เเมนยูปะทะเจ้าสัวน้อย

 หลายกระแสบอกว่าน่าจะเป๋ ถึงจังหวะหลุดฟอร์ม ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ยังคงมั่นใจว่า แมนฯยูฯ คงกลับมาได้อย่างแน่นอน คือพลาด และแพ้แล้วกลับมาได้ทันที นั่นคือสิ่งที่แฟนบอลเห็นกันอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว

 ที่แน่ๆ เกมนี้คือเกมที่ถูกจับตามองมากไม่ใช่น้อย เจ้าบ้านเองเสียฟอร์มในสองเกมก่อนหน้านี้ กับแมนฯยูไนเต็ด ส่วนทีมเยือนต้องการชนะเพื่อพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่สะดุดล้มอย่างง่ายดาย และที่สำคัญคือพวกเขาจะต้องชนะเพื่อทำแต้มนำและอาจเป็นจังหวะที่สำคัญหากพวกเขาชนะแล้ว ลิเวอร์พูลไม่ชนะ แอสตัน วิลล่า

 นั่นหมายถึงผลงานอันต่อเนื่องไม่ใช่ดีแค่เกมใหญ่อย่างเดียว และยังหมายถึงการมุ่งหน้าไปยังเส้นทางสู่แชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวอีกด้วย

 สถิติ ฟูแล่ม-แมนฯยูฯ

ฟูแล่ม “ของหวานผีแดง”
 ครั้งสุดท้ายที่ฟูแล่มชนะ แมนฯยูไนเต็ด ในลีกสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อ ทศวรรตที่ 60 หลังจากนั้นพวกเขาตกชั้น และแม้กลับขึ้นมาทำได้ดีที่สุดคือเสมอเท่านั้นเอง นั่นอาจแปลนัยของสถิตินี้ได้ว่า ฟูแลม มักโดน แมนฯยูไนเต็ด อัดโดยตลอด

 ยิ่งนัดนี้ ปีศาจแดงเก็บกดมาจาก 7 วันก่อนด้วยแล้วยิ่งน่าคิดไม่ใช่น้อยๆ

 เกมนี้ รอย ฮอดจ์สัน ไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรมาก หลังจากถล่ม โบลตัน 3-1 และทำคะแนนขึ้นมาอยู่อันดับ 9 มี 8 คะแนนห่างจากโซนท้ายตาราง ดูจากกลุ่มท้ายตารางแล้ว อันดับของ ฟูแล่ม ปีนี้ปลอดภัยมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา

 นั่นอาจทำให้พวกเขาเล่นอย่างเต็มที่ไร้ความกดดันใดๆ

 แดนนี เมอร์ฟีย์ กัปตันทีมให้สัมภาษณ์ระบุว่า ฟูแลม ยังไม่ปลอดภัยแม้อยู่อันดับ 9 เนื่องจากพวกเขามีโปรแกรมใหญ่พบกับ แมนฯยูฯ , ลิเวอร์พูลและเชลซี นั่นเอง หากเกิดพลาดท่าแพ้สามนัดรวมขึ้นมาอาจโดนแซงได้เช่นเดียวกัน

  นัดนี้จึงควรเต็มที่ไว้ก่อน เกมนี้คาดว่า บอบ ซาโมรา ดาวยิงประจำทีม,เมอร์ฟีย์, เดมพ์ซีย์, จอห์นสัน นำทีมเหมือนเดิม รอย ฮอดจ์สัน เล่นระบบ 4-5-1 ใช้แผนนี้เวิร์คกว่า 4-4-2 นัดล่าสุดบุกเชือด โบลตันถึง 3 ประตู ทำให้อันดับคะแนนพุ่งพรวดทันที

ผีแดง พร้อมถล่มเต็มที่
 เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศลั่นว่าแมนฯยูไนเต็ด ต้องกลับมาอย่างแน่นอน นัดนี้ต้องชนะ เพราะหากชนะแล้วอาจมีความแตกต่างเกิดขึ้น ช่องว่างจาก 4 อาจเพิ่มเป็น 7 และทำให้ทีมกลับมาคุมความได้เปรียบมากขึ้นเหมือนเดิม

 นัดนี้ เซอร์ อเลกซ์ น่าปรับทีมเหมือนกันโดยเฉพาะแดนกลางนั้น อันแดร์สัน สำรอง, ไรอัน กิ๊กส์ จะลงมาเล่น เช่นเดียวกับ พอล สโกลส์ ขณะที่แนวรุก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ได้เล่นตัวจริงกับ โรนัลโดและรูนีย์ ส่วน เตเวซ และพาร์ค ชี ซอง สำรอง ส่วนแนวรับนั้น จอห์น เอแวนส์ แทน เนมานยา วีดิช

 แมนฯยูฯ ยังเป็นแผน 4-3-3 และจะเดินหน้าบุกเต็มตัวเพื่อไล่ถล่ม ฟูแล่ม ให้ยับเป็นการส่งเสียงบอกว่า ล้มแล้วลุกกลับมาเร็วมาก ไม่ได้ใส่ใจกับอะไรมากมายหลังจากแพ้ลิเวอร์พูลขนาดนั้น