10 สุดยอดสนามฟุตบอลแห่งยุคของโลก

10.Estadio Azteca ประเทศเม็กซิโก

เป็นสนามที่มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง สร้างขึ้นโดยคอนกรีตทั้งหมด และผ่านพ้นวิกฤติแผ่นดินไหวมาได้เมื่อปี ค.ศ. 1968 ก่อสร้างขึ้นในปี
ค.ศ. 1966 มีโครงสร้างทั้งหมด 3 ชั้น ใช้ทำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในปี ค.ศ. 1968 และใช้ทำการแข่งขันศึกฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศ
ถึง 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1970 และ 1986



9.Wembley ประเทศอังกฤษ

เป็นสนามอันเก่าแก่และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของประเทศอังกฤษ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1923 เปิดตัวด้วยการแข่งขันศึกฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ
มีแฟนบอลแห่เข้าไปแออัดกันในสนามถึง 200,000 คน และใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ มาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันได้
ทำการปรับปรุงสนามใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดิม และขยายความจุเพิ่มเป็น 90,000 ที่นั่ง โดยใช้ชื่อว่า นิว เวมบลี



8.Maracana Stadium ประเทศบราซิล

เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1950 สถิติผู้เข้าชม 199,854 คน ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี
ค.ศ. 1950 แต่ปัจจุปันสนามแห่งนี้ต้องปิดตัวลงไปด้วยโครงสร้างที่มีปัญหาในเรื่องของความปลอดภัย



7.Camp Nou ประเทศสเปน

เป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และใหญ่เป็นอันดับสองของโลก รองจาก Maracana Stadium ในประเทศบราซิล สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1957
จุผู้ชมได้สูงถึง 110,000 ที่นั่ง เป็นสนามของสโมสร บาร์เซโลน่า แห่งศึก ลา ลีกา สเปน เคยใช้ทำการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิง
ชนะเลิศในปี ค.ศ. 1989 และ 1999 ใช้แข่งขันฟุตบอลคัพวินเนอร์คัพ ปี ค.ศ. 1972 และ 1982 รวมถึง ยูฟ่า คัพ ด้วยในปี ค.ศ. 1964



6.Olympic Stadium ประเทศอิตาลี

เป็นอีกสนามที่สร้างขึ้นเพื่อทำการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโดยเฉพาะ ชาวอิตาลีจะเรียกสนามแห่งนี้ว่า Stadio Olimpico โดยใช้ทำการแข่งขัน
กีฬาโอลิมปิกในปี ค.ศ. 1960 จุแฟนบอลได้ 82,000 ที่นั่ง ใช้แข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1977, 1984 และ 1996
รวมทั้งนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก ในปี ค.ศ. 1990 ด้วย



5.Olympiastadion ประเทศเยอรมัน

สร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปี ค.ศ. 1972 โดยเฉพาะ มีลักษณะที่เด่นและแปลกกว่าสนามทั่วไปตรงที่หลังคาสไตล์ใยแมงมุม
มีระบบความร้อนใต้ดินเช่นเดียวกับ สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความจุ 69,000 ที่นั่ง แต่มีแฟนบอลหลั่งไหล
เข้ามาชมเกมสูงสุด 80,000 คน ในปี ค.ศ. 1974 เยอรมันตะวันตก คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ในสนามแห่งนี้



4.Old Trafford ประเทศอังกฤษ

สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เริ่มมีชื่อเสียง พร้อมๆ กับชื่อของสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงทศวรรษที่ 90s สร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ
ปี ค.ศ. 1910 แถบชานเมือง แมนเชสเตอร์ ใต้พื้นสนามมีระบบระบายน้ำและระบบทำความร้อน มีจำนวนที่นั่งทั้งสิ้น 67,000 ที่นั่ง สถิติผู้เข้า
ชมมากที่สุด 76,962 คน ใช้เป็นสนามทำการแข่งขันในแมตช์สำคัญๆ มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน



3.El Monumental ประเทศอาร์เจนติน่า

ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 20 ปี เป็นสนามกลางแจ้งที่ไม่มีหลังคา สามารถจุแฟนบอลได้สูงถึง 150,000 ที่นั่ง มีสแตนด์ที่นั่ง 2 ชั้น โดย
ตามหลักแล้วสนามแห่งนี้จะมีที่นั่ง 3 ชั้น แต่แค่ 2 ชั้นยังใช้เวลานานกว่า 20 ปี ทำให้แผนการสร้างชั้นที่ 3 ได้ถูกล้มเลิกไปในที่สุด



2.San Siro ประเทศอิตาลี

สนาม ซาน ชิโร่ หากเอ่ยถึงชื่อนี้แล้วน้อยคนนักจะไม่รู้จักเนื่องจากเป็นสนามของสโมสร เอซี มิลาน สโมสรสรชื่อดังในศึก กัลโช่ ซีรี่ เอ
นั่นเอง ซาน ชิโร่ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1925 ก่อนหน้านี้เป็นสนามที่มีที่นั่งสองชั้น และมาต่อเติมเป็นสามชั้นในเวลาต่อมาเพื่อรองรับจำนวน
แฟนบอล ที่เพิ่มมากขึ้น ต้อนรับการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี ค.ศ. 1990



1.Estadio da Luz ประเทศโปรตุเกส

สนามแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1954 โดยมีความจุผู้ชมสูงถึง 80,000 ที่นั่ง แต่จากสถิติเคยจุแฟนบอลมากกว่า 120,000 คน และเคยใช้เป็น
สนามแข่งขัน ยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) นัดชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1967 และฟุตบอลเดอะคัพวินเนอร์คัพ นัดชิงชนะเลิศในปี 1992
ล่าสุดใช้เป็นสังเวียนฟาดแข้งในศึก ยูโร 2004

สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งถูกก่อสร้างขึ้นบนพื้นที่สนามเดิม แต่ภายหลังจากการปรับปรุงได้รับการันตีจากทาง ยูฟ่าว่าเป็นสนาม
ที่อยู่ในระดับ 5 ดาว มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมไปถึงเรื่องของการรักษาความปลอดภัย เอสตาดิโอ ดา ลุซ ในภาษาโปรตุเกสแปลว่า
สนามแห่งแสงสว่าง ตั้งอยู่ในเมืองลิสบอน โดยมี 2 สโมสรที่เป็นเจ้าของสนามร่วมกัน คือ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เบนฟิก้า ลิสบอน



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์