดมเบเล่ น.64), ทอม ฮัดเดิ้ลสตัน, อารอน เลนน่อน, แกเร็ธ เบล  , คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ (เจอร์เมน เดโฟ น.73), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 

สำรองไม่ได้ใช้ : แบร็ด ฟรีเดล, ไคล์ นอห์ตัน, สตีเว่น คอลเกอร์, เลวิส โฮลท์บี้ 

เทรนเนอร์ : อังเดร วิลลาส โบอาส 

ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโญเล่ต์, การ์ลอส กูเอร์ญ่า, จอห์น โอเชีย, แจ๊ค คอลแบ็ค, เจมส์ แม็คคลีน  (บิลลี่ น็อตต์ น.74), เดวิด วอห์น , เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลเฟรด เอ็นดิเย่, อดัม จอห์นสัน, แดนนี่ เกรแฮม (มิกาเอล ม็องดร็อง น.74 ), คอนเนอร์ วิคแฮม(อดัม มิตเชลล์ น.88) 

สำรองไม่ได้ใช้ : คีแรน เวสต์วู้ด, เลียม มาร์ส, เดวิด เฟอร์กูสัน, สก็อตต์ แฮร์ริสัน 

เทรนเนอร์ : เปาโล ดิ คานิโอ 

ผู้ตัดสิน : อังเดร มาริเนอร์ 



 
 


 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์