10 ยอดทีมตกสวรรค์


เวสต์แฮมคอตกรับชะตากรรมในปี 2003
ช่วงสุดท้ายของฤดูกาลลูกหนังยุโรปอย่างนี้ นอกจากการลุ้นว่าทีมใดจะคว้าแชมป์แต่ละลีกมาได้แล้ว ก็เห็นจะเป็นการติดตามว่าจะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องของทีมขึ้นชั้น-ตกชั้นอย่างไรบ้างนี่เอ

มาปีนี้กับลีกยอดนิยมอย่าง พรีเมียร์ลีก นอกจากการลุ้นแชมป์ระหว่าง 2 ทีมยักษ์ใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล แล้ว หลายคนดูจะห่วงความเป็นไปของ นิวคาสเซิล มากเป็นพิเศษ เพราะดูท่าว่าสโมสรใหญ่อย่างนี้มีโอกาสร่วงไปเล่นลีกแชมเปี้ยนชิพในฤดูกาลหน้าค่อนข้างสูงทีเดียว

ว่าแล้ว ดิ อ๊อบเซิร์ฟเวอร์ หนังสือพิมพ์เมืองผู้ดีจึงทำการจัดอันดับ 10 สโมสรที่ดีเกินกว่าจะตกชั้น (แต่ตกมาแล้ว) เป็นการอุ่นเครื่องเสียเลย!

10.น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (1992-93) - ทั้งที่ 4 ปีก่อนหน้านั้น ยอดกุนซือ ไบรอัน คลัฟ พาฟอเรสต์เข้าชิงลีกคัพได้ถึง 3 ครั้ง แต่แล้วจู่ๆ คลัฟกลับทำเรื่องผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตั้งแต่แยกทางเดินกับ เท็ดดี้ เชอริงแฮม มองข้าม สแตน คอลลีมอร์ แล้วดันไปดึง โรเบิร์ต โรซาริโอ มาจากโคเวนทรี ทั้งที่ตอนเล่นให้สังกัดเก่าก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร งานนี้ทีมใหญ่อย่างฟอเรสต์จึงต้องตกชั้นในฐานะทีมก้นตาราง และคลัฟตัดสินใจวางมือจากงานนี้ในที่สุด

9.สเปอร์ส (1976-77) - ฤดูกาลอันเลวร้ายของสเปอร์สเริ่มต้นจากการย้ายทีมของ มาร์ติน ปีเตอร์ส และ มาร์ติน คีเวอร์ส 2 กำลังสำคัญในเกมรุก กองหน้าร่างโย่ง เอียน มัวร์ส ที่มาแทนก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนอกจากการทำ 2 ประตู ในการลงสนาม 17 เกม แถม เกล็น ฮอดเดิ้ล วัย 19 ปี ก็ยังเด็กเกินกว่ากู้สถานการณ์ให้ทีมได้ ซ้ำร้ายกองหลังยัง "รั่ว" อย่างเหลือเชื่อ บุกไปแพ้ ดาร์บี้ 2-8 และบุกแพ้ เวสต์แฮม 3-5 สุดท้ายจึงต้องตกชั้นไปตามระเบียบ

8.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (1973-74) - ฤดูกาลก่อนหน้านั้น ทอมมี่ โดเคอร์ตี้ ซึ่งเข้ามารับหน้าที่กุนซือคนใหม่พาทีมรอดการตกชั้นได้สำเร็จ แต่โชคดีไม่มีซ้ำสอง เมื่อปีศาจแดงยุคนั้นประสบปัญหาหนักเรื่องการยิงประตู ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเข้าช่วงคริสต์มาส นายทวาร อเล็กซ์ สเต็ปนีย์ ยังเป็นดาวซัลโวร่วมของทีมด้วยผลงานการสังหารจุดโทษ 2 ประตูอยู่เลย! ฤดูกาลนั้นยังเป็นที่จดจำเมื่อ จอร์จ เบสต์ ซึ่งน้ำหนักตัวเพิ่มกว่าเดิมมากลงสนามให้ทีมเป็นครั้งสุดท้าย แถมประตูที่มีผลทำให้ทีมตกชั้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1937 ยังมาจากฝีเท้าของ เดนนิส ลอว์ อดีตตำนานของทีมซึ่ง ณ เวลานั้น ย้ายไปเล่นให้คู่แค้นร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสียอีก

7.ฮาร์เลควินส์ (2004-05) - หลายคนคงสงสัยว่าเคยมีทีมฟุตบอลชื่อนี้ด้วยเหรอ? คำตอบก็คือ ดิ อ๊อบเซิร์ฟเวอร์ เขาแถมพ่วงการตกรอบอย่างพลิกล็อคของลีกรักบี้เมืองผู้ดีเข้ามาด้วยนั่นเอง "ควินส์" ปราชัยต่อ เซล 22-23 จนทำให้พวกเขากลายเป็นทีมบ๊วยของตาราง ซึ่งการชู้ตลูกโทษพลาดในนาทีสุดท้ายของ เจเรมี่ สตอนตัน ถูกเรียกขานเป็น "ลูกยิงที่ราคาแพงสุดของวงการ" ทีเดียว

6.ลีดส์ ยูไนเต็ด (2003-04) - ย้อนไปในปี 2001 ทีมนี้เพิ่งสร้างชื่อทะลุเข้ารอบตัดเชือกศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ปีเตอร์ ริดสเดล ประธานสโมสรก็ใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งเป็นที่อิจฉาของใครต่อใคร แต่ใครจะไปคาดคิดว่า 3 ปีต่อมา ลีดส์จะประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก และทีมที่มีนักเตะชื่อดังๆ อย่าง มาร์ก วิดูก้า อลัน สมิธ พอล โรบินสัน เจมส์ มิลเนอร์ และ เอียน ฮาร์ต ก็ค่อยๆ ฟอร์มตกลงๆ และการันตีการตกชั้นทั้งที่ยังเหลือเกมเตะอีก 2 นัดในฤดูกาลนั้นด้วยซ้ำไป

5.ไบรตัน (1982-83) - ผลงานของไบรตันในบอลถ้วยเอฟเอคัพในฤดูกาลนั้นสวนทางกับเกมลีกอย่างสิ้นเชิง เพราะตอนที่ประสบความสำเร็จเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์ได้สำเร็จ ก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาจะต้องร่วงไปเล่นลีกล่างด้วยเช่นกัน และถ้า กอร์ดอน สมิธ ไม่พลาดการสังหารประตูชัยในรอบชิงเอฟเอคัพ ไบรตันก็คงเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ที่ตกชั้นทั้งที่ได้แชมป์เอฟเอคัพไปแล้ว (สุดท้ายพวกเขาเสมอกับแมนฯยูจนต้องไปแข่งใหม่ และโดนผีแดงถล่มไป 4-0)

4.ยูเวนตุส (2005-06) - ไม่กี่สัปดาห์หลังคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ฤดูกาลที่ 29 มาครอง ยูเว่ก็ตกเป็นเป้าสอบสวนเรื่องการ "ล้มบอล" โดยมี ลูเซียโน่ มอจจี้ ผู้จัดการทั่วไปเป็นจำเลยรายสำคัญ เมื่อทีมสืบสวนพบพิรุธเรื่องการโทรศัพท์ (เฉลี่ย 416 ครั้งต่อวัน!!) และบทสนทนาที่ราวกับถอดแบบมาจากหนังมาเฟีย ในท้ายที่สุดนอกจากจะโดนริบแชมป์แล้ว พวกเขายังโดนลงโทษให้หล่นไปเล่นในเซเรียบี จนสตาร์ดังหลายคนพากันย้ายออกจากทีม และนี่กลายเป็นกรณีแรกในประวัติศาสตร์ที่สโมสรฟุตบอลตกชั้นเพราะการโทรศัพท์ของใครบางคน!

3.เซอร์เรย์ (2005) - พวกเขาให้เครดิตตัวเองว่าเป็น "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งวงการคริคเกต" และเป็นเต็งสองในการคว้าแชมป์รายการระดับประเทศปีนั้น แต่ทุกอย่างล่มไปเมื่อ มาร์ก บุชเชอร์ ดาวเด่นของพวกเขาเจ็บมือจนลงสนามไม่ได้เกือบตลอดฤดูกาล ทีมทำผลงานแย่ลงเรื่อยๆ จนโค้ชโดนปลดก่อนหน้าจะแข่งขันนัดสุดท้ายของฤดูกาลเลยด้วย

2.มิดเดิ้ลสโบรช์ (1996-97) - แฟนโบโร่เริ่มต้นด้วยความหวังในฤดูกาลนั้น เมื่อลูกทีมของ ไบรอัน ร็อบสัน เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศทั้งถ้วยลีกคัพและเอฟเอคัพ โดยมีกองหน้าสุดฮ็อต ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ จูนินโญ่ และ อีเมอร์สัน ซึ่งยิงรวมได้ 31 ประตู แต่ฝันร้ายก็เริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาแพ้ เลสเตอร์ ในนัดแข่งใหม่ของรอบชิงลีกคัพ ตามด้วยการโดนหัก 3 คะแนน จากการยกเลิกเกมเตะกับ แบล๊คเบิร์น ในเดือนธันวาคม เนื่องจากนักเตะถึง 26 คน สุขภาพไม่สมบูรณ์ และตกชั้นด้วยจำนวนแต้มที่โดนหักนั่นพอดี สุดท้ายพวกเขาไปเสียประตูใน 41 วินาทีสุดท้าย ก่อนปราชัยให้ เชลซี ในรอบชิงเอฟเอคัพ 0-2

1.เวสต์แฮม (2002-03) - ทั้งที่มีนักเตะชั้นดีอย่าง โจ โคล ไมเคิล คาร์ริค เกล็น จอห์นสัน เดวิด เจมส์ และ เจอร์เมน เดโฟ กว่าที่ขุนค้อนจะเก็บชัยชนะในเกมเหย้าได้ก็ปาเข้าไปวันที่ 29 มกราคม ของฤดูกาลแล้ว ฟอร์มของพวกเขายิ่งน่าผิดหวังจนแฟนๆ ต้องกอดคอร้องเพลงขอให้เปลี่ยนกองหลังยกชุด แถมกุนซือ เกล็นน์ โรเดอร์ ยังล้มป่วยจนต้องให้ เซอร์เทรเวอร์ บรู๊คกิ้ง คุมทีมชั่วคราวใน 3 นัดสุดท้าย ท้ายที่สุดก็ไม่อาจหนีชะตากรรมหลังเสมอในเกมส่งท้ายฤดูกาล และเป็นทีมตกชั้นที่ทำคะแนนได้มากที่สุดถึง 42 คะแนน

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์