ไล่โด้!หมูพลิ้วยิงลูกที่100ดับซ่าเรือ

ไล่โด้!หมูพลิ้วยิงลูกที่100ดับซ่าเรือ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดประกาศศักดาเป็นเต้ยประจำเมืองหลังบุกมาเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้คู่ปรับเก่าถึงถิ่น 1-0 จากประตูโทนของเวย์น รูนีย์ซึ่งทำลูกที่ 100 ให้ตัวเองแต่ก็มาเสียคริสติอาโน่ โรนัลโด้ที่ถูกเหลืองแดงจากเจตนาทำแฮนด์บอลช่วงท้ายเกม

แมนฯซิตี้ 0-1 แมนฯยูฯ

สนาม :
ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์

ประตู : 0-1 รูนีย์ น.42

สภาพอากาศ : เย็นสบายมีแดดอ่อนๆ

พอกรรมการเป่านกหวีดเริ่มเกมฝั่งยูไนเต็ดที่เป็นฝ่ายเขี่ยก่อนถูกแฟน"ซิตี้"โห่เป่าปากทำลายสมาธิก่อนทันที

ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองบอลค่อยทำเกมกันขึ้นมาส่วน"เรือใบ"ต้องกลายเป็นฝ่ายไล่บอลท่ามกลางเสียงโห่เป็นระยะๆ

เล่นมา 6-7 นาทียังไม่มีโอกาสทำประตูกันเลยแต่ดูเหมือนราฟาเอล ดา ซิลวาที่ป๋าให้ยืนแบ็คขวาตัวจริงเล่นใช้ได้เลย มีแตะอ้อมการ์ริโด้ตรงปีกขวาแล้ววิ่งมาตบบอลจากกรอบโทษฝั่งขวาแต่มาติดบล็อกดันน์ซะก่อน

นาทีที่ 8 ยูไนเต็ดได้โอกาสก่อนหลังเบอร์บาตอฟได้บอลตรงหน้าเขตโทษก่อนให้บอลเผื่อปาร์ควิ่งมาตบบอลจากกรอบโทษฝั่งขวาบอลเลียดเลยมาถึงรูนีย์ที่วางเท้าเอียงตัววอลเลย์บอลไปตรงตัวฮาร์ทที่ล้มตัวรับเข้าซองง่ายๆแต่เรื่องเหลือเชื่อคือตอนล้มตัวนอนซองแตกบอลทะลักจนเฟลทเชอร์กำลังจะซ้ำแต่ถูกเคลียร์ทิ้งทัน

บอลของยูไนเต็ดเหนือกว่ามากเพราะซิตี้ยังทำเกมไม่ขึ้นเลยแถมเจอเด็กป๋าไล่เจาะริมเส้นซ้ายขวาอย่างสนุกสนาน

นาที 13 จังหวะเตะมุมรูนีย์เปิดมาโรนัลโด้โผนโหม่งตรงระยะ 12 หลาบอลข้ามคานออกไปแบบได้เสียว

เกมสูสีที่แดนกลางอยู่นานนาที 23 ปาร์คขึ้นมาถึงหน้ากรอบโทษฝั่งขวาก่อนป้ายออกปีกให้ราฟาเอลเปิดบอลย้อยเข้าหัวเบอร์บาตอฟที่สะบัดขวิดบอลย้อยหนีมือฮาร์ทกำลังจะเสียบเสาแต่นายทวารดาวรุ่งบินปัดปลายมือออกหลังนิดเดียว

อีก 3 นาทียังเป็นทีมเยือนที่ไล่นวดอย่างหนักคราวนี้โรนัลโด้มาเก็บตกบอลเลยเสาสองมาถึงกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนแทงเลียดให้เอวร่าแตะให้รูนีย์แต่ถูกโจ ฮาร์ทชกออกมาก่อนบอลมาเข้าทางแบ็คตาถลนที่ซัดด้วยอีขวาจากระยะ 10 หลาบอลข้ามคานออกไปสุดเสียว

โอกาสแรกของเรือใบเกือบกลายเป็นประตูหน้าตาเฉยเมื่อลูกฟรีคิกยาวจากปีกขวาเข้าเขตโทษเป็นฟาน เดอร์ ซาร์กระโดดฉกบอลไม่ไปไหนไกลเป็นเบนจานี่ยิงยัดก่อนที่ไมคาห์ ริชาร์ดสมาสะกิดบางๆเผาขนแค่ 6 หลาบอลแฉลบเสาออกหลังนิดเดียวเท่านั้น จังหวะนี้แข้งทีมชาติอังกฤษไม่ล้ำหน้าเพราะริโอถอยมายืนคุมเส้นอยู่นั่นเอง

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 10 นาทีเฟลทเชอร์แทงบอลจากกลางสนามให้รูนีย์ซึ่งไขว้บอลทำชิ่งให้อดีตแข้งสเปอร์สวิ่งมาเอาแต่ด้วยความที่เป็นคนไม่มีสปีดเร็วมากนักเลยเลี้ยงเอื่อยๆก่อนแปะเข้ากลางเขตโทษให้เบอร์บาตอฟยิงแต่ตัวเองลื่นล้มบอลบดออกข้างเสาอย่างน่าเสียดาย

นาที 41 เบนาจานี่ทำท่าง้างยิงบอลหน้ากรอบโทษแต่ดันไปเหยืยบ

แต่แล้วไม่ถึงนาที"ปิศาจแดง"มาขึ้นนำจนได้จากลูกที่เบอร์บาตอฟโขกเช็ดบอลที่เพื่อนเปิดมาให้มาถึงปาร์คที่หันหลังบังบอลในเขตโทษก่อนเลยมาถึงรูนีย์ที่ยึกยักหาจังหวะยิงแต่เหมือนจะจบเห่เพราะแข้งเจ้าถิ่นวิ่งกรูมามะรุมมะตุ้มแย่งแต่ปาร์คสู้ใจขาดดิ้นโขกแย่งให้คาร์ริคได้ซัดมุมแคบระยะ 7 หลาฮาร์ล้มตัวปัดแต่โชคร้ายมาเข้าทางรูนีย์ที่แปเผาขนง่ายๆไม่มีเหลือเป็นประตูที่ 100 ของหมูพลิ้วและลูกแรกหลังทำไม่ได้มา 7 นัดอีกด้วย หมดครึ่งแรกยูไนเต็ดนำ 1-0 ด้วยฟอร์มที่เหนือกว่าเยอะมาก

ครึ่งหลังมาร์ค ฮิวจส์เปลี่ยนสองตัวรวดโดยเอาซาบาเลต้าแทนฮามันน์และเอลาโน่มาแทนวาสเซลล์และเริ่มเกมมา"เรือใบ"บุกหนักชวนทะเลาะก่อนทันทีทำให้แนวรับยูไนเต็ดต้องหวดทิ้งกันอย่างหนัก

เจ้าถิ่นบุกหนักและได้บอลเยอะกว่าครึ่งแรกก็จริงแต่ที่เสี่ยงคือตอนสวนกลับอาจพังได้เพราะยูไนเต็ดจ้องยิงลูกสองอยู่เห็นๆ

นาที 56 "เรือใบ"ได้เสียวบ้างเมื่อจังหวะสวนกลับฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์เก็บบอลตรงกลางสนามได้ก่อนลากขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษแล้วไหลนิ่มๆให้เบนจานี่วิ่งสอดเข้าเขตโทษก่อนยิงเร็วบอลพุ่งชนข้างตาข่ายสนั่น

เลยหนึ่งชั่วโมงมาตอนนี้เกมมันโคตรเพราะแต่ละฝั่งเปิดเกมรุกเข้าใส่กันจนแฟนร้องฮือฮาทั้งสนามได้อารมณ์สุดๆแต่ตอนนี้แข้งทีมเยือนโดนใบเหลืองกันระนาวโดยครึ่งหลังทั้งโรนัลโด้และเอวร่ารับกันอีกคนละใบแล้ว

นาที 66 การ์ริโด้ปั่นฟรีคิกด้วยอีซ้ายระยะ 25 หลาบอลโค้งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว เห็นแล้วนึกถึงตอนที่ซัดผ่านเรน่าของลิเวอร์พูลขึ้นมาจับใจ

แต่อีก 2 นาทีตค่อมาโรนัลโด้มาถูกใบเหลืองที่สองไล่ออกง่ายๆหลังจังหวะเพื่อนเตะมุมแกโถมมาแล้วเอาสองมือตบบอลเฉยเลย เสียค่าโง่กันไป

พอตัวมากกว่าตอนนี้ซิตี้คะนองนาไล่นวดยูไนเต็ดอย่างหนักและตอนนี้ทีมเยือนหันมาช่วยกันตั้งรับหมายจะรักษาสกอร์ขึ้นนำให้ได้ตลอดรอดฝั่ง

เกมรุกของยูไนเต็ดตายสนิทเพราะตัวน้อยกว่าจะคิดจะทำอะไรก็ช้าจนถูกตัดไปได้บ่อยครั้งโดยเฉพาะรูนีย์แต่"เรือใบ"เสียบอลง่ายในจังหวะสุดท้ายและถ้าเป็นแบบนี้ตัวที่มากกว่าอาจจะไม่มีประโยชน์เลยด้วยซ้ำ

ช่วงท้ายเกมกดดันกันทั้งสองทีมป๋าต้องออกมาด่าไลน์แมนหลังราฟาเอลได้ครองบอลตรงริมเส้นโดยมีโรบินโญ่ตั้นจากด้านหลังแต่กลับให้เป็นฟาว์ลของ"เรือใบ"เฉย ไม่รู้ฟาว์ลตรงไหน

ช่วงทดเจ็บเรือใบน่าจะตีเสมอได้หลังฟาน เดอร์ ซาร์พุ่งปัดลูกยิงเผาขนของริชาร์ด ดันน์บนเส้นจากจังหวะลูกเตะมุมและตอนสวนกลับปากประตูเจ้าถิ่นโล่งๆเพราะโจ ฮาร์ทขึ้นมาก่อนที่รูนีย์จะยิงไกลแต่ฮาร์ทวิ่งหน้าตั้งกระโดดปัดบอลค่อยๆไหลออกข้างเสาเป็นเตะมุม

จบเกม"ปิศาจแดง"บุกมาชนะ 1-0 ชนะนอกบ้านเป็นนัดที่ 3 จาก 8 เกมไล่จี้เชลซีเหลือ 5 แต้มโดยเตะน้อยกว่าหนึ่งเกมส่วนลูกทีมมาร์ค ฮิวจส์แพ้ 4 จาก 6 เกมหลังสุดรั้งอันดับ 14 อย่างน่าหดหู่

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ :
โจ ฮาร์ท,ไมคาห์ ริชาร์ดส(สเตอร์ริดจ์ น.76),แวงซองต์ กอมปานี,ริชาร์ด ดันน์,ฆาเบียร์ การ์ริโด้,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ,ดีทมาร์ ฮามันน์(ซาบาเลต้า น.46),ดาริอุส วาสเซลล์ (เอลาโน่ น.46),โรบินโญ่,เบนจานี่

แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,ราฟาเอล ดา ซิลวา ,ริโอ เฟอร์ดินานด์,เนมันย่า วิดิช,ปาทริซ เอวร่า ,คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ,ไมเคิ่ล คาร์ริค ,ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ,ปาร์ค จี ซอง(โอเช น.90),เวย์น รูนีย์,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ(กิกส์ น.84)































 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์