ย้ำแค้น!รามอสโขกราชันซิวต่างดาวหวิว 2-1 ไล่ 13 แต้ม


 
เซร์กิโอ รามอสกลายเป็นฮีโร่โขกขั้นเมพพาเรอัล มาดริดสอยบาร์เซโลน่าเครื่องพังติดต่อกันเป็นนัดที่สองด้วยสกอร์ 2-1 โดยหลังจบเกมบิคตอร์ บัลเดสมาโดนใบแดงเพราะไปด่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากรรมการฐานที่ไม่ให้จุดโทษแก่ฝ่ายตน ทำให้ตอนนี้ราชันชุดขาวบีบช่องว่างเหลือ 13 แต้มกับเกมที่ยังเหลือให้เล่นอีก 12 นัด

ฟุตบอลลาลีกา

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2556


เรอัล มาดริด 2 : 1 บาร์เซโลน่า

สนาม : ซานติอาโก้ เบร์นาเบว

ประตู : 1-0 คาริม เบนเซม่า น.6, 1-1 ลิโอเนล เมสซี่ น.18, 2-1 เซร์กิโอ รามอส น.82


โจเซ่ มูรินโญ่ดร็อปตัวหลักอย่างซามี่ เคห์ดิร่า, ชาบี อลอนโซ่, เมซุต โอซิลและคริสติอาโน่ โรนัลโด้ไว้ข้างสนามเพื่อรับมือเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกลางสัปดาห์กับแมนฯยูโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดีแผงหลังยังเป็นขุมกำลังตัวจริงทั้งหมด โดยมีริคาร์โด้ กาก้าปั้นเกมให้คาริม เบนเซม่าล่าตาข่าย

ฆอร์ดี้ รูร่าหวังล้างอายจากการโดนเรอัล มาดริดเขี่ยตกรอบโกปา เดล เรย์เลยัดชุดใหญ่ลงเต็มสูบมีลิโอเนล เมสซี่ค้ำหน้า ขณะที่อันเดรส อิเนียสต้าบัญชาเกมแดนกลางร่วมกับติอาโก้ อัลคันตาร่าซึ่งได้เล่นแทนชาบี เอร์นานเดซที่ได้รับบาดเจ็บ

ครึ่งแรก

คึกจริง!เบนเซม่ามาถึงยิงเลย
เปิดฉากมาได้ 6 นาทีเรอัล มาดริดเล่นงานใส่บาร์เซโลน่าทันทีเมื่อโมราต้าลากบอลหนีอัลเวสทางด้านซ้ายก่อนครอสมาให้เบนเซม่าแปที่เสาไกลเข้าไปอย่างง่ายดายให้เจ้าบ้านนำ 1-0


แนวรับบาร์ซ่าสร้างสถิติสุดกาก
การพลาดท่าให้เบนเซม่าทะลวงตาข่ายทำให้อาซูลกราน่าเสียประตูติดต่อกันเป็นนัดที่ 13 ซึ่งครั้งสุดท้ายที่แนวรับพวกเขาย่ำแย่เช่นนี้คงต้องย้อนไปถึงปี 1962 เลยทีเดียว

สุดตีน!เมสซี่หนีรามอสเข้าสังหารดื้อๆ
อย่างไรก็ตามพอถึงนาที 18 ยอดทีมแคว้นคาตาลันก็มาตีเสมอ 1-1 เมื่อเมสซี่รับบอลจากอัลเวสเข้าไปดวลกับรามอสทางด้านขวาของเขตโทษก่อนลากตัดเข้าในมายิงยัดเสาแรกตุงตาข่าย

เมสซี่ยิงเอล กลาซิโก้เท่าตำนานราชัน
ประตูที่เมสซี่ทำได้ส่งผลให้ยอดสอยตาข่ายในเอล กลาซิโก้เทียบเท่ากับตำนานเรอัล มาดริดอย่างอัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่ที่ 18 ลูกแถมยังเป็นการจัดประตูที่ 50 ของซีซั่นในทุกรายการด้วย

บาร์ซ่าปรับตัวสู้ได้ดี
ทีมของรูร่าเล่นได้ดีขึ้นหลังโดนเบนเซม่ายิงประตูขึ้นนำก่อน โดยพวกเขาต่อบอลได้ดูดีกว่าเกมเมื่อวันอังคาร ขณะที่อิเนียสต้าก็มีพื้นที่ในการสร้างสรรค์เกมมากกว่าตอนที่มีเชสอยู่ในสนาม

เมสซี่สับไกหน้าเขตโทษตรงตัว
นาที 32 บีญ่าพาบอลลุยขึ้นมาทางฝั่งซ้ายก่อนผ่านเข้ากลางไปให้เมสซี่ที่บริเวณหัวกระโหลกซึ่งแข้งอาร์เจนไตน์เห็นช่องระหว่างรามอสกับวารานเลยจัดการซัลโวบอลพุ่งไปตรงตัวโลเปซ

โมราต้าสอดมาโหม่งนึกว่าเข้า
เจ้าบ้านน่าได้ประตูนำอีกครั้งในนาที 39 เมื่อโมดริชได้จังหวะตั้งป้อมเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งขวาข้ามไปให้โมราต้าทีวิ่งสอดขึ้นมาเข้าโหม่งที่เสาไกลไปเข้าตาข่ายข้างทำให้สกอร์หยุดอยู่ที่ 1-1

ครึ่งหลัง

บาร์ซ่าเล่นชิ่งเกือบได้เฮ
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 52 บาร์ซ่าใช้รูปแบบการเข้าทำอย่างที่ถนัดเมื่อเมสซี่ได้บอลที่หัวกระโหลกก่อนไหลออกขวาให้อัลเวสที่โอเวอร์แล็ปขึ้นมาเปิดย้อนกลับมาให้ชาร์จแต่ไม่ทัน


วานรานซูเปอร์บล็อก
นาที 58 อาซูลกราน่าน่าเป็นฝ่ายขึ้นนำบ้างเมื่อเมสซี่ไหลบอลให้บีญ่าหลุดเข้าไปล่อเป้าโลเปซในกรอบเขตโทษด้านซ้ายทว่าวารานโผล่เข้ามาในห้วงวินาทีสุดท้ายบล็อกบอลออกหลังได้ทัน

โด้ลงมาถึงเรียกใบเหลืองจากปิเก้เลย
นาทีถัดมาโรนัลโด้ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทนเบนเซม่าก็มาสับขาหลอกกินฟาวล์จากปิเก้นอกกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายจนทำให้อดีตกองหลังแมนฯยูรับใบเหลืองไปตามระเบียบ

ฟรีคิกโด้เกือบทำงาน
นาที 65 เปเป้มาเรียกฟาวล์พ่วงใบเหลืองจากทางอัลกันตาร่าได้แล้วก็เป็นโรนัลโด้ที่ก้าวมาซัดฟรีคิกจากระยะ 35 หลาบอลพุ่งเข้าหากรอบประตูแต่บัลเดสดีดตัวปัดบอลออกหลังได้ได้

โด้โซโล่เกือบได้ลุ้นจังหวะสุดท้าย
พอเรอัล มาดริดส่งโรนัลโด้ลงมาเกมรุกของพวกเขาก็เหมือนปลากระดี่ได้น้ำหลังนาที 70 ปีกโปรตุกีสเล่นลากบอลฝ่าด่านกองหลังบาร์เซโลน่าเข้าไปทางซ้ายของเขตโทษแล้วกดเข้าข้างตาข่าย

โมราต้าโยนโอกาสทองทิ้งเฉย
โลส บลังโกสสมควรขึ้นนำอีกครั้งอย่างถึงที่สุดในนาที 76 เมื่อเปเป้จ่ายบอลสุดเนียนให้โมราต้าหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดติดเซฟของบัลเดสนิดเดียวทำให้บอลเบนทิศพ้นกรอบประตูไป

รามอสเหินมาโขกไม่เหลือซาก
แต่แล้วนาที 82 เรอัล มาดริดก็มาบวกลูกสองได้สำเร็จเมื่อโมดริชเปิดลูกเตะมุมทางด้านซ้ายมาที่เสาแรกแล้วรามอสที่เทคตัวได้สูงกว่าปิเก้ก็โหม่งเข้าตุงตาข่ายให้ทีมนำอีกครั้ง 2-1

โรนัลโด้ปั่นฟรีคิกโหดชนเสาสนั่น
นำลูกเดียวเหมือนจะไม่พอสำหรับฝั่งเรอัล มาดริดภายหลังนาที 87 โรนัลโด้ได้จังหวะปั่นฟรีคิกระยะถนัดซึ่งก็ตะบันเต็มข้อไปกระแทกเสาอย่างจังชนิดบัลเดสหมดสิทธิป้องกันไปแล้ว

จบเกมเรอัล มาดริดเปิดบ้านย้ำแค้นบาร์เซโลน่าต่อจากเกมโกปา เดล เรย์ด้วยสกอร์ 2-1 ไล่จี้ห่าง 13 คะแนนกับเกมที่ยังเหลืออีก 12 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เรอัล มาดริด :
ดิเอโก้ โลเปซ, ราฟาเอล วาราน, เปเป้, เซร์กิโอ รามอส , ฟาบิโอ โคเอนเตรา (อัลบาโร่ อาร์เบลัว น.68 ), มิชาเอล เอสเซียง, ลูก้า โมดริช , ริคาร์โด้ กาก้า (ซามี่ เคห์ดิร่า น.57), โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน, อัลบาโร่ โมราต้า , คาริม เบนเซม่า (คริสติอาโน่ โรนัลโด้ น.57)

สำรองไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, เมซุต โอซิล, กอนซาโล่ อิกวาอิน

เทรนเนอร์ : โจเซ่ มูรินโญ่

บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส , ดาเนี่ยล อัลเวส , เกราร์ด ปิเก้ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน่, ฆอร์ดี้ อัลบา , เซร์กิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า, ติอาโก้ อัลคันตาร่า , ดาบิด บีญ่า (อเล็กซิส ซานเชซ น.67), เปโดร โรดริเกวซ (อาเดรียโน่ กอร์เรอา น.77), ลิโอเนล เมสซี่

สำรองไม่ได้ใช้ : โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้, การ์เลส ปูโญล, อเล็กซ์ ซง, เชส ฟาเบรกาส, คริสเตียน เตโญ่

เทรนเนอร์ : ฆอร์ดี้ รูร่า (รักษาการณ์)






















แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck

 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์