10 เรื่องชวนหัวในฟุตบอลโลก....

ต่อกันจาก 10 เรื่องฉาวในฟุตบอลโลกครับ มาที่ 10 เรื่องชวนหัวในบอลโลกกันมั่ง...

เพราะทุกสรรพสิ่งย่อมมี 2 ด้าน บ่อยครั้งมุมมองหรือภาพสะท้อนของสิ่งใดสิ่งหนึ่งจึงไม่จำเป็น
ต้องเป็นมุมที่เราๆ ท่านๆ คุ้นเคยเสมอไป


การแข่งขัน ฟุตบอลโลก เองก็ไม่พ้นสัจธรรมข้อนี้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหลายต่อหลายครั้ง ทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
จึงไม่จำเป็นต้องเกี่ยวพันกับการฟาดแข้งแย่งบอลของคน 22 คนในสนามเพียงอย่างเดียว

เพราะยังมีมุม เบาๆ อีกมากมายที่ได้รับการบันทึกไว้เป็นเศษเสี้ยวแห่ง สีสัน ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของเวิร์ลด์คัพ
ขนาดที่สำนักข่าวบีบีซีต้องเชิญชวนแฟนๆ มาอุ่นเครื่องก่อนหน้าบอลโลก ด้วยการโหวตหาเหตุการณ์ ชวนหัว ประจำทัวร์นาเมนต์
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผ่านเว็บไซต์ของตัวเอง
ปรากฏว่ามีแฟนๆ ให้ความสนใจเข้ามากดโหวตถึงกว่า 20,000 ราย จนได้เป็น 10 อันดับเหตุการณ์ขำๆ ของบอลโลกที่เรา
นำมาฝากกันในวันนี้นั่นเอง(ไม่รวมฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดที่เยอรมัน2006)


อันดับ1

เหตุที่แฟนบอลเทใจโหวตให้เรื่องนี้เป็นอันดับ 1 มากถึง 22 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นเพราะตัวละครเอกในเรื่องเป็นคนดังของเมืองผู้ดีจาก 2 วงการนั่นเอง
หนึ่งคือ มาร์ติน โอนีล โค้ชฟุตบอลมากประสบการณ์ และอีกหนึ่งคือ ร็อบบี้ วิลเลียมส์ นักร้องดังระดับโลก
ทั้งสองโคจรมาพบกันขณะที่โอนีลทำหน้าที่คอมเมนเตเตอร์ให้กับบีบีซีช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998

ขณะที่กำลังออกอากาศสดอยู่นั่นเอง โอนีลก็ยิงมุขใส่ร็อบบี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยถอดความได้ทำนองว่า เขาขอแสดงความยินดีที่ร็อบบี้ประสบความ
สำเร็จในอาชีพนักร้องเดี่ยวของตัวเอง...ทั้งที่ว่ากันตามจริงแล้ว สมัยอยู่วง เทกแดต น่ะ ร็อบบี้ไม่เอาอ่าวทั้งร้องทั้งเต้นทั้งเล่นดนตรีเลยนี่นา

...จู่ๆ ก็มากัดกันออนแอร์แบบนี้ ไม่ใช่แค่ร็อบบี้ที่สะอึก เพราะแม้แต่แฟนบางคนยังตั้งตัวไม่ทันด้วยซ้ำไป!


อันดับ2

เหตุการณ์นี้เป็นความทรงจำเล็กๆ จากเหล่าผู้สื่อข่าวเมืองผู้ดีย้อนหลังไปในช่วงบอลโลกปี 1998 เช่นกัน

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ไม่รู้นักเตะสิงโตคำรามเกิดครึ้มอกครึ้มใจอะไร ตอนที่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรทัศน์ แทบทุกครั้งที่ถูกถาม แต่ละคนจะต้อง
พยายามโยงคำตอบของตัวเองให้เป็นชื่อเพลงดังเสียทุกครั้งไป จนบรรยากาศภายในห้องแถลงข่าวราวกับเกมโชว์ขนาดย่อมๆ ของเหล่า
ทรีไลออนส์ก็ไม่ปานทีเดียว


อันดับ3

เหตุเกิดระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา ในเกมที่ไอร์แลนด์พบกับเม็กซิโกในรอบแบ่งกลุ่ม

ขณะที่ขุนพลไอริชเป็นฝ่ายตามทีมจังโก้ 0-2 แจ๊กกี้ ชาร์ลตัน กุนซือทีมไอร์แลนด์ก็ตัดสินใจส่ง จอห์น อัลดริดจ์ อดีตซุปเปอร์สตาร์ลิเวอร์พูล
ลงไปกู้สถานการณ์
แต่ปรากฏว่า กว่าที่จะได้ลงไปเล่นจริงๆ ก็หลังจากส่งสัญญาณเปลี่ยนตัวพักหนึ่งแล้ว เพราะกรรมการมัวแต่วุ่นๆ จนไม่ทันสังเกตุ (หรือจงใจละเลย
ก็ไม่ทราบได้) ทำเอาทั้งโค้ชทั้งนักเตะถึงกับฟิวส์ขาด สบถถ้อยคำผรุสวาทเจ็บๆ คันๆ ชนิดไม่ผ่านเซ็นเซอร์ออกมาชุดใหญ่

โชคร้ายที่ไมโครโฟนถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์อยู่แถวนั้นพอดี หลังเกมวันนั้น ทั้งสองจึงโดนฟีฟ่าลงโทษไปตามระเบียบ

...ซ้ำร้าย ถึงอัลดริดจ์จะลงไปยิงประตูได้ แต่สุดท้ายไอร์แลนด์ก็ยังแพ้ 1-2 อยู่ดี


อันดับ4

หรือจะเนื่องมาจาก ลางร้าย ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง แต่ความ บังเอิญ อย่างร้ายกาจที่เวิร์ลด์คัพ 1994 เริ่มต้นและจบลงด้วยการยิงลูกโทษพลาดนั้น
ยังคงเป็นหัวข้อสนทนาสนุกปากของใครบางคนมาจนทุกวันนี้ทีเดียว

สำหรับแฟนบอลทั้งหลายย่อมต้องจำกันได้ว่าเกมชิงชนะเลิศระหว่างอิตาลีกับบราซิลในครั้งนั้นสิ้นสุดลงเมื่อ โรแบร์โต้ บาจโจ้ โกลเด้นบอยซึ่งเป็น
ฮีโร่ของอัซซูรี่มาตลอดทัวร์นาเมนต์ซัดบอลข้ามคานไปในการดวลลูกโทษลูกตัดสิน

...แน่นอนว่าบรรยากาศตอนนั้นใครๆ ก็คงขำไม่ออก แต่เหตุที่เหตุการณ์นี้ติดอันดับเข้ามาด้วย เพราะประมาณ 1 เดือนก่อนหน้านั้น ในพิธีเปิดการ
แข่งขันสไตล์ฮอลลีวู้ดที่เจ้าภาพจัดอย่างเอิกเกริก ไดน่า รอส นักร้องสาวเสียงทองรุ่นเดอะ เธอบังเอิญยิงลูกโทษเปิดการแข่งขันพลาดไปอย่าง
เหลือเชื่อ...ทั้งๆ ที่ระยะยิงมันแค่ 2 หลาเท่านั้นเอง!!


อันดับ5

เรื่องนี้หลายคนคงจำได้แม่นยำ เพราะคงไม่ใช่เรื่องธรรมดานักที่นักเตะทั้งทีมจะหัวทองอร่ามแบบผิดธรรมชาติพร้อมๆ กันอย่างนั้น

แต่มันก็เป็นไปแล้วในการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 เมื่อนักเตะโรมาเนียพร้อมใจกันโกรกผมให้เป็นสีบลอนด์อ่อน เพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย
หลังจากพวกเขาผ่านรอบแรกมาได้สำเร็จ

แต่ เคล็ด นี้ก็ได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่เวิร์กด้วยประการทั้งปวง เมื่อพลพรรคนักเตะทีมผีดิบโดนโครเอเชียเขี่ยตกรอบสองหลังเปลี่ยนสีผมใหม่
ไม่นานนั่นเอง


อันดับ6

ในอันดับนี้ แฟนๆ ต่างเทใจให้เหล่า ฮาร์ดแมน ประจำทัวร์นาเมนต์ โดยมีคนที่สมควรได้รับการเอ่ยอ้างถึงอย่างน้อย 2 คนด้วยกัน

หนึ่งคือ เบนจามิน แมสซิ่ง เซ็นเตอร์แบ๊คชาวแคเมอรูน ซึ่งโชว์ลีลา แทกเกิล เคลาดิโอ คานิกเกีย นักเตะอาร์เจนไตน์ จนตัวปลิว ในนัดเปิดสนาม
บอลโลก 1990 จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามช่วงท้ายเกม แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ช่วยทำลายจังหวะทำประตูของทีมฟ้าขาวจนทำให้แคเมอรูน
ช็อคโลกด้วยชัยชนะเหนือแชมป์เก่า 1-0 ได้นั้นแล

อีกคนคือ เฮรัลด์ ชูมักเกอร์ นายทวารทีมชาติเยอรมันตะวันตกช่วงปี 1982 และ 1986 ซึ่งยืนเด่นในประวัติศาสตร์หลังจากเหตุการณ์ในรอบรองชนะเลิศ
ในบอลโลก 1982 เมื่อเข้ากระโจนเข้าใส่ ปาทริก บาติสตง ผู้เล่นฝรั่งเศสทั้งตัว ทั้งที่โดนบาติสตงกระดกบอลข้ามหัวไปแล้วเรียบร้อย

และถ้านั่นยังเลวร้ายไม่พอ คำตัดสินของกรรมการในจังหวะนั้นกลับมีเพียงแค่ลูกเตะออกจากประตูเท่านั้นเอง!!


อันดับ7

อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้แฟนๆ อมยิ้มได้ในบอลโลกทุกสมัยเห็นจะเป็นท่าทางการแสดงอาการดีใจของเหล่านักเตะที่ทำประตูได้นั่นเอง

ในจำนวนลีลาดุเด็ดเผ็ดมันของเหล่าซุปเปอร์สตาร์แต่ละชาติ ที่ยังอยู่ในความทรงจำของหลายๆ คนก็คือท่าเต้นมุมธงของสิงห์เฒ่า โรเจอร์ มิลล่า
และท่าโยกเยกเอยกล่อมลูกของหนุ่มบราซิเลียนหน้าอ่อน เบเบโต้ ที่ได้เพื่อนๆ ร่วมผสมโรงไปด้วยนั่นเอง


อันดับ8

เมื่อเอ่ยถึงคนทำประตูแล้ว จะไม่ให้เกียรติผู้รักษาประตูบ้างก็ใช่ที่

บีบีซีบอกว่า ก่อนหน้า เดวิด ซีแมน จะทำเฟอะฟะจนกลายเป็น แพะ ในบอลโลก2002 (ที่ปล่อยให้โรนัลดินโญ่กระดกฟรีคิกข้ามหัวเข้าประตู)
วงการลูกหนังโลกต่างคุ้นเคยกับนายทวารตัวโจ๊กมาแล้วมากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เรเน่ ฮิกิต้า (ที่ตั้งใจจะเลี้ยงบอลบุกขึ้นไปเอง แต่โดนโรเจอร์ มิลล่า
แย่งไปยิงหน้าตาเฉย) หรืออันโดนี่ ซูบิซาร์เรตต้า (ซึ่งหวังจะออกไปตัดบอลแต่โดนโยนข้ามหัว แต่พอจะเข้าไปคว้า กลับทำลูกเข้าประตูตัวเอง
ซะอย่างงั้น) ก็ตาม


อันดับ9

ทั้งที่เป็นนักร้องโอเปร่าชื่อก้องโลกซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของอิตาลี และทั้งๆ ที่แดนมักกะโรนีรับหน้าเสื่อจัดศึกเวิร์ลด์คัพเมื่อปี 1990 แต่ พาวารอตติ
นักร้องร่างใหญ่กลับกระซิบบอก เซอร์บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน ระหว่างออกงานด้วยกัน ชนิดขัดใจแฟนบอลเจ้าภาพสุดสุดว่า ผมขออวยพรให้อังกฤษ
ชนะอิตาลีก็แล้วกัน เฉยเลย!


และอันดับ10

ในอันดับสุดท้ายเป็นความทรงจำของซุปเปอร์สตาร์ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของไอร์แลนด์เหนือ นั่นคือนายทวาร แพ็ต เจนนิ่งส์ ซึ่งแขวนถุงมือหลัง
จบศึกฟุตบอลโลก 1986 ที่ประเทศเม็กซิโก

อาจเป็นเพราะตอนเขาอำลาสนามนั้น เจนนิ่งส์เป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดในโลกพอดี หรือจะเพราะชาวเม็กซิกันรักเขามากก็
ไม่ทราบได้ แต่ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดสัญญาณหมดเวลาการรับใช้ชาติของเจนนิ่งส์ดังขึ้น เขาก็ถูกห้อมล้อมด้วยศิลปินท้องถิ่น 3 คน ซึ่งมาดีดกีตาร์
และเล่นเพลงที่แต่งขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเขาโดยเฉพาะ

...ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่หลายคนบอกว่า หน้าตาของเจนนิ่งส์ตอนนั้นน่ะ ออกจะจับต้นชนปลายไม่ถูกมากกว่าน่ะนะ!



ที่มา หนังสือพิมพ์มติชน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์