เบิร์บHi5!โคตรผีดุไล่ยำกุหลาบเละ 7-1 ครองฝูง

เบิร์บHi5!โคตรผีดุไล่ยำกุหลาบเละ 7-1 ครองฝูง

งานนี้ไม่ขออินเทรนด์ Facebook เพราะต้อง Hi5 อย่างเดียวสำหรับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหัวหอกศิลปินที่วันนี้สวมวิญญาณเพชรฆาตยิงคนเดียว 5 ประตู ส่งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่วันนี้เล่นกันได้สุดสะเด่าไล่ถล่มแบล็คเบิร์นไป 7-1 ทะยานขึ้นครองจ่าฝูงได้สำเร็จ

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม 2553


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 7 : 1 แบล็คเบิร์น

ประตู :
1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.2,2-0 ปาร์ค จี ซอง น.23,3-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.27,4-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.47,5-0 นานี่ น.48,6-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.62,7-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.70,7-1 คริสโตเฟอร์ แซมบ้า น.84

ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดต้อนรับการมาเยือนของแบล็คเบิร์น โดยที่มีตำแหน่งจ่าฝูงเป็นเดิมพัน เพราะอาร์เซนอลคว้าชัยไปได้ก่อนแล้ว ในขณะที่เชลซีมีคิวเตะในวันพรุ่งนี้

เกมนี้เวย์น รูนี่ย์ได้สตาร์ทเป็นตัวจริงนับตั้งแต่ช่วงมีปัญหาเรื่องเซ็นสัญญาเคียงข้างกับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหอกฟอร์มระส่ำที่กำลังกดดันเพราะช่วงหลังตีนบอดเหลือเกิน

ครึ่งแรก

โคตรไว!เบิร์บแปเบิกร่อง
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที แมนฯยูไนเต็ดก็ได้ประตูขึ้นนำไปแบบรวดเร็วสุดใจ จากจังหวะที่นานี่เก็บตกบอลที่โรบินสันพุ่งออกมาบล็อกทางอันแดร์สัน ก่อนที่จะหลอกล่อแล้วโยนเข้าไปกลางกรอบเขตโทษ บอลเลยรูนี่ย์ไปถึงเบอร์บาตอฟที่ยื่นขาแปเต็มๆบอลพุ่งผ่านโรบินสันที่ยังเดินย่องแย่งอยู่สุดปัญญาจะปัดทัน แมนฯยูไนเต็ดนำแล้ว 1-0

ผีดูคึกคัก
ในช่วงต้นเกมดูเหมือนว่าทางเจ้าบ้านแมนฯยูไนเต็ดจะดูคึกคักมากเป็นพิเศษ เหมือนกับว่ากระตุ้นกันมาดีก่อนเกม เพราะนัดนี้จะพลาดเก็บ 3 แต้มไม่ได้ อีกทั้งยังได้ตัวรูนี่ย์กลับมาเป็นตัวจริงอีกด้วย ทำให้จังหวะจ่ายบอลวันนี้ดูไหลลื่นกว่าหลายๆนัดที่ผ่านมา

กุหลาบก็มาได้
กำลังจะเข้าสู่นาทีที่ 15 ใช่ว่าทางแบล็คเบิร์นจะไม่มีโอกาสบุกขึ้นไปกดดันเจ้าถิ่น เพราะมีหลายจังหวะที่โยนบอลเข้าไปลุ้นอยู่แถวหน้ากรอบเขตโทษได้ไม่น้อย แถมจังหวะเล่นลูกตั้งเตะก็น่ากลัวอย่าบอกใคร ถ้าแมนฯยูไนเต็ดคุมตัวประกบพลาดอาจมีเศร้าได้ทุกเวลา

แซมบ้าเกือบทำเจ๊ง
นาทีที่ 19 แซมบ้าเกือบทำให้เพื่อนร่วมทีมแบล็คเบิร์นต้องเซ็ง จากจังหวะที่นานี่ลากบอลไปถึงหน้ากรอบเขตโทษ แต่โดนทางกองหลังของทีมเยือนเข้าบีบจนทำบอลลั่นไประหว่างรัศมีของทั้งโรบินสัน และแซมบ้า ซึ่งแซมบ้าระแวงว่าจะมีตัวเข้ามาชาร์จเลยชิ่งจังหวะจิ้มบอลก่อน ซึ่งโรบินสันพุ่งออกมาพอดี เกือบทำเข้าประตูตัวเอง ยังดีที่บอลไม่ตรงกรอบ

ผีต่อบอลสวย!ปาร์คซัดเองเลย
นาทีที่ 24 หลังจากที่ช่วง 5 นาทีที่ผ่านมาจ่ายบอลกันออกทะเลไปหน่อยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด ก็กลับมาต่อบอลกันได้ดีแบบในช่วงต้นเกมจนกลายมาเป็นประตูนำห่าง จากจังหวะที่เอฟร่าจ่ายให้ปาร์คก่อนจะฝากบอลไปที่รูนี่ย์แล้วตัวเองวิ่งไปรอรับบอลทะลุช่องที่ หมูพลิ้ว บรรจงแทงมาให้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษดวลเดี่ยวกับโรบินสัน ก่อนที่จะงัดบอลข้ามตัวเข้าประตูไปแบบจังหวะเหมาะเจาะ ปีศาจแดง อาละวาดนำไปก่อน 2-0

ไปกันใหญ่!กุหลาบพลาดโดนเบิร์บสังหาร
นาทีที่ 27 แบล็คเบิร์นที่กำลังระส่ำหนักก็มาโดนประตูที่สามแบบไม่น่าเสียเลยแม้แต่นิด ในจังหวะที่ชิมบงด้าเกิดอาการตื่นเต้น และตกใจที่ถูกรูนี่ย์วิ่งเข้าไปไล่บอล รีบกุลีกุจอจ่ายบอลกลับหลังแบบไม่ลืมหูลืมตาว่ามีเบอร์บาตอฟคอยอ่านจังหวะเข้าฉกไปอล่อเป้าโรบินสันจ่อๆแบบตีนไม่มีเหลือ แมนฯยูไนเต็ดนำห่าง 3-0

เจอดอกนี้เข้าไปบิ๊กแซมถึงกับทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนเอากูลงออก และส่งฮอยเล็ตต์ไปเล่นแทน

ผีเกือบได้อีกเม็ด
นาทีที่ 33 แมนฯยูไนเต็ดเกือบได้ประตูนำห่างไกลไปอีก จากจังหวะเปิดฟรีคิกของนานี่ที่ปั่นโค้งเข้าไปในกรอบเขตโทษ วิดิชสอดขึ้นมาโล่งๆคนเดียวแต่เหมือนจังหวะจะเหลื่อมกันเล็กน้อยทำให้โหม่งไม่โดน ถึงอย่างนั้นก็กลายเป็นการหลอกให้โรบินสันขาตาย แต่สุดท้ายบอลโค้งไม่พอเช็ดเสานอกหลุดออกหลังไป

แฟนผีมีเสียวหมูเจ็บข้อเท้า
อีก 2 นาทีต่อมาแฟนแมนฯยูไนเต็ดทั่วทั้งสนามมีเสียวกันไม่น้อย จากจังหวะที่รูนี่ย์เกิดเจ็บข้อเท้าขึ้นมาพร้อมทำหน้าปวดร้าวพอสมควร ยังดีที่พอเช็กอาการแล้วไม่เป็นอะไรมาก เพราะเกมนี้ดู หมูพลิ้ว จะเล่นได้เนียนตาไม่น้อยเลยทีเดียว

ผียังครองบอลได้เรื่อย
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เกมก็ยังคงตกเป็นของทางฝั่งแมนฯยูไนเต็ดที่ได้ประตูนำห่างเลยเล่นกันได้ง่าย อีกทั้งทางแบล็คเบิร์นเองก็ดูเหมือนจะไม่ได้ขึ้นมากดดันสูงมากนักด้วย

ช่วงท้ายแมนฯยูไนเต็ดมีจังหวะได้ลุ้นจุดโทษ จากการประสานงานต่อบอลกันหน้ากรอบเขตโทษอย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่เบอร์บาตอฟจะแหวกเข้าไปแล้มล้มลงในกรอบเขตโทษ สุดท้ายผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ก่อนเป่านกหวีดจบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดเหมาๆยิงนำไปก่อน 3-0

ครึ่งหลัง

ชาบูไปเลย!เบิร์บซัดแฮทริก
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 2 นาที ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟก็มาระเบิดแฮทริกที่สองในฤดูกาลนี้ของเขา จากจังหวะที่ตัวเองเป็นคนพาบอลจ่ายไปให้กับนานี่ที่ยึกหลอกชิมบงด้าจนก้นทิ่ม แล้วจิ้มบอลให้กับเบอร์บาตอฟแปเข้าไปตุงตาข่าย แมนฯยูไนเต็ดหนีห่าง 4-0

เร็วไปไหน!อาบังซัดเองเลยคร้าบบบบ
นาทีที่ 48 หรืออีกแค่ 1 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูที่ 5 แบบสายฟ้าแล่บแปร๊บๆ จากจังหวะที่นานี่หลุดขึ้นไปทางกรอบเขตโทษฝั่งขวา ซึ่งเขาก็ยึกหลอกชิมบงด้าจนหลงไปอีกเหมือนเคยแล้วแตะบอลเข้าซ้าย ปั่นไปเสาสองเสียบเข้าตาข่ายทันทีไม่มีเหลือ ปีศาจแดง ถล่ม 5-0

เกมวันเวย์เลยครับ
เกมกลายเป็นของทางเจ้าบ้านแมนฯยูไนเต็ดโดยสิ้นเชิง ทั้งครองบอลทำเกมกันเพื่อหาโอกาสยิงประตูเพิ่ม ทั้งกดดันเจ้าฝั่งทีมเยือน ซึ่งวันนี้แทบจะหาโอกาสยิงเหน่งๆไม่ได้เลย หลังโดนอัดไปหลายดอก

สุดตีน!เบิร์บอัดลูกที่ 4
นาทีที่ 61 เกมมาขาดแบบถล่มทลาย จากจังหวะการทำเกมรุกของแมนฯยูไนเต็ดที่บุกดดันขึ้นมาหน้ากรอบเขตโทษของแบล็คเบิร์น ก่อนที่บอลจะขลุกขลิกไปมา แต่ก็ไปเข้าทางเบอร์บาตอฟที่จัดการอัดเต็มตีนทันที บอลพุ่งเสียบเสาไกล โรบินสันรับยังไงก็ไม่ทัน แมนฯยูไนเต็ดถล่มเละ 6-0

ทำอะไรก็ดีไปหมด!เบิร์บอัดลูกที่ 5
นาทีที่ 70 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟหยิบจับทำอะไรก็ดีไปหมดจริงๆในเกมนี้ แม้แต่ในจังหวะที่เขาหลุดเข้าในกรอบเขตโทษแล้วต้องการจ่ายให้รูนี่ย์ ลูกจ่ายก็ดันติดบล็อกแล้วไปเข้าทางเข้า ก่อนที่จะสังหารมุมแคบเข้าไป ทำให้แมนฯยูไนเต็ดถล่มแหลกลานจนไม่รู้จะว่ายังไงเป็น 7-0 พร้อมทั้งเป็นลูกที่ 5 ของเขาในเกมนี้แล้ว

หมูทุ่มเต็มที่
หลังจากเห็นเพื่อนยิงกันไปอย่างเต็มที่ แต่ตัวเองไม่มีชื่อในสกอร์ รูนี่ย์ก็พยายามทำหน้าที่ในจุดอื่นๆแทน ไม่เว้นแม้แต่วิ่งลงไปคุมปีกของแบล็คเบิร์นในแดนหลัง เป็นเหมือนฟูลแบ็คสมใจโทชิกันเลยทีเดียว

แซมบ้าโขกเบาไปนิด
นาทีที่ 79 แบล็คเบิร์นเกือบจะตีไข่แตกกู้หน้าได้บ้างแล้ว จากจังหวะเปิดบอลที่แซมบ้าขึ้นไปโขกได้ก่อนกองหลังแมนฯยูไนเต็ด เพียงแต่ว่าบอลมันเบาไปหน่อยทำให้เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ที่วันนี้แทบไม่ได้เห้นหน้าเห็นตารับไว้ได้

แซมบ้าเอาจนได้ท่าน
นาทีที่ 84 แมนฯยูไนเต็ดเสียสมาธิจนต้องเสียคลีนชีตไปจนได้ จากจังหวะที่ถูกทางแบล็คเบิร์นบุกกดดันใส่จนกองหลังรวน เลยโดนทางแซมบ้าขึ้นเทคตัวโขกเน้นๆเต็มๆไม่มีเหลือ แบล็คเบิร์นกู้หน้าตีไข่แตกเป็น 7-1 ได้

เบิร์บเกือบได้เม็ดหก
นาทีที่ 89 ประตูที่หกของดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟถูกปฏิเสธโดนพอล โรบินสันที่เซฟลูกโขกเน้นๆเหน่งๆหน้าประตูเอาไว้ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วจะเป็นการสร้างสถิติพรีเมียร์ ลีกที่ทำ 6 ประตูในเกมเดียวได้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เนมันย่า วิดิช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,ปาทริซ เอฟร่า,ราฟาเอล,อันแดร์สัน,ไมเคิ่ล คาร์ริค,ปาร์ค จี-ซอง,นานี่,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,เวย์น รูนี่ย์

แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน,ไรอัน เนลเซ่น,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า,ปาสกาล ชิมบงด้า,มิเชล ซัลกาโด้,เดวิด ดันน์,เฮร์โรลด์ กูลง,ฟีล โจนส์,อัล-ฮัดจิ ดิยุฟ,เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน,เจสัน โรเบิร์ตส์












_________________
สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์