เครอซเป็นผู้ช่วยเฟอร์กี้อยู่ดีๆไม่ชอบ




คาร์ลอส
เครอซ พบกับความผิดหวังอีกครั้งในการทำหน้าที่กุนซือ โดนสังปลดพ้นตำแหน่งนายใหญ่ทีมชาติโปรตุเกส น้อยเกินไปหรือไม่กับประสบการณ์ที่เจ้าตัวได้เรียนรู้จากการเป็นผู้ช่วยของโคตรกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพราะดูเหมือนว่าสิ่งนั้นจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย!!








รายงานข่าวจากโปรตุเกสเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา! องค์กรลูกหนังสูงสุดของประเทศตัดสินใจแยกทางยกเลิกสัญญากับ คาร์ลอส เครอซ สั่งเด้งฟ้าผ่าพ้นตำแหน่งกุนซือ เป็นเรื่องที่อาจจะไม่เซอร์ไพรส์นักเพราะก่อนหน้านี้หลายคนต่างคาดกันว่า เครอซ เก้าอี้ร้อนส่อแววอยู่ในตำแหน่งได้ไม่นานแน่แล้ว เนื่องจากจากถูกคณะกรรมการตรวจสารกระตุ้นของประเทศสั่งแบนยาว 6 เดือนเนื่องจากพูดจาหยาบคาย และขัดขวางการทำหน้าที่ในการตรวจสารกระตุ้นทัพนักเตะฝอยทองในช่วงก่อนหน้าศึกฟุตบอลโลก 2010

ย้อนประวัติของกุนซือโปรตุกีสเคยใช้ชีวิตโลดแล่นในเส้นทางลูกหนังช่วงสั้นๆ
ก่อนจะหันมาเอาดีทางโค้ชแต่ที่เห็นจะทำให้หลายคนรู้จักชื่อของ เครอซ
มากขึ้นคือช่วงที่เข้ามารับงานเป็นมือขวาของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอดกุนซือ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงขนาดที่กูรูลูกหนังบางคนมองว่า นี่แหละตัวแทนป๋าเฟอร์กี้

เอาล่ะสิ
! ราศีเริ่มจับหลายทีมเริ่มให้ความสนใจจนปี 2003 จุดเปลี่ยนในชีวิตของ
เครอซ ก็มาถึงเมื่อเจ้าตัวตัดสินใจเข้ารับเผือกร้อน ตอบรับคำเชิญของ รีล มาดริด ยอดทีมแห่งสเปนเข้าคุมทีมแทน บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ถ้าเป็นทีมเกรดล่างทั่วไปก็คงไม่เป็นไรนัก แต่นี่คือ ราชันชุดขาว ทีมซึ่งเต็มไปด้วยสตาร์ดังคับคั่ง ถ้าเอ่ยชื่อนักเตะขึ้นมาต้องยอมรับว่า ตอนนั้นคนยังรู้จักหน้าค่าตานักเตะมากกว่า เครอซ ด้วยซ้ำ!!

นี่คือประเด็น
! จากกุนซือโนเนมที่ไม่ได้มีผลงานมากนัก เป็นผู้ช่วยขยับมารับงานกุนซือ
นักเตะหลายคนเกิดอาการต่อต้าน มองว่านี่หรือคนที่จะมานำกรู?? แม้จะพาทีมคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ เอาชนะ รีล มายอร์ก้า แต่ก็เป็นเกมนัดเดียวซึ่งแน่นอนว่าวัดอะไรมากไม่ได้ เมื่อนักเตะอยู่เหนือกุนซือก็ยากที่จะคอนโทรล เครอซ ไม่อาจฝืนแรงต้าน ไร้บารมี-ไร้เครดิต ท้ายที่สุดแล้วจึงโดน รีล มาดริด อัปเปหิพ้นรังซานติอาโก้ เบอร์นาบิว เมื่อปี 2004

สูงสุดคืนสู่สามัญ
! เครอซ หอบสภาพจิตใจที่บอบช้ำกลับมายัง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังใช้บทเรียนที่ได้รับเพราะบ่มวิทยายุทธ์ด้วยหวังว่าวันหนึ่งจะสร้างชื่อให้ตัวเองในฐานะกุนซือระดับแถวหน้า และดูเหมือนว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วเกินคาด!!

11
กันยายน
2008 เครอซ เดินเข้ามาหา
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พร้อมกับบอกว่า ผมขอไปทำงานกับทีมชาติโปรตุเกส ไม่ใช่ผู้ช่วย, ไม่ใช่ทีมสตาฟฟ์ แต่คือตำแหน่งผู้จัดการทีม ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง มันเป็นความท้าทายที่สุดวิเศษสำหรับผมและมีความเป็นมืออาชีพสูงที่ใครๆก็อยากสัมผัส นับตั้งแต่ผมได้รับการติดต่อจากประธานสหพันธ์ ผมแทบจะตอบรับอย่างไม่รีรอทันที แน่นอนเป้าหมายแรกในตำแหน่งนี้ ก็คือพาโปรตุเกสไปเล่นฟุตบอลโลก 2010 ทั้งนี้ผมขอถือโอกาสขอบคุณ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยที่อนุญาตให้ผมกลับไปคุมทีมชาติ นั่นคือถ้อยแถลงของ เครอซ ในวันที่ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ ทีมชาติโปรตุเกส

เส้นทางหาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เครอซ ไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่หวังไว้แม้จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 แต่ก็ไปได้ไกลเพียงรอบ 16 ทีมจากความพ่ายแพ้ให้กับ สเปน ซึ่งในเวลาต่อมาทะลุเข้าชิง จบทัวร์นาเมนต์ด้วยการเป็นแชมป์ ก่อนจะมาโดนปลดพ้นตำแหน่งช่วงคัดยูโร โทษฐานทำผลงานไม่เข้าเป้า

แน่นอนว่าความกล้าและความทะเยอทะยานเป็นเหตุผลแรงผลักดันที่สำคัญที่จะทำให้ใครคนหนึ่งก้าวไปยังเป้าหมาย
คนเราต้องก้าวไปข้างหน้า แต่สำหรับ
เครอซ เพราะยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ บุญไม่มา วาสนาไม่ส่ง ท้ายที่สุดจึงต้องลงเอยด้วยความผิดหวังอีกครั้ง เมื่อมองย้อนกลับไปจะดีกว่าหรือไม่ที่ เครอซ จะซึมซับเรียนรู้ยุทธ์วิชาในเชิงลูกหนังจาก เฟอร์กี้ ให้แน่นปึ๊กเสียก่อนแล้วค่อยสยายปีกท่องยุทธจักร...



เรื่องโดย
:สายตรวจลูกหนัง

ที่มา. http://teenee.com/overview.php?c=18&id=33441


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์