แมนฯยูเทพ!!ซัดเชลซี3:1คว้าโล่เกียรติยศ

แมนฯยูซัดเชลซี3:1คว้าโล่เกียรติยศ

 

การแข่งขันฟุตบอลคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2010
วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม 2553




เชลซี 1:3 แมนฯยู

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
ผู้ชม : 84,623 คน
ผู้ทำประตู : [0:1]วาเลนเซีย 41, [0:2]เฮอร์นันเดซ 76, [1:2]กาลู 83, [1:3]เบอร์บาตอฟ 90



     สถิติของคู่นี้ที่พบกัน ณ สนามเวมบลีย์ 5 นัดที่ผ่านมา เชลซี เอาชนะได้ 2 ครั้ง อีก 2 ครั้งเสมอกัน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะด้วยลูกจุดโทษ 2 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง เริ่มจากฤดูกาล 1997-98 ทั้งคู่เสมอกัน 1:1 ก่อนที่ผีแดงจะดวลจุดโทษแม่นกว่าเอาชนะไป 4:2 ครั้งต่อมาฤดูกาล 2000-01 สิงห์บลูส์เอาชนะไปสบายๆ 2:0

     ฤดูกาล 2006-07 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามแห่งนี้เสมอกันไป 0:0 ในเวลา 90 นาที ก่อนที่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา จะทำประตูชัยให้ เชลซี เอาชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ ส่วนสองครั้งหลังเป็นเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ระหว่างฤดูกาล 2007-08 และ 2009-10 ทั้งสองทีมเสมอกัน 1:1 และ 2:2 และต่างผลัดกันเอาชนะในช่วงดวลจุดโทษ


ครึ่งแรก
     เริ่มเกมมานาที 4 รูนีย์ จ่ายบอลให้กับ วาเลนเซีย ทางฝั่งขวาจังหวะยิงเบาไปเข้ามือ อิลาริโอ รับสบายๆ จากนั้น แมนฯยู มีโอกาสอีกจากการเปิดของ วาเลนเซีย ให้ พอล สโคลส์ วอลเล่ย์ระยะ 18 หลา โด่งข้ามคานไปไกล

     นาที 16 มาลูด้า เปิดฟรีคิกเข้าหน้าประตูให้ อิวาโนวิช แต่บอลจังหวะสุดท้ายโดน วิดิช โดนผิดเหลี่ยมไปตรงกรอบแต่ยังไม่ผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดได้ทัน

     2 นาทีต่อมา พอล สโคลส์ ชิบบอลยาวให้กับ เวย์น รูนี่ย์ หลุดขึ้นไปทางขวายิงหักไปเสาสองหลุดออกหลังนิดเดียว จากนั้น ปาร์ค ได้โอกาสแปในเขตโทษจากการเปิดของ วาเลนเซีย ก็ไปติดตัว จอห์น เทอร์รี่

     เกมเล่นมาจนนาที 33 บรานิสลาฟ อิวาโนวิช วิ่งหาเหลี่ยมจนได้โหม่งทว่ากดไม่ตรงกรอบเด้งออกหลังไป

     นาที 39 เชลซี สกัดบอลไม่ขาดโดน รูนีย์ โหม่งซงให้ โอเว่น ตวัดเข้ากลางไม่มีใครแต่ อิวาโนวิช ไม่วางใจโขกออกหลังไปก่อน แมนฯยู ได้เตะมุม

     จากนั้นนาที 41 พอล สโคลส์ วางบอลยาวให้ รูนีย์ ทางด้านขวาวิ่งควบไปตวัดเร็วเข้ามาหน้าประตูทันทีมี วาเลนเซีย ที่เติมขึ้นมาเข้าแปผ่านตัว อิลาริโอ ตุงตาข่ายให้ ผีแดง นำก่อน 1:0

     ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 44 มิชาเอล เอสเซียง ได้จังหวะซัดเต็มข้อบอลเหินข้ามคาน และเวลาที่เหลือยังไม่มีประตูเพิ่ม จนหมดครึ่งแรก


ครึ่งหลัง
     กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนฯยู ส่งแนวรุก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, นานี่, ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ ลงไปเล่น ขณะที่ เชลซี ยังไม่มีการเปลี่ยนตัว

     นาที 50 แฟร้งค์ แลมพาร์ด จ่ายบอลให้กับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า กลับตัวยิงเร็วบอลหยุดออกหลังนิดเดียว ถัดมา 1 นาที ชิชาริโต้ โชว์ลีลาล็อกหนีผู้เล่นเชลซี 2 คนก่อนจ่ายเร็วให้ เบอร์บาตอฟ จับบอลไม่ดีเลยออกหลัง

     นาที 59 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ได้ลงสนามมาแทน จอห์น โอบี มิเกล และ ดาเนียล สเตอริดจ์ นิโกล่าส์ อเนลก้า

     นาที 66 ซาโลมง กาลู แต่งหาจังหวะยิงนอกเขตก็ยังไปตรงตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ ป้องกันไว้ได้ จากนั้น เอสเซียง ปั่นโค้งด้วยขวาบอลไม่ตรงกรอบ

     ถัดมา 3 นาที ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดบอลไม่ขาดมาเข้าทาง แอชลี่ย์ โคล พยายามเอี้ยวตัวดีดด้วยซ้ายเบาไปเข้ามือ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

     นาที 72 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทะลุขึ้นมาทางด้านขวาจี้เข้าเขตก่อนเปิดเร็วให้ ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ แปบอลเหลี่ยมไม่ดีเลยออกไปไกล จากนั้น 2 นาที สเตอริดจ์ ของ สิงห์บลูส์ ได้ส่องนอกเขตก็ยังหลุดออกหลังไป

     นาที 76 จากบอลยาวมาให้ วาเลนเซีย ถึงเส้นหลังฝั่งขวาเปิดเลียดพื้นผ่านถึง ชิชาริโต้ ยิงด้วยขวา+โชคบอลมาโดนหน้าตัวเองเด้งเข้าประตูไป แมนฯยู นำ 2:0

     นาที 81 เชลซี น่าจะตีไข่แตกได้จากจังหวะที่ เอสเซียง จ่ายทะลุถึง สเตอริดจ์ แต่งงามๆ แล้วยิงไปติด ฟาน เดอร์ ซาร์ สกัดออกไป แต่แล้วจังหวะต่อมา สเตอริดจ์ ส่องเต็มข้อ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดออกมาเข้าทาง กาลู ซ้ำไม่พลาดไล่มา 1:2

     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯยู มายิงปิดฝาโล่งจากความเก๋าของ เบอร์บาตอฟ ชิพบอลข้ามหัว อิลาริโอ ที่ออกมาไกลย้อยเข้าประตูไปง่ายดาย 3:1 จนจบเกม ผีแดง คว้าโล่เกียรติยศไปครองเป็นสมัยที่ 14



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี ระบบ : 4-3-3
ผู้รักษาประตู : อิลาริโอ
กองหลัง : แฟร์ไรร่า(ซีร์คอฟ น.79), บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล(บรูม่า น.79)
กองกลาง : มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล(ดร็อกบา น.59 ), แฟร้งค์ แลมพาร์ด
กองหน้า : ซาโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า(สเตอริดจ์ น.60), ฟลอร็องต์ มาลูด้า(ยอสซี่ เบนายูน น.72)

สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, ยอสซี่ เบนายูน, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ยูริ ซีร์คอฟ, ดาเนียล สเตอริดจ์, ฟาน อันโฮลท์, เจฟฟรีย์ บรูม่า

แมนฯยู ระบบ : 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : ฟาบิโอ ดา ซิลวา(คริส สมอลลิ่ง น.70), เนมานย่า วิดิช, จอนนี่ อีแวนส์, จอห์น โอเช
กองกลาง : วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริค, พอล สโคลส์, ปาร์ค จี-ซอง(นานี่ น.46)
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์(เฮอร์นันเดซ น.46), ไมเคิ่ล โอเว่น(เบอร์บาตอฟ น.46)

สำรอง : โทมัสซ์ คุสซ์แซค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, นานี่, ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ, คริส สมอลลิ่ง























เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์