แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดปลดล็อกคว้าชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ได้สำเร็จหลังบุกไปปาดคอปอร์ทสมัธคู่ปรับที่เจอกันเป็นนัดที่สามหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของดาร์เรน เฟลทเชอร์อีกคำรบคว้า 3 แต้มแรกพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 5 ส่วนทีมของแฮร์รี่ เร้ดแนปป์แพ้รวดสองนัดติดลบ 5 จมบ๊วยกันไป
ปอร์ทสมัธ 0-1 แมนฯยูฯ
ประตู : 0-1 เฟลทเชอร์ น.32
สิ้นเสียงกรรมการเป่านกหวีดแข้งปอร์ทสมัธเหมือนถูกไฟลนก้นวิ่งกันพล่านต่อบอลราวกับอดอยากปากแห้งมานานหลายเดือนโดยหมายจะเอาชนะชดเชยจากเกมนัดเปิดสนามที่พ่ายเชลซีมาเละเทะ 4-0 ให้ได้
แต่เอาเข้าจริงนาทีที่ 4 ยูไนเต็ดได้เสียวก่อนเมื่อสโคลส์วางข้ามาทางกรอบโทษฝั่งขวาให้บราว์นพักอกหลังก่อนตบยัดเลียดเข้ากลางเป็นรูนีย์จับบอลแล้วยึกยักหาจังหวะก่อนตะบันเต็มๆลอดขาจอห์นสันแต่ยังดีที่เดวิด เจมส์ยืนมุมดีคว้าเข้าซองสบาย ถ้าเลือกอีกมุมสงสัยตุงแน่นอน
เล่นไปเล่นมาตอนนี้ทีมเยือนต่อบอลเล่นลิงหลอกแข้งปอมปีย์ได้มากขึ้นเรื่อยๆแต่ยังเจาะแนวรับตัวหนาๆอย่างแคมป์เบลล์,ดิสแต็ง,กาบูลไม่พ้น
ปอมปีย์หันมาใช้บอลยาวในจังหวะสวนกลับหลายครั้งแต่ไม่ได้ผลเลยต้องค่อยๆต่อบอลกันขึ้นมาซึ่งเข้าทางยูไนเต็ดที่ลงมาตั้งรับเร็วจัด
นาที 19 เกมที่กำลังง่วงๆได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อทีมเยือนได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาสองจังหวะเป็นรูนีย์เขี่ยบอลด้วยหลังตีนเบาๆให้สโคลส์วิ่งหน้ามามุ่ยเข้ามากดเต็มเท้าบอลพุ่งทะลุกำแพงแต่ดันออกแนวตรงกลางประตูทำให้เจมส์ผวาตระครุบสองมือติดหนึบเป็นตังเม เยี่ยมทั้งคนยิงและเซฟ
แต่นาที 25 ปอมปีย์เกือบได้เฮเมื่อเดโฟที่ยึกยักอยู่ตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายเปิดบอลให้ปีเตอร์ เคราช์บอลตกพื้นระยะ 6 หลาแต่ดันพันขาไม่ได้ยิงซักทีเลยเสร็จเอวร่าที่มาสไลด์สกัดแฉลบขาฟาน เดอร์ ซาร์ออกหลังหวุดหวิดและจากลูกเตะมุมเป็นคาบูลโขกเผาขนแต่โดนไม่เต็มบอลภากเสาออกไป รอดตัวสำหรับทีมเยือน
ตอนนี้ความห้าวเหมือนต้นเกมของปอมปีย์กลับมาครอบงำอีกครั้งจนผู้เล่นยูไนเต็ดเล่นชักไม่เป็นขบวนแต่แล้วนาที 32 ปิศาจแดงมาขึ้นนำหน้าตาเฉยจากลูกจ่ายบอลสุดคมของเตเบซทะลุทางกรอบโทษฝั่งซ้ายให้เอวร่าสปีดมาเต็มดอกก่อนปาดเข้ากลาง ณ. จุดนัดพบให้เฟลทเชอร์แต่แคมป์เบลล์ไวกว่าสไลด์ตัดหน้าซึ่งทำให้บอลปลิ่นเปลี่ยนทางจนเจมส์ต้องพุ่งปัดแต่ไม่เต็มบอลเลยเส้นกำลังจะเข้าดิสแต็งมาสไลด์หมายจะกวาดทิ้งแต่ไม่ทันบอลเข้าประตูเต็มๆ ยูไนเต็ดนำ 1-0
ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาทีปอร์ทสมัธยังมีโอกาสตีเสมออีกครั้งจากลูกเตะมุมเป็นแคมป์เบลล์ที่โขกมาหล่นตรงเดโฟแต่หอกทีมชาติอังกฤษลอยตัวยิงข้ามคานแบบรักบี้ออกไป
อีกนาทีถัดมารูนีย์โชว์พรสวรรค์เมื่อจับบอลที่เพื่อนจ่ายมาให้จังหวะเดียวให้เปลี่ยนทางข้ามหนีดิสแต็งก่อนวิ่งไปยิงเต็มข้อบนเส้น 18 หลาแต่ลูกนี้ที่สมควรตุงตาข่ายกับพุ่งทะลุเฉี่ยวเสาชนิดที่ว่าเอาฟันปลอมเขวี้ยงใส่ก็เข้าประตูแน่ หมดครึ่งแรกยูไนเต็ดบุกมานำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังเริ่มมา 4 นาทียูไนเต็ดต่อบอลสวยและเกือบได้ประตูจากลูกที่เตเบซเลี้ยงฝ่าด่านมาถึงหน้าเขตโทษก่อนหลอกจะตัดเข้าในแต่ป้ายออกซ้ายให้รูนีย์ตบบอลจากกรอบโทษฝั่งซ้ายมาเสาไกลแต่ดิสแต็งสไลด์ทิ้งก่อนที่จะถึงเฟลทเชอร์นิดเดียว
เกมของปอมปีย์ต่อกันไม่ค่อยติดเท่าไหร่เพราะเวลาทำเกมบุกต้องค่อยๆขึ้นรอให้เพื่อนช่วยเติมแต่นาที 60 เจโรม โธมัสแข้งใหม่จากชาร์ลตันชงเองกินเองหนีตัวประกบก่อนยิงไกลบอลพุ่งแรงร้อนถึงฟาน เดอร์ ซาร์ต้องประสานมือต่อยออกมาก่อน
วันนี้สโคลส์หลอกยิงไกลด้วยขวาแล้วล็อกเข้าซ้าย 2-3 ครั้งแล้วแต่ยังไม่สำเร็จผลซักทีในขณะที่ปอมปีย์เล่นแบบรอวันเสียประตูเพราะเกมไม่มีอะไรดุดันเลย
นาที 72 ปอมปีย์ซึ่งหาทางเจาะเข้าไม่ได้ก็หันมาเน้นยิงไกลและปาป้า บูบ้า ดิยอฟส่องเต็มข้อและฟาน เดอร์ ซาร์ต้องใช้มุกเดิมปัดสองมือเอาชัวร์ไว้ก่อนจากนั้นเพื่อนก็มาช่วยเคลียร์ทิ้งทัน
อีก 7 นาทีต่อมาเตเบซพลิกบอลระยะ 25 หลาพอเห็นไม่มีใครเข้าเลยเลี้ยงจี้เข้าหากองหลังหน้าเขตโทษและซัดเต็มข้อเสาแรกบอลพุ่งหลุดออกหลังแบบได้เสียว
ช่วงเวลาที่เหลือเกมของปอร์ทสมัธตายไปดื้อๆและต้องคอยตัดเกมเตเบซจนเผาเวลาเข้าไปอีกหมดเวลาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบุกมาชนะ 1-0 คว้าชัยชนะนัดแรกในฤดูกาลนี้ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5 อย่างสวยงาม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์,ยูเนส คาบูล,โซล แคมป์เบลล์,ซิลแวง ดิสแต็ง,เกล็น จอห์นสัน,ปาป้า บูบ้า ดิยอฟ
,ฌอน เดวิส(อูทาก้า น.66),ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า,อาร์มันด์ ตราโอเร่(โธมัส น.56),ปีเตอร์ เคราช์,เจอร์เมน เดโฟ แมนฯยูฯ : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,เวส บราว์น
,ริโอ เฟอร์ดินานด์,เนมันย่า วิดิช,จอห์น โอเชีย,ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ,อันแดร์สัน(โพสเซบอน น.76),พอล สโคลส์,ปาทริซ เอวร่า,เวย์น รูนีย์,คาร์ลอส เตเบซ 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
