10 ท่าดีใจสุดเด็ด

 มีบางคนพูดว่าการยิงประตูได้มันสะใจยิ่งกว่าการมีเซ็กซ์หลายเท่านัก และนั่นก็คงเป็นอย่างที่เขาว่า เพราะมันถือเป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับพ่อค้าแข้งหากได้ส่งบอลไปนอนสงบที่ก้นตาข่าย และไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเตะทุกๆ คนอยากจะแสดงอาการดีใจกับสิ่งนี้ ลองย้อนกลับไปวันคืนเก่าๆ มีการฉลองประตูกันหลายรูปแบบ ทั้งวิ่งกอดกัน บางทีก็กอดกัน และก่อนที่คุณจะรู้ว่าทำอะไรลงไป เนื่องจากหลายๆ สิ่งมันเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ล้นปรี่ 

               การถอดเสื้อโชว์หน้าอก ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ค่อยอยากมีใครทำเนื่องจากต้องแลกมาด้วยใบเหลืองจากผู้ตัดสิน การวิ่งดูดนิ้วโป้ง และรวมทั้งท่าไกวเปล เป็นที่นิยมกันมากในช่วงที่ผ่านมา ฉะนั้นวันนี้ลองมาดูกันสิ่งว่า 10 อันดับท่าดีใจที่โดนใจแฟนบอลมากที่สุดมีท่าอะไรบ้าง และนักเตะคนไหนเป็นคนทำจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวในที่สุด



10. ซิฟิเว่ ชาบาลาล่า (แอฟริกาใต้ vs เม็กซิโก 2010)

               ปีกซ้ายวัย 25 ปี กลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงก้องโลกเมื่อเขาเป็นคนยิงประตูแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ให้กับทีมชาติแอฟริกาใต้ ในนัดเปิดสนามเสมอ เม็กซิโก แต่ประตูนั้นก็แทบจะไม่ค่อยได้รับความสนใจเมื่อเจอการฉลองประตูของเขา โดยแฟนบอลเจ้าบ้านได้เฮลั่นสนั่นสนาม เมื่อ ชาบาลาล่า ตะบันด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาผ่านมือนายทวารแดนจังโก้เข้าไปซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม
 หลังจากบอลไปสงบนิ่งในประตูทั้ง ชาบาลาล่า กับเพื่อนร่วมทัพ บาฟาน่า บาฟาน่า ก็วิ่งกรูไปเข้าแถวอยู่ที่มุมธง จากนั้นก็เริ่มโชว์การเต้นแบบสบายอุราผสมผสานกับเสียงวูวูเซล่า ที่ดังระงมไปทั่วสนาม และยิ่งดูการแสดงความดีใจแบบสามัคคีชุมนุมแล้วก็ยิ่งรู้สึกประทับใจในความน่ารักของแข้งแอฟริกาใต้จริงๆ







9. เจมี่ บูลลาร์ด (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ Vs ฮัลล์ ซิตี้ 2009)

               แน่นอนว่า เจมี่ บูลลาร์ด ไม่ได้เป็นนักเตะยอดนิยมของเจ้านายที่ ฮัลล์ ซิตี้ ซักเท่าไรในช่วงเวลานั้น พวกเขาต้องการให้เขาออกจากทีมเพราะพวกเขาไม่สามารถจ่ายเงินค่าเหนื่อยได้ หลังจากที่ต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตาม บูลลาร์ด ได้ทำผลงานคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ทีมเสียไป พร้อมกับท่าแสดงความดีใจด้วยการชี้นิ้วส่ายไปส่ายมากโดยมีเพื่อนๆ นั่งล้อมวงกันอยู่ ซึ่งเป็นการล้อเลียน ฟิล บราวน์ ผู้จัดการทีม ซึ่งขึ้นชื่อลือว่าชอบสอนนักเตะในสนาม ที่สำคัญ บราวน์ ยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวทำให้เขาหัวเราะงอหายเลยทีเดียว ผมไม่สามารถหยุดหัวเราะได้เลยจริงๆ ให้ตายเหอะ







8 เคร็ก เบลลามี่ (ลิเวอร์พูล Vs บาร์เซโลน่า 2007)

                เบลลามี่ ขึ้นชื่อลือชาเรื่องความระห่ำอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาเป็นกองหน้าที่ฝีเท้าคมคนหนึ่งเลยทีเดียว หัวหอกเลือดเวลส์เจ้าของท่า คนบ้ากับการพัตต์ มีปัญหาไม่กินเส้นกับ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ เพื่อนร่วมในขณะนั้น หลังจากตกเป็นข่าวว่าใช้ไม้กอล์ฟฟาดหน้าแข้ง รีเซ่ ก่อนเกมที่จะต้องบุกไปเยือน บาร์เซโลน่า แต่สุดท้ายกลายเป็นทั้งสองคนที่ช่วยกันสร้างผลงานสุดยอดเอาชนะ เจ้าบุญทุ่ม ได้ และ เบลเลอร์ ยังแสดงท่าดีใจสุดคลาสสิกด้วยการโชว์วงสวิงอีกต่างหาก
 บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมาย ได้ตั้งราคาเอาไว้ 100-1 ว่า เบลลามี่ จะแสดงท่าดีใจด้วยการโชว์วงสวิงหลังจากยิงประตูได้ และแน่นอนว่า เขาทำเพื่อผลทางธุรกิจนั่นเอง





7. พอล แกสคอยน์ (อังกฤษ Vs สกอตแลนด์ 1996)

                ความทรงจำสำหรับฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของอังกฤษ ในการแข่งขัน ยูโร 1996 ยังคงติดตาตรึงใจพวกอิงลิชชนไม่เสื่อคลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานของ แกสคอยน์ ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเป็นสง่า และหนึ่งในเหตุการณ์ที่แฟนบอล สิงโตคำราม จำได้เป็นอย่างดีก็คือการยิงประตูทัพ วิสกี้ ซึ่งเป็นการโชว์ทักษะระดับโลกของ อ้วนซ่าส์อย่างแท้จริง และหลังจากเบิกสกอร์ได้เขาก็ไปฉลองท่าดีใจด้วยการนอนหงายประหนึ่งกำลังอยู่บนเก้าอี้หมอฟัน ก่อนที่เพื่อนร่วมทีมจะฉีดน้ำเข้าปากสบายอุรา
 ก่อนหน้าทัวร์นาเมนต์สำคัญ สตาร์ดังเลือดผู้ดี ถูกจับภาพได้ตอนที่ออกไปเที่ยวไนท์คลับในฮ่องกงช่วยทัวร์อุ่นเครื่องที่เอเชีย โดย แกสคอยน์ กับ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ถูกถ่ายภาพได้ขณะที่กำลังโจ้เหล้ากันอย่างเมามัน อย่างไรก็ตาม แฟนบอลอังกฤษ ก็พร้อมที่จะลืมเหตุการณ์บ้าบอคอแตกของแข้ง ทรี ไลอ้อนส์ เมื่อได้เห็นลูกยิงของ แก๊ซซ่า ในเกมนัดดังกล่าว

 





6. ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (ลิเวอร์พูล Vs เอฟเวอร์ตัน 1999)

                 ฟาวเลอร์ ถือเป็นกองหน้าจอมถล่มประตูของ เดอะ เร้ดส์อย่างแท้จริง และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้สาวก เดอะ ค็อป มอบฉายา ก็อดให้กับเขา อย่างไรก็ตาม ฟาวเลอร์ ก็ต้องมาเจอกับปัญหาเมื่อเขาฉลองท่าดีใจหลังจากยิงประตูได้ในเกม ดาร์บี้แมตช์แห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ ด้วยการก้มลงไปที่เส้นสนามก่อนจะทำท่าสูดดมซึ่งคล้ายกับพวกขี้ยาที่กำลังเสพโคเคน ! แม้ เชราร์ด อุลลิเย่ร์ กุนซือในขณะนั้นจะออกมาปกป้องศิกษ์รักก็ตาม แต่ อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษ ก็โดนปรับเงินไปเบาะๆ จากความคึกคะนอง 60,000 ปอนด์ (ราว 2.8 ล้านบาท) เจอเข้าไปแบบนี้คงสูดอากาศไม่คล่องจมูกแน่นอน !






5. มาร์โก ทาร์เดลลี่ (อิตาลี Vs เยอรมัน 1982)

                การยิงประตูให้กับประเทศชาติในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึกฟุตบอลโลกได้ สามารถแปลงเปลี่ยนให้คุณกลับกลายสภาพเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง ไม่เชื่อลองไปถาม ทาร์เดลลี่ ดูได้เลย ตำนานแข้ง ม้าลาย ยูเวนตุส วิ่งเป็นบ้าเป็นหลังแถมส่ายหัวไปมาเหมือนคนติ๊งต๊อง พร้อมกับแหกปากตะโกนเรียกชื่อตัวเองราวกับว่าคุณกำลังวิ่งเล่นอยู่ในสนามเด็กเล่น หลังจากที่ตะบันประตูทัพ อินทรีเหล็ ได้สำเร็จ แล้วการกระทำแบบนั้นจะมีใครไปต่อว่าเขาได้ล่ะ ?





4. เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้ Vs อาร์เซน่อล 2009)

                 ไม่เคยมีเหตุการณ์ครั้งไหนที่จะทำให้แฟนบอลจากหนึ่งในสโมสรเก่าของคุณเกลียดขี้หน้าได้เท่ากับการกระทำของชายที่ชื่อ อเดบายอร์ โดยเขากลายเป็นที่จงเกลียดจงชังของสาวก เดอะ กันเนอร์ส หลังจากที่ตัดสินใจย้ายออกจากถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มาเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ด้วยการตัว 25.5 ล้านปอนด์ (ราว 1,224 ล้านบาท) เมื่อปี 2009 และพวกเขาก็ยิ่งเกลียด บายอร์ มากยิ่งขึ้นทวีคูณเมื่อเขาดันตะบันประตู ไอ้ปืนใหญ่ ที่ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ และก็วิ่งเหมือนม้าบ้า ฉีกปากโชว์ฟันขาวจั๊ว แบบไม่กลัวหัวใจวายก่อนจะสไลด์ขาฉลองประตูต่อหน้าแฟนบอลทีมเก่า ซึ่งนั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่พวกเขามีให้กับ ดาวเตะเลือดโตโก





3. โรเจอร์ มิลล่า (แคเมอรูน ฟุตบอลโลก 1990)

                ไม่มีใครลืมเหตุการณ์ความยอดเยี่ยมของ โรเจอร์ มิลล่า ตำนานกองหน้าทีมชาติแคเมอรูน กับผลงานในศึกเวิลด์ คัพ 1990 ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากกับผู้เล่นที่อายุ 38 ปีในช่วงเวลานั้น โดย อดีตแข้ง หมอผี สามารถทำได้ 4 ประตูและนำทีมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างยิ่งใหญ่ แต่ที่เด็ดอีกอย่างของ มิลล่า ก็คือการแสดงท่าดีใจเต้นยึกยักอยู่ที่มุมธงหลังยิงประตู โรมาเนีย ได้อย่างสุดยอด ซึ่งแค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาสร้างความสุขให้กับคนทั้งชาติรวมทั้งแฟนบอลที่นิยมชมชอบบอลรองด้วย





2. ปีเตอร์ เคร้าช์ (อังกฤษ Vs จาเมกา 2006)

                  กองหน้าร่างโย่งโชว์สเต็ปแบบโรบ็อทแดนซ์ และกลายเป็นว่าท่าดีใจดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมากจากบรรดาแฟนบอล สิงโตคำราม อย่างไรก็ตาม ดาวยิง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตัดสินใจที่จะไม่ทำท่า โรบ็อทเคร้าช์ อีกจนกล่าวจะช่วยยิงประตูให้ อังกฤษ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 และนั่นก็คือการปิดตำนานของท่าแดนซ์แสนสะท้านของ เคร้าช์ เนื่องจากพวกเขาไปไม่ถึงฝั่งฝัน และตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายอย่างเจ็บปวดเพราะโดน เยอรมัน ถลุงยับจนจำบ้านเลขที่ไม่ถูก





1. เจอร์เก้น คลินส์มันน์ (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ Vs เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์ 1994)

                  หนึ่งในท่าฉลองยิงประตูที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด และเป็นที่นิยมจนทุกวันนี้ ก็ต้องเป็นท่าพุ่งหลาวของ คลินส์มันน์ หลังจากที่เจ้าตัวเดินทางมาหาความท้าทายใหม่ๆ ในช่วงบั้นปลายชีวิตพ่อค้าแข้งในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน จริงๆ แล้วท่าดีใจดังกล่าวน่าจะเป็นการประชดประชันมากกว่า เนื่องจาก คลิ้นซี่ มีชื่อเสียงในเรื่องการพุ่งล้ม โดย ดาวเตะเลือดด๊อยท์ช กลายเป็นดาวเตะในดวงใจของสาวก ไก่เดือยทอง หลังจากโหม่งประตูสุดสวยในเกมพบ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ก่อนจะวิ่งไปหาที่เหมาะๆ และทิ้งตัวสไลด์ไปบนพื้นหญ้าอย่างสะใจ มันช่างเป็นการแลนดิ้งที่สุดยอดจริงๆ สำหรับแฟนบอล สเปอร์ส !





ที่มาเนื้อหา http://blog.siamsport.co.th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์