10 จอมหนึบแห่งพรีเมียร์ลีก

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังอังกฤษถูกเขียนขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ แบรด ฟรีเดล ผู้รักษาประตูชาวอเมริกัน ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ระหว่างปากประตู ในเกมที่ แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับ ฟูแล่ม 0-0 เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา ทำให้ นายประตูวัย 37 ปี ทำสถิติลงสนามติดต่อกันยาวนานถึง 167 เกม แซงหน้า เดวิด เจมส์ มือ 1 ทีมชาติอังกฤษลง ที่เคยบันทึกสถิตินี้ไว้ เมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ได้สำเร็จ
 

อดีตโกล์ทีมชาติสหรัฐฯ แสดงความปลื้มปิติ หลังจากทราบว่า ตนเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ไปเรียบร้อยแล้ว โดยกล่าวว่า แน่นอนที่สุด มันเป็นเรื่องที่สวยงามมาก แต่ผมหวังว่าจะมีเกมรออยู่ตรงหน้าผมมากกว่านี้ ผมไม่เคยลงเล่นโดยหวังว่าจะทำลายสถิติเดิม ผมลงเล่นเพราะผมอยู่ภายใต้สัญญาของการลงเล่นฟุตบอล และผมก็หลงรักฟุตบอล
 

จนถึงขณะนี้ เรื่องนี้ยังไม่เคยผ่านเข้ามาอยู่ในหัวของผมเลย จนเมื่อตอนที่คนจดสถิติบอกว่า ผมมีโอกาสทำลายสถิติเดิมนั่นแหละ ผมโชคดีมาโดยตลอด ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บ และเรื่องโชคชะตา ตอนที่ผมถูกเข้าปะทะในบางครั้งนั้น ดูเหมือนว่ามันจะเกิดขึ้นในเวลาใกล้เคียงกับช่วงเบรกทีมชาติ นับตั้งแต่ผมเลิกเล่นทีมชาติ (ปี 2004) ผมมีเวลาพักผ่อนมากขึ้นในระหว่างที่มีเกมในบ้าน ฟรีเดล กล่าว
 

ทางด้าน มาร์ติน โอนีล เจ้านายในถิ่น วิลล่า พาร์ค กล่าวเสริมว่า มันเป็นที่น่าสังเกต ในวันนี้ และด้วยอายุขนาดนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รักษาประตูหรือไม่ก็ตาม การได้ลงสนามติดต่อกัน ด้วยจำนวนเกมมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องที่วิเศษ เป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับเขา ในช่วง 8-9 ปีหลังสุด
 

จากเมื่อครั้งที่ย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาอยู่กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ตามเส้นทางของนักฟุตบอล แบรด ฟรีเดล รักษาผลงานได้คงเส้นคงวามาตลอด บางที เมื่อปีที่แล้ว อาจเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของเขาเลยก็ได้ และเขาเองก็ยังพยายาม และแสดงความทุ่มเทเพื่อทำเรื่องแบบนั้นให้กับเราในฤดูกาลนี้ โอนีล กล่าว
 

ในศึกพรีเมียร์ลีก มีนายประตูที่มีฝีไม้ลายมือยอดเยี่ยมมากมายหลายคน วันนี้เราจะนำเสนอ 10 ผู้รักษาประตูที่โชว์ฟอร์มเหนียวหนึบเป็นตังเมให้ได้เห็นมาตลอด
 

hspace=0  อันดับ 10 : โจ ฮาร์ท
  มีผู้รักษาประตูดาวรุ่งชาวผู้ดีมากมายหลายคน ที่ลงยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับต้นสังกัดของตนเอง แต่ยังคงมีคำถามว่า บรรดามือกาวอย่าง สกอตต์ คาร์สัน, คริส เคิร์กแลนด์ และ เบน ฟอสเตอร์ จะไปได้ไกลแค่ไหนกัน แต่จากการที่ ฮาร์ท ได้สวมบทนายทวารของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้ ทำให้ได้รับโอกาสโชว์ฝีมือให้ได้เห็นกันมากกว่าใครเพื่อน และมีลุ้นขึ้นไปเป็นมือ 1 ทีมชาติอังกฤษคนต่อไปสูงทีเดียว


 

hspace=0  อันดับ 9 : มาร์ค ชวาร์เซอร์
  ฤดูกาลนี้นับเป็นปีที่ 13 ของเขาในอังกฤษ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา มือกาวทีมชาติออสเตรเลีย สร้างเซอร์ไพรส์เล็กๆ ด้วยการปฏิเสธต่อสัญญากับ มิดเดิ้ลสโบรช์ อู่ข้าวอู่น้ำเดิม แล้วก็เดินทางลงใต้มายังลอนดอน เพื่อลงสนามให้กับ ฟูแล่ม ทีมเล็กๆในเมืองหลวง และเขาก็ได้ยืนยันให้เห็นแล้วว่า การย้ายทีมครั้งนี้ แรงกระตุ้นในการเล่นฟุตบอลของเขายังไม่หมดไป เมื่อปล่อยให้บอลผ่านไปกองอยู่ก้นตาข่ายเพียง 11 ลูกเท่านั้น จากการลงสนามไปทั้งสิ้น 14 เกม


 

hspace=0  อันดับ 8 : ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น
  จอมหนึบจากฟินแลนด์เก็บสถิติในพรีเมียร์ลีกไปแล้วกว่า 400 เกม จาก 12 ปีที่เขาลงเฝ้าเสาให้กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส แต่ทว่าในวัย 33 ปี เขากลับโชว์ฟอร์มเด่นขึ้นเรื่อยๆซะอย่างงั้น ยาสเคไลเน่น เกือบย้ายออกจาก รีบอค สเตเดี้ยมไปแล้ว เมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ท้ายที่สุด เขาก็ตกลงใจต่อสัญญาอีก 1 ปี เพื่อช่วย เดอะ ทร็อตเตอร์ส ลุ้นหนีตายอีกครั้งหนึ่งในปีนี้


 

hspace=0  อันดับ 7 : โรเบิร์ต กรีน
  ถ้ามันขึ้นอยู่กับเกมทีมชาติ กรีนคงไม่ได้มีชื่ออยู่ในการจัดอันดับครั้งนี้ แต่ฟอร์มสุดหนึบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สร้างความประทับใจมาตลอดตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ไม่เพียงแต่ เหล่าสาวก ขุนค้อน  และคนอื่นๆใน อัพตัน พาร์ค เพียงเท่านั้น ที่ยากจะเข้าใจว่า ทำไม ฟาบิโอ คาเปลโล่ มักมองข้าม ผู้รักษาประตูฝีมือดีรายนี้อยู่บ่อยครั้ง


 

hspace=0  อันดับ 6 : แบรด ฟรีเดล
  เมื่อตอนที่ ฟรีเดล เฝ้าเสาให้ ลิเวอร์พูล มีน้อยคนที่จะยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในนายด่านที่ดีที่สุดในลีก แต่สิ่งที่จอมหนึบชาวอเมริกัน ทำให้กับ แบล็คเบิร์น และ แอสตัน วิลล่า เป็นการยืนยัน ได้เป็นอย่างดี ว่าเขาสมควรได้รับการยกย่องแบบนั้น



 

hspace=0  อันดับ 5 : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
  เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องคิดมากขนาดไหน เมื่อเขาต้องรออีก 4 ปี กว่าจะได้เซ็นสัญญากับนายประตูร่างโย่งรายนี้ แทนที่จะตัดหน้า ฟูแล่ม เมื่อปี 2001 ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ไว้ใจได้ ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากการจากไปของ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เมื่อปี 1999 การเซฟลูกจุดโทษของ นิโกล่าส์ อเนลก้า ทำให้ทีมคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองเมื่อฤดูกาลก่อนอีกด้วย


 

hspace=0  อันดับ 4 : เดวิด เจมส์
  ในวัยอีก 2 ปี จะอายุครบ 40 เจมส์ยังคงฉายแสงอยู่ในลีกสูงสุดแดนผู้ดีต่อไป นายด่านพอร์ทสมัธ กลับมายึดตำแหน่งมือ 1 ทีมชาติอังกฤษได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ต้องขอบคุณฟอร์มเหนียบหนึบที่เขาได้แสดงให้เห็นระหว่างการค้าแข้งในถิ่น แฟร็ตตัน พาร์ค มันไม่ใช่การกล่าวเกินจริงไปนัก หากจะบอกว่าเขาน่าจะเป็นอันดับ 1 ใน การเลือกครั้งนี้ หากเขาขจัดลูกเฟอะฟะ ออกไปได้หมดสิ้น


 

hspace=0  อันดับ 3 : เชย์ กิฟเว่น
 บรรดาแผงหลังของ นิวคาสเซิ่ล ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ทำให้สถิติของ กิฟเว่น ไม่ค่อยน่าชื่นชมนัก แต่นั่นเป็นเพียงแค่ครึ่งเดียวของเรื่องราวความหนึบของโกล์ชาวไอริช กองหลังส่วนใหญ่ที่ปักหลักอยู่ข้างหน้าเขาฝีเท้าเข้าขั้นห่วยแตก จนน่าจะทำให้พวกเขาตกชั้นไปตั้งนานแล้ว แต่ที่ สาลิกาดง ยังคงยืดอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้ เป็นเพราะฟอร์มการเล่นของปราการด่านสุดท้ายของพวกเขานั่นแหละ


 

hspace=0  อันดับ 2 : เปเป้ เรน่า
  มีเดอะ ค็อป ไม่กี่คนที่รู้จักชื่อของ จอมหนึบหัวเหม่ง เมื่อครั้งที่เขาย้ายมาจาก บียาร์เรอัล เมื่อปี 2005 แต่มือกาวชาวสแปนิชกลับทำหน้าที่ผู้พิทักษ์เสาประตูให้กับ หงส์แดง ได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งของ เจอร์ซี่ ดูเด็ค ด้วยการคว้าตำแหน่งผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก 3 ปีติดต่อกัน และถ้า ลิเวอร์พูล ต้องลงดวลจุดโทษเมื่อไหร่ คุณย่อมรู้ดีว่า ควรเดินไปวางเดิมพันที่ฝั่งไหน


 

hspace=0  อันดับ 1 : ปีเตอร์ เช็ก
  เช็ก เฉือน เรน่า เข้าเส้นชัยแบบเส้นยาแดงผ่าแปด นายประตูทีมชาติเช็ก อาจ สูญเสียความสุดยอดของเขาไปบ้างเมื่อตอนเพิ่งย้ายมาในลีกแดนผู้ดีใหม่ๆ แต่หลังจากนั้น เขากลับมารักษาฟอร์มระดับโลกได้อย่างต่อเนื่อง และต้องบอกว่า ตอนนี้เขาได้กลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง หลังจากได้รับบาดเจ็บที่หัวอย่างรุนแรง ในเกมกับ เร้ดดิ้ง เมื่อสองปีก่อน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์