โอเว่นมั่นใจสืบทอดตำนานเบอร์7

โอเว่นมั่นใจสืบทอดตำนานเบอร์7



ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยตอบรับอย่างไม่ลังเลใจตอน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถามว่า ใจแข็งพอสวมเสื้อเบอร์ 7 หรือเปล่า เผยรู้ตัวว่ามีแรงกดดันสูง เพราะว่าเจ้าของเก่าแต่ละคนดังๆ เก่งๆ ทั้งนั้น ทั้ง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า, เดวิด เบ็คแฮม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้



เบบี้โกล์ ไมเคิ่ล โอเว่น หัวหอกตัวใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกผู้ดี มั่นใจว่า สืบทอดตำนานเสื้อเบอร์ 7 ของ ปีศาจแดง ต่อจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับ ที่ย้ายไป เรอัล มาดริด ได้อย่างแน่นอน แม้ยอมรับว่า มีความกดดันจากการที่มีอดีตนักเตะยิ่งใหญ่หลายคนเคยสวม ทั้ง จอร์จ เบสต์, ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตน่า และ เดวิด เบ็คแฮม


โอเว่น วัย 29 ปี ที่สวมเสื้อทีมลงสนามครั้งแรกในเกมอุ่นเครื่องปรี-ซีซั่นที่ยิงประตูชัยช่วยทีมเอาชนะทีมรวมดารามาเลเซีย 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 ก.ค. กล่าวว่า เสื้อตัวนี้มันมีแรงกดันในตัวมันเองอยู่แล้ว และสมัยก่อนมีนักเตะที่ยิ่งใหญ่หลายคนเคยสวมเสื้อเบอร์นี้ แต่ผมจะพยายาม ผู้จัดการทีมขอให้ผมใส่เบอร์นี้ เขาบอกว่านักเตะที่จะใส่เบอร์นี้ต้องมีจิตใจที่เข้มแข้ง และถามผมว่า ผมจะรับมือได้มั้ย


ผมตอบอย่างไม่ลังเลว่าได้ ผมรู้ว่ามันมีความหมายมากขนาดไหน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสียนักเตะสำคัญ 2 คนออกไปทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาร์ลอส เตเวซ โรนัลโด้ ยิงประตูให้ทีมมากมาย และผมมาที่นี่โดยหวังว่าผมจะสามารถทดแทนได้ โอเว่น ที่ซัด 158 ประตู จากการเล่นให้ ลิเวอร์พูล 296 นัด และได้บัลลง ดอร์ มานอนกอดปี 2001 กล่าว


ดาวยิงร่างเล็ก แจ้งเกิดจากลีลาการกระชากบอลด้วยความเร็วสูงเข้าไปซัดประตู อย่างที่เห็นในฟุตบอลโลก ปี 1998 ที่เขาเผา โฮเซ่ ชาม็อต และ โรแบร์ต้า อยาล่า สองกองหลังทีมชาติอาร์เจนตินา แต่ด้วยอายุอานามที่มากขึ้น ประกอบการโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมาตลอด เขาจึงไม่ได้ปราดเปรียวแบบก่อน 


นี่คือโอกาสที่ผมจะได้เสดงให้ทุกคนเห็นว่าผมยังทำได้ ผมรับมือกับความกดดัน และความคาดหวังได้ ผมเคยทำมาแล้ว และผู้จัดการทีมทุกคนที่เคยร่วมงานด้วยต่างบอกว่าผมทำได้ มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่ดึงเอาฟอร์มที่ดีที่สุดของผมออกมา ผมภูมิใจกับความจริงที่ว่าผมเคยเล่นให้ทีมที่ยิ่งใหญ่มาก่อน ตอนนี้ผมไม่ได้คิดถึงการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ ถ้าผมได้รับการเรียกตัวก็สุดยอดไปเลย แต่ถ้าไม่ ผมก็ยังเป็นนักเตะยูไนเต็ด และผมยังมีรอยยิ้ม โอเว่น กล่าว


บ้านผมอยู่ห่างจากสนามแข่ง และสนามซ้อมแค่ราวๆ 30-45 นาที ทุกอย่างสะดวกสบาย นี่คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของผม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือทีมที่แข็งแกร่ง พวกเขาเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่โชคร้ายที่วันเวลาของผมกับ นิวคาสเซิ่ล มันน่าผิดหวังด้วยเหตุผลหลากหลายประการ แต่ในท้ายที่สุด ผมสามารถมองกระจก และรู้ว่าผมพยายามเต็มที่แล้วตลอด 4 ปีกับ นิวคาสเซิ่ล


ตอนผมเซ็นสัญญาย้ายมา ผมยิงได้ และทีมชนะ ผมยิงแฮตทริกในเกมกับ เวสต์แฮม ทุกอย่างไปได้สวย คนเรามีความเห็นต่างกันไป แต่ผมได้พยายามเต็มที่ที่สุดแล้วกับ นิวคาสเซิ่ล ผมมีปัญหาบาดเจ็บ 2 ปี แต่มันใช่ความผิดของผม เกมกับ สเปอร์ (ธ.ค. 2005) ผมพยายามยิงประตูทั้งที่มีคนย่ำเท้าผม พอผมกลับมา ผมก็ยิงได้ คนอื่นๆ อาจมองดู และบอกว่า ผมมีค่าตัว 16 ล้านปอนด์ (ราว 900 ล้านบาท) และลงเล่นไม่กี่เกม ทุกคนมีความเห็นเป็นของตัวเอง โอเว่น กล่าว


โอเว่น ย้ายมาสมัยที่ แกรม ซูเนสส์ คุมทีม และผ่านการร่วมงานกับกุนซือมากมายหลายคน ทั้ง เกล็น โรเดอร์, แซม อัลลาไดซ์, เควิน คีแกน และ อลัน เชียเรอร์ โดยเขาอธิบายเหตุผลของความล้มเหลวของทีม ที่เพิ่งตกชั้นในซีซั่นล่าสุดด้วย นิวคาสเซิ่ล ขึ้นๆ ลงๆ มาตลอด ผมอยู่ในทีมที่เล่นไม่ดี ขาดความมั่นใจ และมันเป็นเหมือนลูกบอลหิมะ มันมีเหตุผลเยอะแยะ เรายิงไม่ได้ สูญเสียความเชื่อมั่น เรามีผู้จัดการทีมหลายคน มีการเปลี่ยนแปลงทีม และเจ้าของทีม ผมมีช่วงเวลาที่ดี แต่โดยรวมมันน่าผิดหวัง


ส่วนเรื่องตำแหน่งในทีมนั้น โอเว่น บอกว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของผมคืออยู่ในกรอบเขตโทษ ผมมีสัญชาติญาณ และอยู่ถูกที่ถูกเวลา เควิน คึแกน มีความรู้สึกว่า ทีมสร้างโอกาสได้ไม่มากพอ เขาเลยเปลี่ยนระบบ และให้ผมเป็นตัวเชื่อม ผมไม่มั่นใจว่ากับ ยูไนเต็ด ผู้จัดการทีมคิดอะไรอยู่ แต่คาดหวังว่าผมจะมีส่วนสำคัญ ไม่ว่าจะได้เล่น 10, 20 เกม หรือมากกว่านั้น



ข่าวจาก SIAMSPORT

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์