แม่มดแห่งเมือง ซาเล็ม


src=http://image.free.in.th/z/ic/200pxabigail_williams.png


วันที่ 20 มกราคม ปี 1692



เด็กหญิงหลายคนในหมู่บ้านซาเล็ม รัฐแมสซาซูเซตต์ เมืองเล็กๆ ในอเมริกา คืออลิซาเบธ แพร์ริส (Elizabeth Parris) อายุ 9 ปี บุตรสาวของซามูเอล แพร์ริสผู้นำนิกายโปรเตสแตนท์และเป็นนายกเทศมนตรีท้องถิ่นแห่งหมู่บ้านซาเล็ม อบิเกล วิลเลี่ยม (Abigail Williams) อายุ 12 ปี หลานสาวของมูเอล และแอน พัตนัม (Ann Putnum) อายุ 12ปี ลูกสาวของครอบครัวพัตนัม และเพื่อนๆ เกิดอาการเป็นลมหน้ามืด และมีอาการผิดปรกติหลายอย่าง เช่น หวีดร้องโหยหวน สักพักก็ล้มชักดิ้นชักงอ หน้าตาบิดเบี้ยว อยู่ในสถาวะไม่รู้สึกตัว กล่าวถ้อยคำดูหมิ่นพระเจ้า ศาสนา ถ้อยคำบางท่อนก็ฟังดูประหลาดลึกลับ คล้ายกับภาษาโบราณที่ฟังไม่รู้เรื่อง จากนั้นชั่วเวลาไม่นานนัก เด็กสาวอีกหลายคนก็แสดงอาการพฤติกรรมประหลาดที่ว่าเกิดขึ้นอีกหลายๆ หลังคาเรือน



ผู้ ปกครองของเด็กๆ ต่างไม่สบายใจและอยากจะรู้ว่าอะไรที่ทำให้เกิดอาการแบบนี้ขึ้นกับลูกหลานของ ตน หมอประจำหมู่บ้าน คือวิลเลี่ยม กริสก์ (William Griggs) ใช้เวลานานในการรักษา วิเคราะห์อาการของเด็กๆแต่ผลที่ออกมานั้นไม่เป็นที่พอใจนัก เพราะไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของอาการและพฤติกรรมที่น่าขนลุกนี้ได้เลย



ในศตวรรษที่ 17 นั้น สมัยก่อนอ่าวแมสซาซูเซตต์สยังอยู่ในสภาพเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และยังมีความเชื่อที่เกี่ยวกับภูตผีเพราะพื้นที่นี้เกิดโรคระบาดบ่อย และยังมีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หมู่บ้านซาเล็มเองก็มีคู่อริที่มีการต่อสู้เปิดศึกกัน ระหว่างชุมชนเสมอ ทำให้พื้นที่หมู่บ้านที่อุดมสมบูรณ์นี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความหวาด ระแวง



ล่วงเลยไปถึงกลางเดือน ก.พ.แพทย์ประจำหมู่บ้านก็จนปัญญา จึงสรุปว่าบรรดาเด็กสาวเหล่านี้โดนเวทมนต์คาถาและตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของซาตาน



ที่ นี้ก็เป็นเรื่อง พวกชาวบ้านและนักบวชพากันวิ่งวุ่น หาวิธีต่างๆ เพื่อเปิดโปงว่าใครคือต้นเหตุ เช่น จอห์น อินเดีย ทำเค้กผสมข้าวไรน์กับปัสสาวะเด็กๆ ที่ล้มป่วย เพื่อล่อให้พ่อมดแม่มดปรากฏออกมา



ภาย ใต้ความกดดันอย่างหนักที่จะระบุแหล่งที่มาและต้นกำเนิดของภัยร้าย จู่ๆ บรรดาเด็กสาวได้อ้างชื่อผู้หญิงออกมาสามคนคือ ทิทูบา อินเดียน(Tituba), ซาราห์ ออสบอร์น (Sarah Osburn ) และ ซาราห์ กู๊ด(Sarah Good) ทาสรับใช้คาริบเบียนที่อาศัยในบ้านของซามูเอล แพร์ริส...ว่าเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้



เดือนธันวาคม ปี 1691 - เดือนมกราคม ปี 1692 เดือนกุมภาพันธ์ 1692 ทิทูบา อินเดียน, ซาราห์ ออสบอร์น และ ซาราห์ กู๊ดถูกจับ



มีนาคม 1692 ผู้พิพากษาจอห์น ฮาธอร์น ( John Hathorne) และ โจนาธาน คอร์วิน



(Jonathan Corwin) เริ่มไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา ซาร่าห์ กู๊ด และ ซาร่าห์ ออสเบิร์น ทั้งสองคนถูกแยกกันสอบสวน ระหว่างการไต่สวน เด็กหญิงหลายคนเกิดอาการเป็นลมหน้ามืดขึ้นมาอย่างรุนแรง ทำให้คนที่เฝ้าดูอยู่ พากันเชื่อว่า นี่คือการกระทำของแม่มดอย่างแน่นอน



แม้ ออสบอร์จะยืนยันความบริสุทธิ์ แต่ทิทูบา กลับสารภาพว่าฝึกเวทย์มนต์คาถาของแม่มดจริงๆ ระหว่างฝึกสามารถมองเห็นปีศาจร้ายปรากฏกาย มันมีรูปร่างคล้ายหมูอ้วน บางครั้งเป็นหมาใหญ่ ยิ่งกว่านั้นเธอยังบอกด้วยว่าสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มแม่มดเพื่อประกอบการชั่ว ร้ายในเมืองซาเล็มด้วย



ไม่กี่วันต่อมาหลังจากนั้นผู้พิพากษาศาลท้องถิ่นจอห์น ฮาธอร์น และโจนาธาน คอร์วิน ไต่สวนทิทูบา,ซาราห์ ในที่ประชุมกลางหมุ่บ้านซาเล็ม สิ่งที่น่าสนใจเป็นบันทึกถ้อยคำให้การระหว่างผู้พิพากษากับซาราห์



ผู้ชั่ววิญญาณร้ายตนใดที่เจ้าคุ้นเคยสนิทสนมใกล้ชิดด้วย



ไม่มีค่ะ



เจ้าเคยทำสัญญาจ้างกับปีศาจหรือไม่



ไม่ค่ะ



ทำไมเจ้าต้องทำร้ายเด็กๆ เหล่านี้



ข้าไม่ได้ทำร้ายเด็กๆ ข้าขอปฏิเสธ

 
  />
ใครจ้างวานให้เจ้าทำเช่นนั้น



ข้าไม่ได้รับจ้างใครทั้งสิ้น



เช่นนั้นเป็นสรรพสิ่งใดที่เจ้ารับว่าจ้างมา



ไม่มีสิ่งใดเลย ข้านั้นถูกกล่าวหาแบบผิดๆ



ไม่ กี่สัปดาห์ต่อมาชาวเมืองจำนวนมากออกมาต่อว่าว่าเคยถูกก่อกวนและเคยเห็นร่าง ปีศาจจำแลงของคนในชุมชนเดียวกัน การล่าแม่มดยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น พร้อมกับคำสารภาพมากมายที่พร่ำพรูออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน



และแล้วผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดก็มีเพิ่มทุกขณะ ถึงเดือนมิถุนายน 1692 ผู้ว่าการรัฐ จัดตั้งศาลพิเศษเพื่อพิจารณาคดีแม่มดโดยเฉพาะ เรียกว่า ศาล พิเศษเพื่อรับฟังความและตัดสินโดยพิจารณาความเชื่อถือ ศาลแห่งนี้ตัดสินความโดยพิจารณาคดีจากการกล่าวหาซึ่งๆ หน้า มีการประมวลวัตถุพยาน ทั้งที่จับต้องได้และจับไม่ได้ หรือสิ่งที่เหนือธรรมชาติ เช่น เครื่องหมายแม่มดในตัวผู้กล่าวหา การตอบสนองของคนล้มเจ็บ การเห็นภาพภูตผี ตอบสนองของคนที่ล้มเจ็บอยู่



จนถึงตอนนี้ จำนวนผู้ที่ถูกจับทั้งหมดมีถึง 150 คน จากซาเล็มและเมืองใกล้เคียง



และการประหารแม่มดจึงเริ่มเกิดขึ้น.........................



บริดเจต์ บิชอป(Bridget Bishop) เป็นคนแรกที่ถูกประกาศว่ามีความผิดฐานเป็นแม่มด เขาถูกตัดสินประหารโดยการแขวนคอ นับเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายรายแรกภายใต้กระบวนการศาลเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1692



วันที่ 19 กรกฎาคม 1692 ซาร่าห์ กู๊ด Sarah Good หนึ่งในสามคนแรกที่ถูกจับ โดนแขวนคอ พร้อมกับ รีเบคกา เนิร์ส(Rebecca Nurse )หญิงชราวัย71ปี, และ อลิซาเบธ ฮาร์ (Elizabeth How)



วันที่ 19 สิงหาคม 1692 George Burroghs, จอห์น วิลลาร์ด (John Willard), จอร์จ จาค็อบส์ (John Proctor), มาร์ธา แคร์เรียม (artha Carrier) และ George Jacobs โดนประหารด้วยการแขวนคอ



วันที่ 16 กันยายน 1692 ไกล์ คอเรย์ (Giles Cory) ชาวนาถูกลงโทษด้วยการเอาก้อนหินทับจนตาย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เอาก้อนหินทับลงบนอกเขาทีละก้อนๆ เพื่อให้เขาสารภาพนั้น เขาร้องตะโกนว่า “หนักอีก” เพื่อท้าทายให้เอาหินมาเพิ่มอีก และสุดท้ายเขาก็ตายในระหว่างสอบสวน



Image:Giles Corey.jpg

วันที่ 22 กันยายน 1692 มาร์ธา คอเร่ย์ ภรรยาของ ไกล์ คอเรย์ ถูกแขวนคอ



จำนวนผู้ที่ต้องประหารทั้งหมด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน จนถึงเดือนกันยายน 19 คน



การ ตัดสินประหารชีวิตด้วยการแขวนคอยังดำเนินการต่อไป ท่ามกลางโชคชะตาของผู้กล่าวหาว่าเป็นแม่มด แม้มีการเปลี่ยนข้าหลวงคนใหม่ เซอร์วิลเลียม ฟิปส์ มารับตำแหน่งใหม่แต่เหตุการณ์เลวร้ายยังเกิดขึ้นเหมือนเดิม



จน กระทั้งถึงเดือนกันยายน เมื่อโธมัส แบร็ตเทิล ยอมเสี่ยงชีวิตเขียนจดหมายวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของศาลว่าไม่ยุติธรรมในการ ไต่สวนคดีแม่มดให้แก่ข้าหลวงฟิลิปส์ จนมีคำสั่งล้มเลิกคดีศาลพิเศษอันนี้ เพราะใช้หลักฐานและพยานมั่วนิ่ม จับต้องไม่ได้ และประกาศอภัยโทษและนิรโทษกรรมแก่ผู้กล่าวหาว่าเป็นแม่มดในที่สุด



บันทึกสุดท้ายของคดีแม่มดแห่งซาเล็ม เกิดขึ้นอีก 19 ปีต่อมา โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 1711 กฎหมาย ฉบับใหม่ได้สั่งให้คืนทรัพย์สมบัติที่ยึดมาจากผู้ตายและครอบครัวของผู้ตาย ให้หมด รวมไปถึงการจ่ายสินไหมทดแทนด้วย และนี่เป็นอันยุติคดีแม่มดในซาเล็มตลอดกาล





สรุปของคดีนี้คือตั้งแต่เกิดคดีนี้ขึ้นในซาเล็มมีการประกาศจับกุมเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 1692 ชาวเมืองกว่า 150 คนถูกกล่าวหาและถูกต้องสงสัยว่าเป็นแม่มด 4 คน ตายในคุกรวมกับเด็กทารกอีก 1 คน การประหารชีวิตต้องการแขวนคอมีขึ้นเมื่อ 10 มิถุนายน, 19 กรกฎาคม, 19 สิงหาคม, 19 กันยายน และ 22 กรกฎาคม รวมทั้งสิ้น 18 คน อีก 1 คนถูกทับด้วยแท่งหินจนตาย และสุนัข 2 ตัวถูกแขวนคอด้วย โดยถูกกล่าวหาว่าเป็นข้ารับใช้แม่มด



วันที่ 14 มกราคม 1697 หลังจากคดีล่าแม่มด ผู้พิพากษา Samuel Sewall หนึ่งในผู้พิพากษา กล่าวคำขออภัยอย่างเป็นทางการต่อโศกนาฏกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น



นอกจากผู้พิพากษาlแล้ว แอน พัตนัม (Ann Putnum) หนึ่งในจำนวนเด็กสาวที่เจ็บป่วยตั้งแต่แรก ยังเป็นอีกคนที่ออกมาขอโทษต่อเรื่องทั้งหมด ที่เป็นต้นเหตุให้คนจำนวนมากเสียชีวิตโดยไร้ความผิด







สามร้อยกว่าปีผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ทุกวันนี้เหตุการณ์ แม่มดแห่งเมืองซาเล็ม ยัง สร้างเหตุฉงนค้างคาอยู่ในผู้คนจำนวนมากที่ต้องการหาข้อเท็จจริงว่ามันเกิด ขึ้นอะไรกันแน่ที่บรรดาเด็กสาวในเมืองต่างพากันล้มเจ็บและออกอาการผีเข้า



ทฤษฏี ที่สันนิษฐานที่ถูกหยิบยกมาอธิบายมากที่สุด...เน้นว่าอาจเกิดจากทาสจาก ทิทูบา อินเดียน ที่มาจากแถบคาริบเบียนและรู้เรื่องลัทธิวูดูอาจเล่าเรื่องลึกลับและน่า ตื่นเต้นให้เด็กๆ ฟัง และเด็กๆ ในวัยอยากรู้อยากเห็นย่อมคล้อยตามเรื่องเหนือธรรมชาติเหล่านี้ไปด้วย ไม่นานเด็กบางคนก็เกิดเชื่อเรื่องนี้จริงจัง จนทำให้เกิดอาการสยองขวัญ ขวัญหนีดีฝ่อ และท้ายสุดล้มเจ็บลง



ทฤษฏีอื่นๆ คือการเรียกร้องความสนใจ พวกเธออาจเรียกร้องความสนใจให้คนอื่นเชื่อว่ามีแม่มด เรื่องลึกลับมีอยู่จริง จนเกิดเรื่องปานปลายจนหยุดไม่ได้



ส่วน ทฤษฏีใหม่ๆ ก็เช่นบางทีบรรดาเด็กพวกนั้นอาจกินพวกเห็ดพิษเมาเจือปนอยู่กับเมล็ดข้าวไรย์ หรือเมล็ดธัญญาหารที่เก็บเกี่ยวได้มีผลทำให้เกิดอาการชักสั่นเพ้อคลั่งขึ้น มาและมองเห็นภาพหลวนที่น่ากลัวต่างๆ เช่นซาตาน แม่มด เป็นต้น



ส่วนทฤษฎีสุดท้ายที่อธิบายและน่าเชื่อถือที่สุดในปัจจุบันคือ ทฤษฎีว่าด้วย “เกมแห่งอำนาจและผลประโยชน์” อัน นี้น่าจะเป็นคำอธิบายที่น่าเชื่อถือที่สุดในยุคปัจจุบัน เรื่องของเรื่องทั้งหมดเป็นผลประโยชน์ระหว่างนายกรัฐมนตรีท้องถิ่น เจมส์ เบเลย์ กับซามูเอล แพร์ริล เมื่อมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์นี้มาส่งเสริมความนิยมผู้นำที่ นับวันเริ่มเสื่อมลง โดยทิทูบา อินเดียน ทาสจากหมู่เกาะทะเลแคริบเบียนก็เป็นทาสของนายกรัฐมนตรีแพร์ริสเอง ส่วนตัวต้นเหตุอลิซาเบธ แพร์ริส อบิเกล วิลเลียมส์ ก็เป็นลูกสาวและหลานสาว และพบว่าผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดนั้นส่วนมากเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุน เจมส์ เบเลย์ คู่แข่งของแพร์ริสทั้งสิ้น...



เรื่องราวของการกล่าวหาการใช้เวทมนตร์คาถา, การไต่สวน, ใน คดีแม่มดซาเล็มเป็นที่สนใจนักเขียนนิยายมาก และช่วยจินตนาการของนักเขียน และศิลปินในเวลาต่อมา โดยเห็นได้จากชื่อสถานที่ เหตุการณ์ ในหนังสือนิยาย ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั้งงานศิลปะก็ได้รับแรงบันดาลใจจากคดีนี้



...ปัจจุบัน หมู่บ้านซาเล็มได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีสถานที่หลายแห่งเกี่ยวข้องและถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการล่าแม่มด ที่มีผู้มาเยือนเพื่อชมประวัติศาสตร์อันน่าสะพรึงกลัว เช่น อนุสรณ์ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ.1992 เนื่องในโอกาสครบรอบ300ปีเหตุการณ์ล่าแม่มดในซาเล็ม .แต่ละแผ่นป้ายจะมีข้อความอุทิศถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจนเสียชีวิต.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์