♥ปรีวิวฟุตบอล : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2) VS แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (11)♥

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (2) VS แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (11) ... (22.00 น.)

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

การพบกันล่าสุด

11-04-10  แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส    เสมอ    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  0-0 พรีเมียร์ลีก
01-11-09  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด    ชนะ    แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส  2-0 พรีเมียร์ลีก
22-02-09  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด    ชนะ    แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส  2-1 พรีเมียร์ลีก
04-12-08  แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด    ชนะ    แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส  5-3 คาร์ลิ่ง คัพ
04-10-08  แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส    แพ้    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  0-2 พรีเมียร์ลีก

ตารางการพบกันทั้งหมด

ตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

25-11-10  ชนะ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส  1-0 เยือน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
20-11-10  ชนะ วีแกน แอธเลติก  2-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
13-11-10  เสมอ แอสตัน วิลล่า  2-2 เยือน พรีเมียร์ลีก
11-11-10  เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้  0-0 เยือน พรีเมียร์ลีก
06-11-10  ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-1 เหย้า พรีเมียร์ลีก

ฟอร์มเกมเหย้าในลีกล่าสุด แข่ง 7 นัด ชนะ 6 เสมอ 1 แพ้ 0 ได้ 17 ประตู เสีย 5 ประตู

 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

21-11-10  ชนะ แอสตัน วิลล่า  2-0 เหย้า พรีเมียร์ลีก
13-11-10  แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์  2-4 เยือน พรีเมียร์ลีก
11-11-10  ชนะ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  2-1 เยือน พรีเมียร์ลีก
06-11-10  ชนะ วีแกน แอธเลติก  2-1 เหย้า พรีเมียร์ลีก
30-10-10  แพ้ เชลซี   1-2 เหย้า พรีเมียร์ลีก

ฟอร์มเกมเยือนในลีกล่าสุด แข่ง 7 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 4 ได้ 9 ประตู เสีย 12 ประตู

ความพร้อมล่าสุด

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือสายเลือดสก็อตต์ของทีม เกมนี้จะไม่สามารถเรียกใช้บริการของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์ฝีเท้าเยี่ยม , อันโตนิโอ วาเลนเซีย ตัวริมเส้นชาวเอกวาดอร์ , โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ กองกลางจอมเดี้ยง และ ไมเคิ่ล โอเว่น ดาวยิงตัวสำรอง ลงสนามช่วยทีมได้อย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากบาดเจ็บกันเรียบ ขณะที่ พอล สโคลส์ ตัวโฮลด์บอลจอมเก๋า เกมนี้ก็จะยังคงต้องรอเช็คสภาพความฟิตกันในนาทีสุดท้ายอยู่ก่อนว่า จะพร้อมที่จะลงมีส่วนร่วมไปกับทีมสำหรับศึกนี้ได้หรือไม่ด้วย เพราะว่าติดปัญหาโรคเดี้ยงตามรบกวนอยู่ไม่เลิกนั่นเอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะสามารถผ่านการทดสอบดังกล่าวได้สำเร็จ และน่าจะได้ลงสตาร์ทในตำแหน่ง 11 คนแรกเช่นเดิมด้วย ด้านในส่วนของคนอื่น ๆ ที่เหลือนอกเหนือจากนี้นั้น ทุกคนยังคงถือว่าอยู่กันครบ และพร้อมที่จะลงเล่นให้กับทีมได้ทั้งหมดตามปกติไม่มีปัญหา โดยในระบบ 4-4-2 ของทีม เกมนี้คาดว่า เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกคนเก่ง ซึ่งกลับมาฟิตสมบูรณ์เต็มที่แล้วนั้น นัดนี้น่าจะถูกรับเลือกให้ลงจับคู่ประสานงานในแดนหน้าร่วมกันกับคู่หู ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ตัวจบสกอร์เชื้อสายบัลแกเรีย เพื่อทำการล่าสังหารตาข่ายฝ่ายตรงข้ามด้วยกันต่อไป พร้อมมี นานี่ ปีกมากเทคนิคสัญชาติ โปรตุเกต และ พาร์ค ชี-ซอง ตัวรุกยี่ห้อเกาหลีใต้ คอยช่วยกันทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุกทางด้านริมเส้นให้อยู่ข้างหลังเหมือน เดิม

นักเตะที่มีปัญหาอาการบาด / ไม่พร้อมที่จะลงสนาม : ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ , ไมเคิ่ล โอเว่น
นักเตะที่ต้องรอเช็คสภาพความฟิต : พอล สโคลส์
นักเตะที่ติดโทษแบน : -

 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส

แซม อัลลาร์ไดซ์ เฮ้ดโค้ชชั่วโมงบินสูงของทีม เกมนี้จะต้องจัดทัพโดยปราศจากผู้เล่นชุดใหญ่ให้ใช้งานไปมากหน้าหลายทีเดียว เมื่อ คีธ แอนดริวส์ , วินซ์ เกรลล่า , เบนยานี่ , สตีเว่น เอ็นซ็องซี่ , มาร์ติน โอลส์สัน และ แบร็ตต์ เอเมอร์ตัน จะลงสนามช่วยทีมไม่ได้ทุกรายอย่างแน่นอนแล้ว เนื่องจากบาดเจ็บกันเรียบ ขณะที่ กาแอล ชิเว่ต์ ดีเฟนเดอร์เฟรนช์แมน กับ มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น ตัวริมเส้นทีมชาตินอร์เวย์ เกมนี้ก็จะยังคงต้องรอเช็คสภาพความฟิตกันในนาทีสุดท้ายอยู่ก่อนว่า จะพร้อมที่จะลงมีส่วนร่วมไปกับทีมสำหรับศึกนี้ได้หรือไม่ด้วย เนื่องจากมีอาการเป็น ไข้ กับเจ็บเอ็นร้อยหวายอยู่ตามลำดับ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าน่าจะผ่านมาการทดสอบดังกล่าว และพร้อมที่จะลงบู๊ในแมตช์นี้ได้ตั้งแต่นาทีแรกทั้งคู่ไม่มีปัญหาเหมือนเดิม ด้านในส่วนของคนอื่น ๆ ที่เหลือนอกเหนือจากนี้นั้น ทุกคนยังคงถือว่าอยู่กันครบ และพร้อมที่จะลงเล่นให้กับทีมได้ทั้ง หมดตามปกติ โดยในระบบ 4-2-3-1 ของทีม เกมนี้คาดว่า เจสัน โรเบิร์ตส์ หัวหอกจอมทะลวงตาข่าย นัดนี้น่าจะยังคงได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวยืนในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า เพื่อทำการล่าสังหารตาข่ายฝ่ายตรงข้ามต่อไป พร้อมมี ดาวิด ฮอยเล็ตต์ กองหน้าสายเลือดแคนาดา , เดวิด ดัน น์ เพลย์เมคเกอร์ตัวหลัก และ เอล ฮัดจิ ดิยุฟ จอมบุกเชื้อสายเซเนกัล คอยช่วยกันทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมรุกให้อยู่ข้างหลังไม่มีเปลี่ยนแปลง

นักเตะที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ / ไม่พร้อมที่จะลงสนาม : คีธ แอนดริวส์ , วินซ์ เกรลล่า , เบนยานี่ , สตีเว่น เอ็นซ็องซี่ , มาร์ติน โอลส์สัน , แบร็ตต์ เอเมอร์ตัน
นักเตะที่ต้องรอเช็คสภาพความฟิต : กาแอล ชิเว่ต์ , มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น
นักเตะที่ติดโทษแบน : -

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-4-2) : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ; จอห์น โอเช , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมานย่า วิดิช , ปาทริซ เอวร่า ; นานี่ , ไมเคิ่ล คาร์ริค , พอล สโคลส์ , พาร์ค ชี-ซอง ; เวย์น รูนี่ย์ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (4-2-3-1) : พอล โรบินสัน ; มิเชล ซัลกาโด้ , คริสโตเฟอร์ แซมบ้า , ไรอัน เนลเซ่น , กาแอล ชิเว่ต์ ; ฟิล โจนส์ , มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น ; ดาวิด ฮอยเล็ตต์ , เดวิด ดันน์ , เอล ฮัดจิ ดิยุฟ ; เจสัน โรเบิร์ตส์

ข้อมูลที่น่าสนใจ

Head to Head

+ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ต่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส มา 9 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว โดยแบ่งเป็นชนะถึง 7 เกมเลยทีเดียว

+ เป็นเวลากว่า 4 ปีแล้วที่ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ยังไม่สามารถเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เลย ซึ่งหนล่าสุดนั้นต้องย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 เลยทีเดียว โดยเกมดังกล่าว แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เอาชนะไปได้ 4-3 เดวิด เบนท์ลี่ย์ กระหน่ำแฮตทริก และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนามไปด้วย

 Manchester United

+ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวในลีกที่ยังไม่แพ้ทีมใดเลยจนกระทั่งถึงเวลานี้

+ นี่เป็นครั้งแรกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เลยทีเดียวที่คุมทีมไม่แพ้ทีมใดใน 14 เกมแรกของฤดูกาล

+ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำประตูได้ 2 ลูกใน 12 จาก 14 เกมในลีกของฤดูกาลนี้ โดย 2 ทีมที่หยุดสถิติดังกล่าวของพวกเขาไว้ได้นั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ซันเดอร์แลนด์ นั่นเอง

 Blackburn Rovers

+ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ 3 จาก 4 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก อีกทั้งยังยิงได้ 2 ประตูทุกนัดด้วย

+ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ แพ้ทั้งหมด 4 เกมเลยทีเดียวยามเมื่อถูกคู่แข่งยิงนำไปก่อน

+ ถ้า ปาสกาล ชิมบงด้า ได้ลงเล่นเกมนี้ นี่จะเป็นเกมที่ 200 ของเขาในชีวิตการค้าแข้งที่อังกฤษทันที

ดาวซัลโวประจำทีม

 Manchester United

+ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ : 7 ประตู / 6 ลูกในลีก , ฆาเบียร์ เอร์นานเดซ : 7 ประตู / 4 ลูกในลีก

 Blackburn Rovers

+ มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น : 4 ประตู / 4 ลูกในลีก , มาเม่ ดิยุฟ : 4 ประตู / 1 ลูกในลีก

ทรรศนะ

ต้อง ถือว่า ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูจะได้เปรียบกว่าอยู่ในระดับหนึ่งทีเดียวสำหรับเกมนี้ เมื่อจะได้ลงเล่นในถิ่น อีกทั้งยังจะได้รับกำลังใจจากแฟนบอลที่มากมายกว่าคอยให้การสนับสนุนอย่างล้น หลามด้วย นอกจากนี้ในแง่ของสภาพความสมบูรณ์ของทีมแล้ว พวกเขาก็ดูเหมือน จะพร้อมรบมากกว่าอีกต่างหากเช่นเดียวกันด้วย เพราะว่ามีผู้เล่นที่ขาดหายไปในจำนวนที่น้อยกว่าอยู่ค่อนข้างชัดเจนนั่นเอง แถมผลงานในถิ่นก็ยอดเยี่ยมมากไม่แตกต่างกันด้วย หลังจากเก็บได้ถึง 19 จาก 21 คะแนนในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว กระนั้นด้วยความที่นักเตะหลายคนอาจจะ ล้ามาบ้างจากเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส เมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ถือว่านี่จะเป็นข้อด้อยของทีมในเกมนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

ขณะ ที่ กุหลาบไฟ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส นั้น เกมนี้ต้องถือว่าบุกมาเยือนด้วยสภาพความสมบูรณ์ของทีมที่ดูจะเป็นรองกว่า อย่างค่อนข้างชัดเจนอยู่ เมื่อมีผู้เล่นที่ขาดหายไปในปริมาณที่มากกว่าเจ้าบ้านอย่างเห็นได้ชัดนั่น เอง นอกจากนี้แล้ว ด้วยความที่ต้องมาแบกรับความกดดันในฐานะอาคันตุกะ ศึกนี้ ประกอบไปกับผลงานนอกบ้านก็ใช่ว่าจะดีเด่อะไรด้วย ทำให้เกมนี้พวกเขาต้องนับว่าดูจะด้อยกว่าอยู่ไม่มากก็น้อยทีเดียว ทว่าด้วยความที่ความสดดูจะมีอยู่อย่างเต็มหลอดมากกว่า เพราะไม่มีเกมฟุตบอลสโมสรยุโรปให้ลงเล่นเมื่อกลางสัปดาห์ แถมฟอร์มช่วงหลังก็จัดว่ายอดเยี่ยม เมื่อชนะ 3 จาก 4 เกมหลังสุดด้วย เชื่อว่านี่จะเป็นแรงผลักดันให้กับทีมได้ด้วยอย่างแน่นอนโดยไม่มีข้อโต้แย้งแต่อย่างใด

เกม นี้มองแล้ว ด้วยความที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องถือว่าดูจะมีข้อได้เปรียบที่มากมายกว่าอยู่ด้วยเหตุผลต่าง ๆ ที่ว่ามาทั้งหมดข้างต้นดังกล่าว เชื่อว่าโอกาสที่จะเป็นพวกเขาที่จะเดินหน้าคว้า 3 คะแนน และสามารถแซง เชลซี ขึ้นไปนำจ่าฝูงได้เป็นการชั่วคราวนั้น น่าจะมีความเป็นไป ได้มากที่สุด และนับว่ามีความน่าจะเป็นที่สูงเอาการทีเดียวที่จะลงเอย ณ ตรงจุดที่ว่ามาดังกล่าวนี้ด้วย อย่างไรก็ตามจากการที่แข้งดังหลายคนอาจจะมีอาการล้ามาจากเกมกลางสัปดาห์ที่ ว่าเอาไว้ข้างต้น บวกกับฟอร์มของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก็ดีขึ้นมาด้วยนั้น คาดว่าในเรื่องของตัวเลขบนสกอร์บอร์ดแล้ว คงจะออกมาในลักษณเฉือนหวิวฉิวเฉียดเท่านั้น

credit by : lomtoe.com