อันดับ 10
เบิร์น โจนส์ (ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตันไปอาร์เซนอล ค่าตัว 14,000 ปอนด์ ปี 1938)
ถือ เป็นสถิติการย้ายทีมที่สูงมากในขณะนั้น หากเทียบราคาในปัจจุบัน อยู่ที่ 7 ล้านปอนด์เลยทีเดียว แต่เขากลับโชว์ฟอร์มให้อาร์เซนอลได้ไม่ดีเหมือนกับตอนอยู่ทีมหมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน จากนั้นการแข่งขันต้องหยุดชะงักลงชั่วคราวเพราะเกิดสงครามโลกในเดือนกันยายน 1939 จนกระทั่งปี 1946 สงครามยุติลง การแข่งขันฟุตบอลกลับมาเป็นปกติ แต่เขาถูกคนอื่นแย่งตำแหน่งในทีมไป ซึ่งปีนั้นลงเล่นไปเพียง 7 นัด แม้ว่าอาร์เซนอลจะได้แชมป์ลีก แต่เขาก็ไม่ได้เหรียญรางวัล เพราะลงสนามน้อยเกินไป ต่อมาในช่วงฤดูร้อนปี 1949 เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ด เพราะได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการถูกลูกหลงในเหตุการณ์ที่ตำรวจบราซิลลงมา ควบคุมเหตุวุ่นวายในสนาม ระหว่างเกมอุ่นเครื่อง สรุปแล้วโจนส์เล่นให้อาร์เซนอล 74 นัด ทำได้ 7 ประตู และเล่นให้วูล์ฟแฮมป์ตัน 163 นัด ทำได้ 52 ประตู
อันดับ 9
จัสติน ฟาชานู (ย้ายจากนอริช ซิตี้ไปฟอเรสต์ ค่าตัว 1 ล้านปอนด์ ปี 1981)
หลัง จากสร้างชื่อเสียงกับทีมนกขมิ้นเหลืองอ่อน นอริช ซิตี้ ทำให้เขากลายเป็นนักเตะผิวสีของสหราชอาณาจักรคนแรกที่มีค่าตัวถึง 1 ล้านปอนด์ โดยไบรอัน คลัฟ กุนซือทีมเจ้าป่า ฟอเรสต์ คว้าตัวมาแทนที่เทรเวอร์ ฟรานซิส แต่หลังย้ายมาอยู่ในถิ่นซิตี้ กราวน์ด ได้ไม่นาน ทั้งฟาชานูและคลัฟเกิดเรื่องระหองระแหงกัน ทำให้ความมั่นใจของฟาชานูค่อยๆ เหือดแห้งไป ในที่สุดก็ถูกสั่งห้ามซ้อมร่วมกับเพื่อนๆ ในทีม อีก 16 เดือนต่อมา ฟาชานูที่ทำได้แค่ 3 ประตูใน 32 นัดกับทีมเจ้าป่า จึงถูกขายต่อให้กับทีมนอตต์ส เคาน์ตี้ ในราคาแสนถูก 1.5 แสนปอนด์
อันดับ 8
ปีเตอร์ เคราช์ (ย้ายจากปอร์ตสมัธไปแอสตัน วิลลา ค่าตัว 5 ล้านปอนด์ ปี 2002, ย้ายจากเซาแธมป์ตันไปลิเวอร์พูล ค่าตัว 7 ล้านปอนด์ ปี 2005, ย้ายจากลิเวอร์พูลไปปอร์ตสมัธ ค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ปี 2008, ย้ายจากปอร์ตสมัธไปสเปอร์ส 10 ล้านปอนด์ ปี 2009)
ในรอบ 7 ปี กองหน้าร่างโย่งย้ายทีมถึง 4 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งมีค่าตัวในระดับที่สูงเกินความสามารถทุกครั้งไป แม้จะมีรูปร่างที่สูงถึง 6 ฟุต 6 นิ้ว แต่ก็ไม่ได้ใช้ความสูงให้เกิดประโยชน์กับต้นสังกัดเท่าที่ควรจะเป็น
อันดับ 7
คีรอน ไดเยอร์ (ย้ายจากนิวคาสเซิลไปเวสต์แฮม ค่าตัว 6 ล้านปอนด์ ปี 2007)
เขา ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมขุนค้อนในเดือนสิงหาคม 2007 ด้วยค่าตัวถึง 6 ล้านปอนด์ กับเซ็นสัญญา 4 ปี แต่อาการบาดเจ็บรุมเล่นงานจนเดี้ยงยาว ทำผลงานได้ไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้นสังกัดต้องเสียไปเลย ถึงเดือนพฤษภาคม 2010 ไดเยอร์ลงสนามไปเพียง 22 นัดเท่านั้นในช่วงระยะเวลา 3 ปี และที่ไม่น่าเชื่อคือทุกนัดไม่เคยได้เลนครบ 90 นาทีเลยสักครั้ง แต่กลับรับค่าเหนื่อยสูงถึงสัปดาห์ละ 83,000 ปอนด์
อันดับ 6
อเด อคินบียี (ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตันไปเลสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 5.5 ล้านปอนด์ ปี 2000)
ดาว ยิงผิวสีที่เกิดในเมืองแฮ็คนีย์รายนี้ ต้องพบกับความหายนะเมื่อย้ายมาอยู่ในถิ่นฟิลเบิร์ต สตรีท เพราะทำได้เพียง 11 ประตูจากการลงสนาม 58 นัด จากนั้นถูกขายต่อให้คริสตัล พาเลซ ในปี 2002
อันดับ 5
แอนดี้ จอห์นสัน (ย้ายจากเอฟเวอร์ตันไปฟูแลม ค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ ปี 2008)
หลัง จากโชว์ฟอร์มกระหึ่มกับเอฟเวอร์ตันด้วยการซัด 17 ประตูในเกมลีก 61 นัด ทำให้ฟูแลมต้องทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัวกลับไปอยู่ในกรุงลอนดอนอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านั้นเคยค้าแข้งอยู่กับทีมคริสตัล พาเลซ มาก่อน แต่ 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา กลับทำได้เพียง 7 ประตูจาก 39 นัด เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาวเมื่อฤดูกาล 2009-10
อันดับ 4
เดวิด เบนท์ลีย์ (ย้ายจากแบล็คเบิร์นไปสเปอร์ส ค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ปี 2008)
เป็น เพียงนักฟุตบอลคนหนึ่งที่เตะลูกบอลได้ แต่มีค่าตัว15 ล้านปอนด์ นั่นคือคำนิยามที่สื่อเมืองผู้ดีระบุไว้หลังจากเบนท์ลีย์ย้ายมาอยู่กับทีม ไก่เดือยทอง เพราะกองกลางรายนี้แทบไม่มีจุดเด่นในเรื่องใด อาทิ เลี้ยงบอลก็ไม่ดี ความแข็งแกร่ง หรือสภาพร่างกายก็ฟิตเปรี๊ยะ ทำประตูได้น้อยเกินไป แถมใจไม่สู้อีกต่างหาก ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ได้ลงสนาม 37 นัด ทำได้ 3 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้แค่ 4 ครั้งเท่านั้น
อันดับ 3
สตีฟ เดลีย์ (ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตันไปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ ปี 1979)
ใน เดือนกันยายน 1979 เดลีย์ทำสถิติค่าตัวนักเตะในสหราชอาณาจักรสูงสุด เมื่อย้ายจากทีมหมาป่าไปอยู่กับทีมเรือใบสีฟ้า แต่ฟอร์มย่ำแย่เหลือทน ทำให้ในอีก 20 เดือนต่อมา จึงถูกขายไปให้กับทีมซีแอตเติล ซอนเดอร์ส ในราคาเพียง 3 แสนปอนด์ ขนาดสื่ออังกฤษยังบรรยายถึงนักเตะรายนี้ว่า เป็นการสูญเปล่าของเงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล
อันดับ 2
คริส ซัตตัน (ย้ายจากแบล็คเบิร์นไปเชลซี ค่าตัว 10 ล้านปอนด์ ปี 1999)
สร้าง ความฮือฮาของการย้ายทีมในครั้งนั้นเป็นอย่าง มาก เพราะกำลังเป็นกองหน้าฟอร์มแรงในขณะนั้น ซึ่งมีรูปร่างใหญ่โต 6 ฟุต 3 นิ้ว เหมาะกับการเป็นกองหน้าอย่างยิ่ง และเชลซีขณะนั้นก็เต็มไปด้วยยอดนักเตะเต็มทีม แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ซัตตันถึงเล่นไม่ออกเลย เพราะทำได้เพียงประตูเดียวตลอด 1 ฤดูกาล ที่ได้ลงสนาม 28 นัด จากนั้นจึงถูกขายให้กับเซลติกในสก็อตแลนด์แบบขาดทุน
อันดับ 1
ฟรานซิส เจฟเฟอร์ส (ย้ายจากเอฟเวอร์ตันไปอาร์เซนอล ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ปี 2001)
หลัง จากกองหน้าดาวรุ่งโชว์ฟอร์มถล่มประตูได้เข้าตาอาร์แซน เวนเกอร์ ทำให้กุนซือชาวฝรั่งเศสยอมทุ่มเงินก้อนโตคว้าตัวมาอยู่ในถิ่นไฮบิวรี เพราะตอนนั้นถูกยกให้เป็น ฟิลิปโป อินซากี้ แห่งอังกฤษ แต่เมื่อสวมชุดปืนใหญ่แล้ว กลับทำได้เพียง 4 ประตูจากการลงสนาม 22 นัดเท่านั้น ในช่วง 2 ฤดูกาล ล่าสุดตอนนี้ดาวยิงวัย 29 ปี เพิ่งจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ เรียบร้อยแล้ว
ภาพ : www.sporting-heroes.net
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
