10 ยอดแข้งปิดทองหลังพระใน แชมเปี้ยนส์ ลีก

มีสุภาษิตที่ไหนสักแห่งว่ากันว่า นักเปียโนที่โด่งดังจะต้องมีคนแบกเปียโนที่ดีด้วย เช่นเดียวกับในวงการลูกหนัง ที่นักเตะดาวดังจะฉายฟอร์มโดดเด่นได้เต็มที่ ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อาจจะไม่ค่อยเตะตาผู้คนสักเท่าไหร่
 
และนี่คือตัวอย่างคร่าวๆ ของ 10 ยอดแข้งปิดทองหลังพระ ผู้มีส่วนสำคัญกับต้นสังกัดตนเองในการทำศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2008-09 จะเป็นใครบ้าง ติดตามดูชมกันได้เลย....
 
มัตเตโอ บริกี (อาแอส โรม่า)
หลังจากทำผลงานไม่เวิร์กในช่วงต้นซีซั่น ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือ โรม่า จึงจัดการยกเครื่องแผนการเล่นครั้งใหญ่ ทำให้ บริกี มีพื้นที่ลงสนาม และ จัลโลรอสซี่ ก็ไม่เคยร่วงผล็อยลงมาอีกเลย กองกลางวัย 28 ปี ทำประตูได้ถึง 3 ลูกในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่งผลให้เจ้าตัวเริ่มแฮปปี้กับอาชีพค้าแข้งอีกครั้ง หลังต้องย้ายสังกัดแบบปีต่อปีมาตลอด
 
บริกี ได้รับสมญานามจากเพื่อนๆ ร่วมทีม ว่า มัทเธอุส ซึ่งหมายถึงการยกย่องฝีเท้าเทียบชั้น โลธาร์ มัทเธอุส อดีตยอดกัปตันทีมชาติเยอรมัน นั่นเอง และจากฟอร์มที่กลับมาเกิดใหม่ของเขา ก็ส่งผลให้โอกาสติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ กลับมาเปิดกว้างอีกครั้งแล้ว
 
ชูลิโอ เซซาร์ (อินเตอร์ มิลาน)
เซซาร์ โชว์ฟอร์มเซฟสุดเหนียวหนึบจนช่วยการันตีฝีมือของนายทวารสัญชาติบราซิลได้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่ ดีด้า กับ อเล็กซานเดอร์ โดนี่ เคยทำมาแล้ว อีกทั้งยังเข้ามาแทนที่ ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ ในทีม งูใหญ่ ได้เยี่ยมไร้ที่ติ หลังจากย้ายมาร่วมสังกัดในซีซั่น 2005-06
 
อินเตอร์ อาจจะเป็นทีมที่เปี่ยมไปด้วยซูเปอร์สตาร์จอมเทคนิคล้นทีม จนทำให้นายทวารวัย 29 ปี มักจะถูกมองข้ามอยู่ร่ำไป แต่ถึงกระนั้น ผลงานปัดป้องตาข่ายระดับมาสเตอร์พีซในศึก ดาร์บี้แมตช์ ที่เฉือนชนะ เอซี มิลาน 2-1 เมื่อไม่นานมานี้ น่าจะช่วยให้ทุกคนหันมาฉุกคิดถึงคุณค่าของ เซซาร์ ได้มากขึ้นกว่าเดิมบ้าง
 
ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
การแย่งตำแหน่งในแดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ย่อมเข้มข้นดุเดือดยิ่งกว่าทุกทีมอยู่แล้ว เนื่องด้วยการมีทั้ง ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ และ อันแดร์สัน อย่างไรก็ตาม กองกลางจอมเก้งก้างอย่าง เฟล็ทเชอร์ ยังอุตส่าห์ได้ลงเล่นเกินหลัก 200 นัด เข้าไปแล้ว นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2003 นั่นแสดงว่าหมอนี่ต้องมีดีพอตัวเหมือนกันแน่
 
ดาวเตะทีมชาติสกอตแลนด์ วัย 24 ปี ไม่มีเทคนิคชั้นเซียน และสปีดฝีเท้านรกแตก แต่ความมุ่งมั่นทุ่มเทบวกกับพละกำลังอันเหลือเฟือก็ช่วยทดแทนจุดด้อยเหล่านั้นได้อย่างเนียนสนิท ยิ่งไปกว่านั้น เฟล็ทช์ ยังมักจะโชว์ฟอร์มได้ดีในเกมนัดสำคัญ หรือแม้แต่ขึ้นมาทำประตูตัดสินเกมได้อีกต่างหาก
 
เฟร์นานโด กาโก้ (เรอัล มาดริด)
ปัญหาบาดเจ็บของมิดฟิลด์ตัวกลั่นอย่าง กูตี, มาอามาดู ดิยาร์ร่า และ รูเบน เด ลา เร้ด ได้สร้างภาระมหาศาลไว้บนบ่า กาโก้ ไปโดยปริยาย แต่กระนั้น ห้องเครื่องทีมชาติอาร์เจนตินา วัย 22 ปี กลับรับผิดชอบหน้าที่ได้ดีเกินตัว จนกลายเป็นตัวประสานสำคัญระหว่างแนวรับกับแดนกลาง ราชันชุดขาว ไปเรียบร้อยแล้ว
 
นอกจากนั้น การย้ายมาร่วมถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า กองกลางเฟร้นช์แมน น่าจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับอดีตดาวเตะ โบคา จูเนียร์ส ได้ไม่มากก็น้อยอย่างไม่ต้องสงสัย
 
เซย์ดู เกต้า (บาร์เซโลน่า)
เกต้า ได้รับการยกย่องจาก ซิกิ เบกิริสไตน์ ผู้อำนวยการกีฬา บาร์ซ่า ว่าเป็นกำลังเสริมความแข็งแกร่งตรงกลางสนามที่จะช่วยสร้างสมดุลที่ดีให้กับทีม และมิดฟิลด์ทีมชาติมาลี ก็ทำแบบนั้นได้จริงๆ จนกลายเป็นตัวจริงถาวรไปเรียบร้อย
 
ในการทำหน้าที่กับ เจ้าบุญทุ่ม ดาวเตะวัย 29 ปี อาจจะไม่ค่อยได้ขึ้นไปทำเกมสูงเหมือนกับเมื่อสมัยที่อยู่กับ เซบีย่า แต่เจ้าตัวก็สามารถรับผิดชอบภารกิจปัดกวาดให้แนวรับได้ดีไร้ที่ติอย่างแท้จริง
 
เดิร์ก เค้าท์ (ลิเวอร์พูล)
ดาวยิงดัตช์แมนรักษาชื่อเสียงระดับโลว์โปรไฟล์ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ ทั้งที่สามารถยิงประตูได้ในนัดชิงดำ แชมเปี้ยนส์ ลีก (แพ้ เอซี มิลาน 1-2 ในปี 2007) เค้าท์ คือศูนย์หน้าผู้มีทัศนคติไม่เห็นแก่ตัว อันเห็นได้จากการยอมลดบทบาทมาเล่นเป็นปีกขวาเพื่อผลประโยชน์ของทีม
 
อย่างไรก็ตาม หัวหอกจอมขยัน กลับมีคุณสมบัติสำคัญไม่แพ้กำลังหลักอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ สตีเว่น เจอร์าร์ด ในการทำสกอร์ได้ในแมตช์ชี้เป็นชี้ตายอยู่เสมอ ยกตัวอย่างเช่น ประตูชัยช่วงต่อเวลาพิเศษกับ สตองดาร์ ลีแอช ที่ช่วยให้ หงส์แดง ตีตั๋วเข้ารอบแบ่งกลุ่มได้สำเร็จ
 
นิโกล่า เลกร็อตตาเย่ (ยูเวนตุส)
หลังจากตกเป็นตัวสำรองมานานหลายปี เซนเตอร์แบ็กวัย 32 ปี ก็เริ่มโชว์ฟอร์มดีสม่ำเสมอจนกลายเป็นตัวจริงถาวรในแนวรับ ยูเว่ โดย เลกร็อตตาเย่ ย้ายมาสู่เมืองตูริน ในปี 2003 หลังทำผลงานโดดเด่นกับ คิเอโว่ เวโรน่า แต่กลับแจ้งเกิดไม่สำเร็จ จนถูกปล่อยให้ทีมอื่นยืมใช้งาน ก่อนจะกลับมาสวมเสื้อ เจ้าม้าลาย อีกครั้ง ในฤดูกาลที่ถูกปรับตกชั้นสู่ เซเรีย บี นั่นเอง
 
จะว่าไปแล้ว เลกร็อตตาเย่ เคยเกือบถูกเฉดหัวพ้นทีมตั้งแต่ซัมเมอร์ที่แล้วด้วยซ้ำ หากแต่ปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังของ จอร์จ อันดราเด้ ทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสพิสูจน์คุณค่าอีกครั้ง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็ไม่เคยพบกับความตกต่ำอีกเลย แถมยังได้โอกาสรีเทิร์นทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีอีกต่างหาก
 
ราอูล เมยเรเลส (เอฟซี ปอร์โต้)
เมยเรเลส มักจะถูกมองข้ามความสำคัญอยู่ร่ำไป แม้จะอุตส่าห์วิ่งขึ้น-ลงทำเกมไม่มีหยุด และใส่พานงามๆ ให้เพื่อนร่วมทีม ปอร์โต้ ส่องตาข่ายได้บ่อยครั้ง เนื่องเพราะฟอร์มระเบิดประตูชั้นยอดของ ลิซานโดร โลเปซ รวมไปถึงบุคลิกความเป็นผู้นำของ ลูโช่ กอนซาเลซ
 
กระนั้นก็ดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กองกลางทีมชาติโปรตุเกส วัย 25 ปี คือกำลังสำคัญผู้ช่วยให้ ปอร์โต้ ผงาดคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 3 ปีซ้อน และผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ตลอด 2 ฤดูกาลล่าสุด
 
ดิมิทริออส ซัลปินกิดิส (พานาธิไนกอส)
 ดาวเตะทีมชาติกรีซ วัย 27 ปี ถือเป็นผู้เล่นในฝันสำหรับโค้ชทุกคน เนื่องด้วยทัศนคติที่พร้อมจะทำหน้าที่โดยไม่มีปริปากบ่น ถึงแม้ว่าจะต้องลงเล่นตำแหน่งไม่ถนัดก็ตาม ซัลปินกิดิส คือนักเตะตำแหน่งกองหน้าโดยธรรมชาติ แต่มักจะถูกกุนซือ เฮงค์ เทน คาท ถ่างออกไปเป็นปีกขวาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
 อย่างไรก็ตาม ซัลปินกิดิส กลับไม่ยอมลดละหน้าที่ในการสังหารประตู โดยยังคงรั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดร่วมในลีกแดนเทพนิยาย อีกทั้งยังทำสถิติแอสซิสต์เป็นรอง โซติริส นินิส กองกลางเพื่อนร่วมทีม แค่คนเดียวเท่านั้น และก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวยินดีที่จะรับบทพระรองเพื่อต้นสังกัดต่อไปเรื่อยๆ ด้วย
 
เฌเรมี่ ตูลาล็อง (โอลิมปิก ลียง)
แน่นอนว่า คาริม เบนเซม่า กับ จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ ย่อมเป็นชื่อที่ขายดีที่สุดสำหรับเสื้อแข่ง ลียง แต่จะมีใครรู้บ้างหรือเปล่าว่าความสำเร็จส่วนใหญ่ของทีมกลับขึ้นอยู่กับ ตูลาล็อง ห้องเครื่องดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสมากกว่า
 
อดีตดาวเตะ น็องต์ส เข้ามารับช่วงคุมแดนกลางให้ โอแอล ต่อจากยอดแข้งระดับขึ้นหิ้งอย่าง มิชาเอล เอสเซียง และ มาอามาดู ดิยาร์ร่า ได้น่าประทับใจจริงๆ จนได้รับการยกย่องเทียบชั้น ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ตำนานกัปตันทีมฝรั่งเศสไปเรียบร้อยแล้ว และเจ้าตัวก็เพิ่งจะมีอายุแค่ 25 ปีเท่านั้น ถึงแม้ว่าผมเผ้าจะเปลี่ยนเป็นสีดอกเลาเกือบทั่วทั้งกบาลแล้วก็ตาม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์