สองโทษเปลี่ยนเกม!มิลานนำก่อนโดนฟิออฯ 10 คนไล่ตีเจ๊า 2-2

สองโทษเปลี่ยนเกม!มิลานนำก่อนโดนฟิออฯ 10 คนไล่ตีเจ๊า 2-2 

เอซี มิลานต้องเซ็งกันไปหลังอุตส่าห์นำก่อนถึงสองลูกด้วยฝีมือของมอนโตลิโว่กับฟลามินี่แถมฟิออเรนติน่าเหลือ 10 คนอีกแต่สุดท้ายมาโดนสองจุดโทษจนทำให้เกมจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 อดแซงนาโปลีขึ้นไปอยู่อันดับ 2 

ฟุตบอลเซียเรีย อา อิตาลี 

สนาม : อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ 

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน 2556
 

ฟิออเรนติน่า 2:2 เอซี มิลาน 

ประตู
 : 0-1 มอนโตลิโว่ น.14, 0-2 ฟลามินี่ น.62, 1-2 ลายิช(จุดโทษ) น.66, 2-2 ปิซาร์โร่(จุดโทษ) น.72 
 
คลิปไฮไลท์ กัลโช่ เซเรีย อา ฟิออเรนติน่า 2-2 เอซี มิลาน
 

เจ้าบ้านฟิออเรนติน่ามีข่าวดีได้สเตฟาน โยเวติชกลับมายืนกองหน้าให้แล้ว ส่วนเอซี มิลานมาครบทุกตำแหน่งไม่มีขาด เกมนี้มีความสำคัญที่ทั้งคู่กำลังขับเคี่ยวแย่งอันดับ 3 เพื่อแชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ โดย"รอสโซเนรี่"ฟอร์มหรูชนะมา 4 นัดหลังสุดในลีกแถมเก็บคลีนชีทเรียบอีก

ครึ่งแรก 

มิลานเฮเก้อ!บัวเต็งยิงไกลเข้าไปแต่ไม่ได้ 
เริ่มต้นเกมมิลานบุกกดดันเข้าใส่เลยแล้วก็ได้เฮเก้อกันไปทีนึงจากจังหวะเตะมุมได้ขึงหน้าเขตโทษแล้วบอลมันหลุดมาถึงอบาเต้เปิดย้ำเข้าเขตโทษไปหาบาโลเตลลี่พักอกคืนมาให้กับบัวเต็งซัดแบบไม่ต้องจับเข้าประตูเลย แต่ก็ไม่ได้เพราะกรรมการจับล้ำหน้าบาโลเตลลี่ไปก่อน 

ศิษย์เก่าจัดให้!มอนโตลิโว่ยิงเสียบเสาหมดจด 
แล้วนาทีที่ 14 "รอสโซเนรี่"ก็มาได้ประตูออกนำก่อนจนได้จากจังหวะความขยันของมอนโตลิโว่ศิษย์เก่าฟิออเรนติน่านี่เองที่ไปไล่แล้วแย่งบอลมาจากปิซารโร่มาได้ก่อนหลุดมาถึงเขตโทษมีทางบาโลเตลลี่ทางขวาแต่ไม่สนขอยิงเองเลยส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ มิลานออกนำเรียบร้อย 1-0 

มิลานได้บุกกันมาเรื่อย 
เกมรุกของมิลานดูไหลลื่นกว่าของฟิออฯพอสมควรหนนี้ได้โอกาสโต้กลับบอลออกไปให้เอล ชาราวี่ทางซ้ายก่อนกระดกขึ้นหน้าให้กับมุนตารี่เติมกระดกออกไปทางขวาให้กับบาโลเตลลี่อีกทีก่อนจบบด้วยจ่ายไปตรงกลางแล้วมีเอล ชาราวี่วิ่งมายิงเสียดายบอลหลุดกรอบพอสมควร 

ปาสกลาวสังหารฟรีคิกแต่เลี้ยวหลุดเสา 
โอกาสได้ลุ้นหนแรกของ"ม่วงมหากาฬ"มาแล้วเป็นโยเวติชที่โดนเสียบเอาระยะเกือบ 30 หลาหน้าเขตโทษกรรมการให้เป็นฟรีคิกแล้วปาสกวาลมารับหน้าที่สังหารเองยิงด้วยซ้ายผ่านกำแพงมาแล้วแต่บอลก็โค้งหลุดเสาแรกออกหลังไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น 

หนูเอลได้โขกแต่วิเวียโน่ปัดได้ 
นาที 33 เกือบเป็นลูกที่สองของมิลานแล้วจากจังหวะลูกเตะมุมทางขวาของมอนโลิโว่ที่เปิดยาวเข้าไปในเขตโทษแล้วถึงหัวของเอล ชาราวี่พุ่งเข้ามาโขกเต็มๆแต่วิเวียโน่ก็ยังยืนตำแหน่งถูกเลยผวาปัดออกมาได้แบบเฉียวฉิวเลย 

โยเวติชได้สับไกยังไม่ผ่านอับเบียติ 
แล้วจังหวะต่อเนื่องเป็นบอลโต้กลับของฟิออเรนติน่ามาจนโดนตัดเกมฟาวล์ไว้ ก่อนเล่นฟรีคิกเล่นสั้นฝากไปให้กับโยเวติชหน้าเขตโทษได้โอกาสสับไกบอลไปกระดอนพื้นทีนึงทำอับเบียติเสียจังหวะแต่ยังเซฟได้ก่อนจะลุกขึ้นมารับบอลที่ลอยโด่งเข้ามือ 

ม่วงเดือดร้อน!โตโมวิชศอกหนูเอลโดนแดง 
แต่งานเข้าเจ้าบ้านซะแล้วถึงกับโวยยกใหญ่เลยหลังพวกเขาต้องมาเหลือเพียงแค่ 10 คนเท่านั้นจากจังหวะที่เอล ชาราวี่วิ่งไปจะฉกบอลจากโมโตวิชที่จับบอลพลาดแล้วเบียดกันก่อนโมโตวิชออกศอกใส่หน้าเอล ชาราวี่ลงไปนอน กรรมการวิ่งมาไม่ลังเลควักแดงไปให้เลย 

ยังไม่พอ...โยเวติชเจ็บโดนเปลี่ยนอีก 
ช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกฟิออฯยังเจอข่าวร้ายถาโถมเข้าไปอีกเพราะโยเวติชที่อุตส่าห์ลงสนามในเกมนี้ได้ก็มาเจ็บจนสุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวออกไปก่อน แถมพวกเขายังไม่ได้ประตูไล่ตีเสมออีกจากจังหวะฟรีคิกเข้าไปแล้วบอลหลุดถึงอควิลานี่โหม่งโดนบางไปบอลเลยลอยโด่งย้อนหลังแทนที่จะเข้าหากรอบ จบครึ่งแรกมิลานจึงนำอยู่ 1-0 

ครึ่งหลัง 

ฟลามินี่ได้สับติดเซฟ-โอ้ซ้ำยังข้ามคาน 
ครึ่งหลังกลับมาเตะกันฟิออฯยังไม่ถอดใจวิ่งไล่บอลกันตลอดแต่ก็ยังมีช่องให้มิลานได้โอกาสลุ้นประตูอยู่ดีจากทางขวาที่อบาเต้ทำชิ่งกับกับบัวเต็งก่อนตักบอลเข้าเขตโทษให้กับฟลามินี่สอดมายิงด้วยขวาติดเซฟวิเวียโน่ บอลย้อนหลังบาโลเตลลี่เลยต้องวิ่งถอยไปตวัดยิงซ้ำทีนี้ข้ามคานออกไป 

สองจนได้!ฟลามินี่ชาร์จเผาขนตุงตาข่าย 
ผ่านไปแล้ว 60 นาที"ชาวม่วง"พยายามจะหาช่องเจาะเข้าใส่แต่ไม่ได้จนสุดท้ายทีมเยือนก็มาบวกประตูเพิ่มลูกที่สองเข้าจนได้จากจังหวะฟรีคิกทางริมเส้นขวาที่เล่นสั้นกันให้มอนโตลิโว่มาทางริมเขตโทษก่อนจะเปิดบอลเข้าในมาและเป็นฟลามินี่โฉบมาแปส่งบอลเปลี่ยนทางเข้าเสาไกลไป มิลานทิ้งห่างเป็น 2-0 

ไม่ยอม!ลายิชสังหารโทษไล่มาแล้ว 
ให้หลังมาไม่กี่นาทีทาง"ม่วงมหากาฬ"ยังได้ลูกฮึดหน่อยไล่ตีไข่แตกมาแล้วจากการโชว์เดี่ยวของลายิชเลื้อยพาบอลเข้ากรอบเขตโทษล็อกหลอกหลบมาเรื่อยจนโดนโนเชริโน่ฟาวล์เข้าให้กรรมการแจกจุดโทษให้ ก่อนสุดท้ายลายิชจะลุกขึ้นมาสังหารเองยิงเข้ากลางประตูเลย ฟิออเรนติน่าไล่มาเป็น 2-1 

โอ้ปั่นฟรีคิกเข้าข้างตาข่าย 
"รอสโซเนรี่"เกือบได้ทิ้งห่างเพิ่มออกไปอีกแล้วจากลูกฟรีคิกที่บาโลเตลลี่ปะทะกับอควิลานี่ล้ม ทางฝั่งฟิออฯก็ไม่พอใจหนักเพราะรู้สึกกรรมการแจกง่ายเหลือเกินแต่ก็ไม่ได้มีผลอะไร สุดท้ายบาโลเตลลี่ก็เป็นคนสังหารฟรีคิกที่เยื้องมาทางซ้ายหน่อยๆเองปั่นบอลโค้งเข้าข้าตาข่าย 

โดนอีกดอก!ปิซาร์โร่กดจุดโทษฟิออฯเจ๊าเฉย 
นาที 72 มิลานถึงกับเซ็งเลยหลังต้องมาโดนจุดโทษอีกลูกจากบอลโยนมาให้กัวดราโด้ทางขวาจับบอลก่อนจะแตะเข้าในแล้วเด ชีโญ่ยื่นขามาแหย่ไว้จนล้มลง กรรมการก็แจกให้อีกหนแล้วคราวนี้เป็นปิซาร์โร่บ้างมาสังหารจุดโทษให้เลือกยิงไปทางขวาอับเบียติอุตส่าห์บินมาปัดได้แล้วแต่ไม่พอเพราะบอลแรงเหลือเกิน สุดท้ายฟิออเรนติน่าตีเสมอเป็น 2-2 สำเร็จ 

เนียง,ปาซซินี่ลงมาเสริมเกมรุกแล้ว 
เข้าช่วง 10 นาทีท้ายอัลเลกรีเฉยไม่ได้แล้วต้องเสริมเกมรุกด่วนให้ทั้งเนียงกับปาซซินี่ลงสนามมาช่วยล่าประตูชัยให้แต่ก็ยังทำอะไรเกมรับของฟิออเรนติน่าไม่ได้มาก 

มิลานประท้วงน่าได้แฮนด์บอล 
ช่วงทดเจ็บมิลานก็ประท้วงอยากได้จุดโทษเหมือนกันจากจังหวะเตะมุมแล้วมีตัวโหม่งมาชนแขนของรอนคาญ่าผู้ตัดสินมองเห็นแล้วแต่เลือกจะนิ่งไม่เป่าเป็นจุดโทษแต่อย่างใด 

สุดท้ายก็จบเกมมิลานเสมอกับฟิออเรนติน่าไป 2-2 ทำให้ต้องหยุดชัยชนะรวดไว้ที่ 4 นัด ขยับไปมีแต้มตามหลังนาโปลีอยู่คะแนนเดียวแต่แข่งมากกว่าเกมนึง แต่ช่องว่างของมิลานกับฟิออฯที่ลุ้นอันดับ 3 กันอยู่ก็ยังห่าง 6 คะแนนเท่าเดิม 

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 

ฟิออเรนติน่า
 : เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ 7.0, ฟาคุนโด้ รอนคาญ่า 5.0, สเตฟาน ซาวิช 5.5 (คอมป์เปอร์ น.30 6.0), มานูเอล ปาสกวาล 7.0, เนนาด โทโมวิช 5.5, ดาวิด ปิซาร์โร่ 5.5, อัลแบร์โต้ อควิลานี่ 6.0, บอร์ฆ่า บาร์เลโร่ 7.0, ฮวน กัวดราโด้ 6.0, อดัม ลายิช8.0 (มิญาคโช่ น.82 -), สเตฟาน โยเวติช 5.5 (โรมูโล่ น.45 6.0) 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : เนโต้, คริสเตียนโน่ ลูปาเตลลี่, โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้, คริสเตียน ญาม่า, ราฟาล โวลสกี้, มาร์เซโล่ ลาร์รอนโด้, เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสชี่, ลูก้า โทนี่ 

เอซี มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ 7.0, มัตเตีย เด ชีโญ่ 6.6, ฟิลิปป์ แม็กแซส 6.0, คริสเตียน ซาปาต้า 6.0, อิกนาซิโอ อบาเต้ 6.0, ซัลเลย์ มุนตารี่ 6.0 (โนเชริโน่ น.45 5.5), มาติเยอ ฟลามินี่ 7.0 (เนียง น.78 -), ริคาร์โด้ มอนโตลิโว่ 8.0*, เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง 7.0 (ปาซซินี่ น.83 -), สเตฟาน เอล ชาราวี่ 5.5, มาริโอ บาโลเตลลี่ 5.0 

สำรองไม่ได้ลงสนาม : กาเบรียล, มาร์โก้ อเมเลีย, ดานิเอเล่ โบเนร่า, มาริโอ เยเปส, ลูก้า อันโตนินี่, คริสเตียน ซาคคาร์โด้, เควิน ก็องสต็องท์, โรบินโญ่, โบยาน เกร์กิช
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์