แพ้เป็นพระ เฟอร์กี้ ยอมรับ บาร์ซา สมควรชนะ

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯยู ยอมรับความปราชัย พร้อมยกให้ บาร์เซโลนา สมควรคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก ไปครอง แต่มั่นใจ ทีมจะนำบทเรียนในค่ำคืนนี้ กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้ได้ อีกครั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (27 พ.ค.) ว่า

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม "ปิศาจแดง"​แมนเชสเตอร์​ยูไนเต็ด ยอมรับ ขุนพล "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา สมควรเป็นผู้ชนะในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งลูกทีมของเขาเป็นฝ่ายปราชัยไป 0-2 ที่ สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก  กรุงโรม ประเทศอิตาลี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา 

บาร์เซโลนา ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 10 ของเกม จากจังหวะบุกครั้งแรกของพวกเขา และเป็น ซามูเอล เอโต ที่ล็อกบอลหลบ เนมานยา วิดิช หนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะยิงมุมแคบเข้าไป  หลังจากนั้น ครึ่งหลัง ทีมดังแคว้นกาตาลัน มาได้ประตูที่ 2 จากการลูกโหม่งของ ลีโอเนล เมสซี ในนาทีที่ 70 ทำให้จบ 90 นาที บาร์ซา เอาล้มทีมแชมป์เก่า 2-0 พร้อมกับคว้าถ้วยยุโรปใบใหญ่สุดมาครองเป็นสมัยที่ 3 ของสโมสร ได้สำเร็จ

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือทีม "ปิศาจแดง"​กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้ โดยชี้่ว่า

จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมในวันนี้ คือการที่พวกเขาเป็นฝ่ายเสียประตูแรกอย่างรวดเร็ว
  "ผมคิดว่าประตูแรกเป็นสิ่งที่ฆ่าพวกเรา มันเป็นการบุกครั้งแรกและพวกเราก็ได้ประตู ทั้งๆ ที่ เราออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม เราเสียสมาธิเล็กน้อย หลังเสียประตู และแน่นอน ประตูขึ้น มันทำให้พวกเขาครองบอลได้ตลอดทั้งคืน"

เมสซี โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นทั้งเกม และเป็นผู้บวกประตูที่ 2 ให้กับ บาร์เซโลนา ในช่วงครึ่งหลัง ซึ่งเฟอร์กูสัน ยอมรับว่า

ลูกทีมของเขาเป็นรอง บาร์เซโลนา ในเกมที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก อย่างโดยดุษฎี อย่างไรก็ตาม นายใหญ่ชาวสกอตต์ ยืนยันว่า จะนำประสบการณ์ที่ได้ในค่ำคืนนี้ กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

"ถ้าจะพูดอย่างตรงไปตรงมา พวกเราแพ้ทีมที่ดีกว่าพวกเราไม่ได้เล่นในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของตัวเอง ซึ่งหลังจากเสียประตูแรก มันก็ยิ่งยากมากขึ้นสำหรับเรา และเกมรับของพวกเขาค่อนข้างเหนียวแน่นและเล่นได้ดีกว่าพวกเรา ความพ่ายแพ้เป็นส่วนสำคัญที่สุดของเกมการแข่งขัน เพราะในความยากลำบาก คุณมักจะก้าวไปข้างหน้าเร็วมากขึ้น แน่นนอน เราผิดหวัง แต่เราเป็นทีมที่อายุน้อย และยังสามารถพัฒนาไปได้ไกล" เฟอร์กูสัน กล่าว

ด้าน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังของ แมนฯยู กล่าวเพิ่มเติมว่า

ทีมของพวกเขาไม่สามารเค้นฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้ "ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่คิดว่าจะมีใครคนใดของพวกเราไปที่นั่น และจะรู้ว่าเราจะเล่นได้ดีอย่างที่หวังหรือไม่ ไม่ว่าจะตัวบุคคล หรือ โดยส่วนร่วม เราเสียประตูแรกง่ายๆไปหน่อย และเรามีโอกาสงามๆ หลายครั้งก่อนหน้านั้น แต่ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ วันนี้ พวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่า และสมควรเป็นผู้ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย" 

ขณะที่ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกซ้ายตัวเก๋าของ แมนฯยู ซึ่งพลาดโอกาสคว้าถ้วยแชมเปียนส์ เป็นสมัยที่ 3 ของตนเอง ในสีเสื้อทีม"ผีแดง" กล่าวผสมโรงว่า

"บางครั้ง บาร์ซา ทำให้คุณกลายเป็นคนโง่ไปเลย เพราะพวกเขาเก็บบอลได้ดีมากๆ  เราเคยบอกว่า หากใครก็ตามที่ครองเกมได้มากอาจเป็นผู้ชนะ และในกรณีนี้ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว พวกเขาครองบอลและเล่นได้เยี่ยมจริงๆ  ซึ่งแตกต่างจากเรา ผมคิดว่า ถ้าเราได้ประตูนำก่อน เราจะสามารถเก็บบอลได้เช่นเดียวกับเขา แต่ถึงกระนั้น  พวกเขาก็สมควรได้เครดิตให้เป็นผู้ชนะในคืนนี้"

สำหรับ การคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ บาร์เซโลน่า

ประกาศศักดาความยิ่งใหญ่ คว้าทริปเปิ้ลแชมป์มาครองได้้สำเร็จ หลังจากที่คว้าแชมป์ โกปาเดล เรย์ และ ลาลีกา สเปน  มาได้แล้วก่อนหน้านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังทำให้  โจเซ็ป กัวร์ดิโอลา กุนซือหนุ่มไฟแรงของ บาร์ซ่า กลายบุรุษลูกหนังคนที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ที่สามารถครองแชมป์รายการนี้ได้ ทั้งในฐานะผู้จัดการทีมและ นักเตะอีกด้วย "
ทัั้งสองอย่างมีความพิเศษ ตอนเป็นผู้เล่น ผมยังอายุเด็ก และนั่นเป็นแชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกของสโมสร สำหรับตอนนี้  ซึ่งเราได้ทริปเปิลแชมป์ (ในฐานะผู้จัดการทีม)  มันเป็นเรื่องที่สุดยอดมากๆ"

พร้อมกันนั้น กัวร์ดิโอลา ยังระบุถึงรูปเกมในวันนี้ว่า

"แมนเชสเตอร์​ ยูไนเต็ด กดดันและสร้างปัญหาให้เราช่วงออกสตาร์ทเกม แต่ประตูจาก ซามูเอล เอโต มันสำคัญกับพวกเราอย่างยิ่งยวด เพราะหลังจากนั้น เราก็เป็นฝ่ายที่ครองเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด ขณะเดียวกัน เราก็พยายามพังประตูที่สอง และเราก็ทำสำเร็จเสียด้วย"

ด้านลูกทีมคนเก่งอย่าง  เธียร์รี อองรี กองหน้าเฟรนช์แมนของ บาร์เซโลนายกย่องความสำเร็จของสโมสรต้นสังกัดตัวเองว่า

"มันไม่น่าเชื่อจริงๆ ผมไม่มีคำพูดใดๆ ที่จะอธิบายความรู้สึกถึงสิ่งที่พวกเราทำได้ และประสบความสำเร็จในปีนี้ ในสเปน ไม่มีทีมได้เคยทำทริปเปิ้ลแชมป์มาครองได้เลย ซึ่งเรามักจะถูกจดจำเพราะเป็นทีมแรกที่ทำได้ มันน่ามหัศจรรย์ เราเล่นได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้ มันเป็นสิ่งที่ทีมสมควรได้รับ เพราะเราทุกคนต่างทำงานหนักและสู้เพื่อทีมอย่างเต็มที่"


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์