เมินจับมือ!3 นาทีหมูรัวเบิ้ลผีล้างแค้นหงส์เสียว 2-1

เมินจับมือ!3 นาทีหมูรัวเบิ้ลผีล้างแค้นหงส์เสียว 2-1 

2 ประตูใน 3 นาทีของเวย์น รูนีย์ช่วงต้นครึ่งหลังกลายเป็นตัวตัดสินให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเบียดเอาชนะลิเวอร์พูล 2-1 แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราวส่วนทีมเยือนดูไม่จืดฟอร์ม 6 นัดชนะนัดเดียวอยู่ที่ 7 ตามเดิมแถมก่อนเกมหลุยส์ ซัวเรซทำเดือดหลังเมินจับมือกับปาทริซ เอฟร่าอีกด้วย 

พรีเมียร์ ลีก 

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2555 

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 : 1 ลิเวอร์พูล 

ประตู : 
1-0 รูนี่ย์ น.47, 2-0 รูนี่ย์ น.50, 2-1 ซัวเรซ น.80 
 
คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก แมนยู 2-1 ลิเวอร์พูล
 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดทำศึกเรด ไฟท์กับลิเวอร์พูล โดยมีประเด็นหลักที่นอกเหนือไปจากคะแนนซึ่งทั้งสองทีมต้องการ ก็เป็นเรื่องระหว่างเอฟร่าและซัวเรซ 

ซึ่งเป็นไฮท์ไลท์ขึ้นมาจนได้ ในตอนที่ทั้งสองทีมเดินจับมือกัน แต่กลายเป็นซัวเรซที่ไม่ยอมจับมือกับเอฟร่า จนทำให้แบ็คเลือดเฟร้นช์ถึงกับฉุนผลักมือของหัวหอกอุรุกวัยที่พยายามจะจับมือกับเด เกอาทันที ต้องดูกันว่าจะไปเดือดในเกมหรือไม่สำหรับคู่นี้ 

เกมนี้แมนฯยูไนเต็ดวางรูนี่ย์เป็นหัวหอกคู่กับเวลเบ็คในแดนหน้า โดยมีกิ๊กส์และวาเลนเซียคอยปั้นเกมด้านข้าง 

ลิเวอร์พูลเองจัดเต็มไม่ต่างกัน เมื่อให้ซัวเรซคอยปั่นป่วนเกมของแมนฯยูไนเต็ดในแดนหน้า มีเจอร์ราร์ดคอยป้อนบอลให้ตรงกลางและเค้าท์หัวหอกไตรกีฬาที่เป็นคนยิงปลิดชีพ ปีศาจแดง ในเกมเอฟเอ คัพที่ทั้งคู่พบกันล่าสุด 

ครึ่งแรก 

ผีร้อง!วาเลนเซียโดนดึงล้ม 
เริ่มเกมมาได้แค่ 6 นาทีก็ลุ้นจะเอาจุดโทษกันแต่หัววันเลยสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวาเลนเซียแตะหนีเอ็นริเก้อ้อมไปได้ กำลังจะควบเข้ากรอบเขตโทษ แต่โดนแบ็คเลือดกระทิงดึงเอาไว้จนล้มลง เจ้าบ้านเลยโวยจะเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินให้เพียงแค่ฟรีคิกเพราะทำฟาวล์นอกกรอบเขตโทษเท่านั้น 

โก๋แดนคึกคัก-หงส์ขึ้นเกมได้สวย 
ช่วงต้นๆเกมนี้ดูเหมือนว่าเวลเบ็คจะคึกเป็นพิเศษ เพราะประสานงานกับรูนี่ย์ได้น่าดูชมในแดนหน้าทำได้ดี โดยเฉพาะจังหวะแตะ 1-2 กัน ส่วนทางลิเวอร์พูลขึ้นเกมไปแต่ละครั้งใช่ย่อยซะที่ไหน ได้เปิดเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษอยู่บ่อยๆ บวกกับโอกาสยิงของจอห์นสันที่ได้ลุ้นอยู่คนเดียว แต่ยังไม่แม่นพอ 

ราฟาเอลยิงติดเซฟ 
นาทีที่ 18 เติมขึ้นไปได้ลุ้นมากเลยสำหรับราฟาเอล ที่วิ่งตัดขึ้นไปรับบอลก่อนที่จะแตะเข้ากลางในกรอบเขตโทษ เห็นโอกาสเลยลุ้นยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งตรงกรอบ เวลเบ็คพยายามจะสะกิดเปลี่ยนทาง แต่ไม่โดน เรน่าเลยเซฟเอาไว้ได้ 

ซัวเรซโดนโห่หนักตามฟอร์ม 
วันนี้อย่างที่รู้กันว่าแฟนบอลเจ้าบ้านจะต้อนรับซัวเรซยังไง แค่หอกอุรุกวัยยืนใกล้ลูกฟุตบอลก็มีเสียงโห่ตามกันมาระงมแล้ว โดยเฉพาะช๊อตที่เจ้าตัวไปเลี้ยงจนออกเส้นหลัง ที่เสียงเฮดังมากันใหญ่ 

เกมผีดีขึ้นเรื่อยๆ 
หลังจากตอนแรกที่ลิเวอร์พูลถ่ายเกมขึ้นบุกได้ดี ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะตันไปพอสมควร กลายเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่จับจังหวะได้มากขึ้น พาบอลไปกดดันในแดนของทีมเยือนได้อย่างต่อเนื่อง 

ผีโอ๊ยโอ๊ย!หมามุ่ยโหม่งตรงเวอร์ 
นาทีที่ 30 เฮเก้อกันไปเลยทีเดียวสำหรับแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ด ในจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดเล่นกันจังหวะเดียวได้สวย สโคลส์โยกออกไปให้กิ๊กส์ทางซ้ายที่ตักบอลกลับมากลางได้สวยสุดๆ สโคลส์สอดเข้าไปยืนโหม่งได้โล่งๆจ่อๆหน้าประตูคนเดียว แต่ตรงตัวของเรน่าที่ผวาปัดเอาไว้ได้ 

โก๋แดนไปได้เรื่อยเลย 
นาทีที่ 37 เวลเบ็ควันนี้เล่นได้เนียนตากว่าเพื่อนเลย เมื่อเขาลงไปล้วงบอลต่ำอยู่หลายจังหวะ ก่อนทืี่จะพาบอลเลี้ยงดุ่ยๆผ่านกองหลังของลิเวอร์พูลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้ แต่จังหวะสุดท้ายโดนแท็คเอาไว้นิดหนึงก่อน ทำให้เขายิงเบี้ยวๆเลี้ยวออกหลังไป 

ริโอเกือบทำเพื่อนเงิบ 
นาทีที่ 40 ไปเล่นฝืนจนเกือบพังแล้วสำหรับเฟอร์ดินานด์ที่ตัวเองวิ่งตัดหน้าเค้าท์ไปดักลูกจ่ายของซัวเรซเอาไว้ได้แล้ว แต่กลับไม่ยอมเคลียร์จะปล่อยให้ออกหลัง บอลสะดุดขาตัวเอง จนโดนเค้าท์จิ้มคืนให้ซัวเรซได้ ยังดีพลิกกลับไปแก้ตัวสกัดเอาไว้ได้ทันการณ์ 

ฮาไปไหน!โก๋แดนหลอกตัวเอง 
อีก 3 นาทีต่อมา กำลังจะหล่ออยู่แล้วสำหรับเวลเบ็คที่ใช้ความขยันไปฉกเอาบอลมาจากเฮนเดอร์สันที่หน้าประตูของลิเวอร์พูลได้ แต่จังหวะที่จะพลิกหนีดันไปสับขาหลอกตัวเองจนเตะบอลแป้กหลุดออกข้าง อายไปเลยไหมนั่น 

นาทีสุดท้าย ซัวเรซเกือบจะได้ลุ้นเลย สำหรับจังหวะสวนกลับที่เขาแตะบอลหนีเอฟร่าที่เป็นตัวสุดท้ายไปได้แล้ว แต่เฟอร์ดินานด์พุ่งเข้าไปแหย่สกัดจากด้านหลัง แต่บอลโดนบอลก่อนแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เพราะถ้าผิดพลาดไปนิดเดียว ลูกนี้อาจถึงแดง 

จบ 45 นาทีด้วยความวุ่นวาย เนื่องจากซัวเรซไประเบิดอารมณ์เตะบอลอัดข้างสนามในแฟนบอลของเจ้าบ้าน ทำให้นักเตะแมนฯยูไนเต็ดกรูกันเข้าไปกดดันให้ผู้ตัดสิน 

ครึ่งหลัง 

เต็มตีน!หมูวอลเล่ย์ตุงตาข่าย 
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 2 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำแบบเฮกันสนามแทบแตก เมื่อได้เตะมุมโยนเข้าไปเสาแรก ผู้เล่นลิเวอร์พูลพยายามจะโหม่งสกัด แต่บอลแฉลบไปเข้าทางของรูนี่ย์ที่เอี้ยวตัววอลเล่ย์จากระยะแค่ไม่กี่หลาทะลุผ่านเรน่าเข้าไปตุงตาข่าย ปีศาจแดง ได้ประตูขึ้นนำแบบทีมเยือนไม่ทันตั้งตัว 1-0 

หงส์ช็อก!ปั๊กพลาด-หมูลงโทษ 
นาทีที่ 50 ทีมเยือนช็อกตาค้างตาตั้งไปเลย เมื่อสเปียริ่งไปพลาดจ่ายบอลติดวาเลนเซีย ก่อนที่ปีกรถด่วนจะแตะจี้เข้าไปจ่ายทะลุช่องให้กับรูนี่ย์แปด้วยอีซ้ายลอดดากเรน่าส่งบอลเข้าไปนอนหลับปุ๋ยก้นตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0 รวดเร็วไปไหน 

หมูทำอาร๊ายยยยย 
นาทีที่ 59 แฟนกุมหัวปวดขมับกันเลยสำหรับรูนี่ย์ ในจังหวะที่วาเลนเซียแตะตัดเข้ากลางได้สวยเหลือเกิน จ่ายต่อให้สโคลส์ที่โดดข้ามบอลหลอกต่อไปให้กับรูนี่ย์ ก่ะให้เพื่อนยิงงามๆ แต่เจ้าหมูดันจับบอลแรกไม่ดี พอจะพยายามจิ้มเลยได้แต่จิ้มบอลหลุดออกหลังไปหน้าตาเฉย อดลุ้นแฮทริกไป 

ถั่วต้มเลย!หงส์ส่งถีบจักร,แครอทลง 
อีก 2 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลต้องปรับเกมด้วยการส่งเบลลามี่และแคร์โรลล์ลงไปเล่นแทนสเปียริ่งที่ทำเสียลูกที่สองและดาวนิ่งที่วันนี้นิ่งสมชื่อ แทบไม่มีบทบาทอะไรให้ได้เห็นเลย 

หงส์ออกบอลพลาดอย่างเยอะ 
ดูเหมือนว่าลิเวอร์พูลจะช็อกกับการโดนนำห่าง 2-0 ในเวลาไม่กี่นาทีไม่หาย เพราะเวลาที่พวกเขาพยายามทำเกมรุกก็ดูจะจ่ายบอลพลาดกันไปเองทั้งหมด คงต้องปรับสติกันให้ดีๆแล้วหากหวังพลิกสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ 

ผีเล่นตามเกมไปเรื่อย 
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดเล่นกันแบบใจเย็นค่อยๆใช้เกมรุกในจังหวะที่มีโอกาสและเน้นเกมที่แน่นเอาไว้ก่อนในยามที่ลิเวอร์พูลพยายามเซ็ตเกมบุกขึ้นไป ทำให้ทางทีมเยือนยังไม่มีโอกาสได้ตีไข่แตกแบบจังๆสักที 

น่าจะมานานแล้ว!หงส์ให้อดัมลง 
จริงๆน่าจะส่งลงมาก่อนหน้านี้อีกสำหรับอดัมที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทนเค้าท์ซึ่งเล่นไม่ออกเลย เพราะว่าอดีตมิดฟิลด์แบ็คพูลถือว่าเป็นตัวจ่ายบอลชั้นเยี่ยมอีกคน ต้องดูว่ากับเวลาที่เหลือแค่ 15 นาที จะทำอะไรได้มากแค่ไหน 

มาแล้ว!หม่อมเหยินจิ้มง่ายๆ 
นาทีที่ 80 แอบเฮงอยู่สักหน่อยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อกองหลังของแมนฯยูไนเต็ดสกัดลูกฟรีคิกไม่ได้ ไปโดนหน้าขาของเฟอร์ดินานด์ตั้งให้ซํวเรซได้จิ้มบอลจ่อๆไม่มีเหลือ ลิเวอร์พูลตามมาเป็น 2-1 เหลืออีก 10 นาที มันส์กันล่ะครับทีนี้ 

เกมบีบหัวใจเหลือเกิน 
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย นั่งเกร็งกันเยี่ยวเล็ดหมดไม่ว่าจะทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ดหรือลิเวอร์พูล เพราะเกมมีโอกาสจะออกมาเป็นผลลัพธ์ได้อย่างทันทีถ้าหากมีการทำประตูลูกต่อไปเกิดขึ้นมา 

หวิดไป!GJ ยิงติดเซฟ 
ช่วงทดเวลานาทีแรก เกือบไปแล้วเมื่อลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ก่อนที่บอลจะโดนสกัดออกมาแถวสอง จอห์นสันเก็บตกได้ ก่อนที่จะตวัดยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งเหมือนจะมุดคานแล้ว แต่เป็นเด เกอาที่ดีดตัวปัดทิ้งข้ามคานออกไปได้ 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : 
ดาบิด เด เกอา 6.5, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 6, จอนนี่ อีแวนส์ 7, ปาทริซ เอฟร่า 6, ราฟาเอล 7, พอล สโคลส์ 7, ไมเคิ่ล คาร์ริค  7, ไรอัน กิ๊กส์ 6, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 7.5, เวย์น รูนี่ย์ 8*, แดนนี่ เวลเบ็ค 7.5 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ปาร์ค จี ซุง, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, เบน เอมอส, ฟาบิโอ, พอล พ็อกบา, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ 

ลิเวอร์พูล : เปเป้ เรน่า 6, ดาเนียล แอกเกอร์ 6, มาร์ติน สเคอร์เทล 5.5, โฆเซ่ เอ็นริเก้ 5, เกล็น จอห์นสัน 7, สตีเว่น เจอร์ราร์ด 6, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 6, เจย์ สเปียริ่ง 5(แคร์โรลล์ 6 น.61), สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง  4 (เบลลามี่ 6 น.61), เดิร์ค เค้าท์ 5.5(อดัม 6.5 น.75), หลุยส์ ซัวเรซ 6.5 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เจมี่ คาร์ราเกอร์, โดนี่, จอนโจ้ เชลวี่ย์, มาร์ติน เคลลี่
 









 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
แหล่งที่มา: ขอขอบคุณ soccer suck


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์