โลกช็อก! ปอมปีย์บุกคว่ำผีกระเด็นเอฟเอคัพ

ตะลึงกันทั้งโลกเมื่อทีม "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ สร้างเรื่องเหลือเชื่อด้วยการบุกมาคว่ำทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ได้ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด ทั้งที่โดนบุกยิงตลอดทั้งเกม แต่ก็มาได้จังหวะสวนทีเดียวได้จุดโทษและเป็นซุลลาย มุนตารี่ ที่เป็นฮีโร่ยิงเข้าไป โดยที่แมนฯ ยูไนเต็ดที่เหลือ 10 คน ต้องใช้ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นผู้รักษาประตูในช่วง 15 นาทีสุดท้ายด้วย


ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย (8 มี.ค.2551)

แมนฯ ยูไนเต็ด 0-1 พอร์ทสมัธ
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 0-1 ซุลลาย มุนตารี่ น.78
 
 
"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่าลงสนามพบกับ "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ด้วยสภาพทีมที่สุดปึ้ก เรียกว่าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ขนผู้เล่นชุดใหญ่มาเต็มๆ
 
ด้วยนักเตะแนวรุกเต็มพิกัดอย่างเวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ, นานี่ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เดินหน้าลุยใส่ทีมเยือนเต็มตัวทันที และสามารถกดดันแนวรับของปอมปีย์ได้หลายครั้งในช่วงต้นเกม
 
นาทีที่ 7 โรนัลโด้ เกือบจะทำให้ทีมได้จุดโทษ เมื่อได้บอลจากรูนี่ย์ และแต่งบอลได้สวยแล้วแต่โดนดิสแต็ง เบียดล้มไปในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ทั้งๆที่ดูเป็นการทำฟาวล์อย่างชัดเจน
 
แมนฯ ยูไนเต็ด บุกแทบจะข้างเดียว และน่าจะได้ประตูสุดๆอีกครั้งในนาทีที่ 19 เมื่อสวนกลับมาได้รุม 2-1 ซึ่งเตเวซ ก็ไหลให้รูนี่ย์เข้าไปดวลเดี่ยวกับเจมส์ และแตะหลบได้แล้วแต่ยิงช้าเกินไปทำให้ติดบล็อก พอเตเวซ จะซ้ำก็ติดเกล็นจอห์นสัน ที่ลงมาโขกสกัดจากเส้นได้อย่างเหลือเชื่อ
 
ปอมปีย์ ยังเป็นมวยพิงเชือกตั้งรับเอาอย่างเดียว แต่ก็รับกันได้แน่นจนเจ้าบ้านเริ่มเจาะไม่ถูก ยิ่งเล่นก็ยิ่งอึดอัดหัวใจแฟนๆเพราะไอเดียตีบตัน และตัวจี๊ดอย่างโรนัลโด้ก็โดนตัดหายไปจากเกมดื้อๆ สุดท้ายจบครึ่งแรกก็เลยยังเสมอกันอยู่ 0-0
 
เข้าสู่ครึ่งหลัง ยังไม่ทันไรเฟอร์กี้ก็ทำเซอร์ไพรซ์เปลี่ยนผู้รักษาประตูให้โทมัส คุสแซ็ค ลงสนามมาแทนฟาน เดอร์ ซาร์ ที่บาดเจ็บ ขณะที่รูปเกมก็เป็นไปลักษณะเดิม เมื่อปอมปีย์ตั้งรับรอสวนกลับอย่างเดียว
 
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นอย่างอดทน และใกล้เคียงจะได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 58 เมื่อบอมบ์ลูกกลางอากาศเข้ามา ก่อนที่บอลมาจะโดนสกัดมาหน้าเขตโทษ โรนัลโด้ ยิงสวนทันทีแต่ลูกกระดอนพื้นก่อนถากเสาออกไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
 
จากนั้นในนาทีที่ 67 เจ้าบ้านก็วืดไปอีกหน เมื่อต่อบอลทำเกมกันขึ้นมาได้สวยทางกราบซ้าย เอวร่า หลุดทะลุเข้ามาในเขตโทษ ก่อนจะตบเข้ากลางมาให้เตเวซ แต่ลูกย้อนหลังไป พอจะโยนกลับมาให้โรนัลโด้โขกอีกทีก็กดไม่ลงข้ามคานไปอีก
 
ถัดมาอีก 2 นาที ปีศาจแดงก็สมควรได้ประตูอย่างที่สุด เมื่อโรนัลด้ ตอกส้นให้คาร์ริค หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษก่อนแตะหลบเจมส์ได้แล้ว แต่จังหวะยิงดันโดนดิสแต็ง ตามมาบล็อกก่อนดักบอลได้บนเส้นอย่างเหลือเชื่อ ก่อนที่เจมส์จะตามมาตะครุบบอลได้
 
ถึงจะดูอับโชคแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่ท้อ บี้หนักจะเอาให้ได้ นานี้ได้วอลเล่ย์นอกกรอบเขตโทษเน้นๆแต่เจมส์ก็ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดได้ก่อนบอลไปชนเสาออกไปอีก
 
แต่แล้วในนาทีที่ 76 เหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อปอมปีย์ ได้สวนกลับมาแบบสองต่อสอง และต้องชมมุนตารี่ ที่จ่ายตัดทะลุช่องให้บารอส ได้สุดยอด ก่อนที่ดาวยิงเช็กจะลากหลบคุสแซ็คไปแล้วแต่โดนรวบล้ม ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษพร้อมแจกใบแดงไล่คุสแซ็คออกทันที
 
แมนฯ ยูไนเต็ดก็มีปัญหาหนักกว่าเดิมอีกเพราะไม่มีผู้รักษาประตูสำรองแล้ว ทำให้ริโอ เฟอร์ดินานด์ ต้องมาสวมบทประตูจำเป็นแทน และไม่อาจเซฟลูกยิงของมุนตารี่ ที่เสียบมุมเข้าไปได้ ปอมปีย์จึงนำ 1-0 อยางเหลือเชื่อ
 
อย่างไรก็ดี ถึงจะเหลือตัวน้อยกว่าแต่ปีศาจแดงก็ยังพยายามจะลุยเอาคืนให้ได้ และก็มีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้งเพียงแต่ก็ทำไม่ได้เสียที สุดท้ายก็เลยต้องยอมรับความพ่ายแพ้แบบเจ็บปวด กระเด็นตกรอบเอฟเอ คัพ ขณะที่ปอมปีย์ ได้เข้ารอบรองชนะเลิศเป็นทีมแรก


รายชื่อผู้เล่น
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ (เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ น.46) , เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, พอล สโคลส์, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ (ไมเคิล คาร์ริค น.68) , นานี่, เวย์น รูนี่ย์, คาร์ลอส เตเวซ (อันแดร์สัน น.68)

พอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มานน์ ไฮรดาร์สสัน, จอห์น อูตาก้า (โลแรน เอตาเม่ น.74) , ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ปาปา บูบา ดิย็อป, นิโก้ ครานชาร์ (ริชาร์ด ฮิวจ์ส น.81) , ซุลลาย มุนตารี่, เอ็นวานโก้ คานู (มิลาน บารอส น.54)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์