โอกาสเข้ารอบน็อกเอาท์แชมเปี้ยนส์ลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดใสยิ่งกว่าไข่มุกหลังเปิดบ้านสอนบอลกลาส์โกว์ เซลติกแบบไร้ทางสู้ 3-0 โดยดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟเริ่มแผลงฤทธิ์เหมาสองประตูส่วนเวย์น รูนีย์ร้อนไม่เลิกยิงประตู 7 นัดติดต่อกันเข้าให้แล้ว
บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง
ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
วันอังคารที่ 21 ตุลาคม 2551
กลุ่ม อี
แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 เซลติก
สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ประตู : 1-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.30, 2-0 ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น.51, 3-0 เวย์น รูนี่ย์ น.76
แชมป์เก่า แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามในเกมนี้ในระบบ 4-4-2 ตามปกติโดยไม่ได้มีการส่งคาร์ลอส เตเบซ ลงมาเป็นหัวหอกคนที่สามแต่อย่างใด ส่วนในแนวรับริโอ เฟอร์ดินันด์ พลาดเกมนี้เป็นดาวรุ่งจอห์นนี่ อีแวนส์ที่ลงมาแทน ขณะที่แบ็กซ้ายจอห์น โอเช ลงแทนปาทริซ เอวร่าที่บาดเจ็บตามความคาดหมาย
เริ่มต้นมาแบบไม่ต้องให้ใครบอกก็รู้ว่าทางฝ่ายเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายที่ครองบอลเปิดเกมบุกข้างเดียวเห็นๆ โดยมาทักทายครั้งแรกเอาในนาทีที่ 6 จากคริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่ลองสับไกลจากนอกเขตโทษหลุดกรอบออกไป
แต่ทางเซลติก ก็มีโอกาสขู่กลับมาบ้างจากโอกาสของแม็คกีดี้ ที่ลากตัดเข้ามาในก่อนซัดด้วยซ้ายโดนเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวปัดพ้นเสาออกไปได้แบบมีเสียว
ถึงนาทีที่ 17 หมูพลิ้ว เวย์น รูนี่ย์ ที่กำลังร้อนแรงจัดในช่วงหลังได้ลองโชว์กระโดดสับขาวอลเล่ย์ในเขตโทษ แต่โดนเหลี่ยมไม่ดีและยังติดบล็อกอีกด้วย ก่อนที่เซลติกจะโต้คืนจากลูกวอลเล่ย์เน้ๆนริมกรอบเขตโทษของคัลด์เวลล์ ที่ทำเอาฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องผวาปัดข้ามคานออกไป
จากนั้นทั้งสองทีมก็ยังสู้กันได้อย่างพอสูสี แต่มาถึงนาทีที่ 30 ความเด็ดขาดมากกว่าของแมนฯ ยูไนเต็ดก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ เมื่อเจ้าถิ่นมาได้ลูกเตะมุม นานี่ เปิดมาแฉลบคัลด์เวลล์ ก่อนที่บอลจะมาเข้าทางเบอร์บาตอฟ เก็บขนมกินนิ่มๆเข้าไปให้ผีแดงนำ 1-0
ช่วงต่อจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่าในเกมรุก โดยนานๆทีจึงจะมีโอกาสที่เซลติกได้โงหัวขึ้นมาบ้างแต่ก็ไม่มีฝ่ายใดทำอะไรกันได้อีก แม้ว่าสกอร์น่าจะไหลเป็น 2-0 ถ้าดาร์เรน เฟล็ตเชอร๋ ไม่พลาดในช่วงนาทีสุดท้ายที่ซัดที่เสาไกลข้ามคานออกไปแบบน่าเสียดายก็ตาม
ครึ่งหลังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว ซึ่งเกมก็ยังเป็นทางแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าและแค่ 6 นาทีเท่านั้นก็มาได้ประตู 2-0 จากเบอร์บาตอฟ เจ้าเก่าที่เข้าไปตามซ้ำลูกยิงฟรีคิก 25 หลาของโรนัลโด้ที่อาร์เธอร์ โบรุค ปัดไม่พ้นอันตรายจนโดนลงโทษในที่สุด
ถัดมาไม่กี่นาที ตาข่ายของเซลติกก็สะเทือนอีกจนได้ เมื่อรูนี่ย์ ได้บอลจ่ายทะลุช่องหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนจะแต่งบอลและยิงผ่านโบรุคเข้าไปแล้ว แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินช่วยชีวิตทีมเยือนไว้เมื่อยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าก่อน
หลังจากนั้นน เจ้าถิ่นก็ยังเดินเครื่องไล่ต้อนข้างเดียวอย่างเมามันชนิดที่เซลติกไม่มีโอกาสโงหัวขึ้นสู้เลยและรอเวลาที่จะโดนยิงเพิ่มเท่านั้น ซึ่งทีมเยือนยันมาได้ถึงนาทีที่ 76 ก็อั้นไว้ไม่อยู่
โดยคนซัด 3-0 ก็คือตัวเก่งอย่างรูนี่ย์ ที่พลาดมาหลายช็อตก่อนหน้านี้ได้โชว์ลีลาสังหารประตูสุดเลือดเย็นด้วยการพลิกบอลหน้าเขตโทษและกลับตัวยิงหักข้อทันทีแบบไม่น่ามีอะไร แต่ลูกพุ่งเรียดเบียดเสาเข้าไปแบบสวยงาม เป็นประตูที่ 7 ติดต่อกันแล้วสำหรับทีมชาติและสโมสรของ หมูพลิ้ว
ช่วงที่เหลือของเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นประคองตัวไปเรื่อยๆซึ่งก็ไม่มีปัญหาสำหรับการรักษาสกอร์ 3-0 คว้าชัยชนะและเก็บเพิ่มได้อีก 3 คะแนนเต็มในเกมนี้ โอกาสที่จะเข้ารอบน็อคเอาต์เริ่มปรากฏชัดมากขึ้นเรื่อยๆ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี่ เนวิลล์ (เวส บราวน์ น.68) , จอห์นนี่ อีแวนส์, เนมันย่า วิดิช, จอห์น โอเช, คริสติอาโน่ โรนัลโด้ (ปาร์ค จี ซอง น.82) , ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, อันแดร์สัน, นานี่, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (คาร์ลอส เตเบซ น.60) , เวย์น รูนี่ย์
ใบเหลือง : -
กลาสโกว์ เซลติก : อาร์เธอร์ โบรุค, มาร์ค วิลสัน, เกล็นน์ ลูเวนส์, สเตฟาน แม็คมานัส , ลี เนย์เลอร์, สกอตต์ บราวน์, แบร์รี่ ร็อบสัน (ฌอน มาโลนี่ย์ น.62) , ชุนสุเกะ นากามูระ (พอล ฮาร์ทลี่ย์ น.62) , แกรี่ คัลด์เวลล์, เอเดน แม็คเกดี้, สกอตต์ แม็คโดนัลด์ (ซิเลียน เชอริแดน น.77)
ใบเหลือง : ฮาร์ทลี่ย์ น.74, ลูเวนส์ น.83
ผู้ตัดสิน : แฟรงค์ เดอ บลีคเกร์
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
