แชมป์เก่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตบเท้าลอยลำเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกอย่างสมศักดิ์ศรีจาก 2 ประตูในนาทีที่ 4 ของทั้งครึ่งแรกและครึ่งหลังที่มาจากปลายหัวของเนมันย่า วิดิชและโรนัลโด้ซิวอินเตอร์ มิลานของโจเซ่ มูรินโญ่นิ่ม 2-0
แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
แมนฯยูฯ 2-0 อินเตอร์
ประตู : 1-0 วิดิช น.4,2-0 โรนัลโด้ น.49
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอุ่นใจในแนวรับสุดๆซึ่งผิดจากนัดแรกโดยริโอ เฟอร์ดินานด์ฟิตจากอาการเจ็บข้อเท้าลงจับคู่กับเนมันย่า วิดิชที่พ้นโทษแบนกลับมาเช่นเดียวกับจอห์น โอเชผ่านความฟิตเช่นกันส่วนในตำแหน่งอื่นไม่พลิกโผทั้งคริสติอาโน่ โรนัลโด้,เบอร์บาตอฟ,เวย์น รูนีย์
ด้านโจเซ่ มูรินโญ่กุนซือไร้เพื่อนของอินเตอร์ มิลานดร็อปอาเดรียโน่เป็นตัวสำรองและเลือกใช้ปาทริค วิเอร่าลงตัวจริงหมายตัดเกมรุกของเจ้าถิ่น
ครึ่งแรก
เปิดมายูไนเต็ดดูเหมือนจะต่อบอลเข้าทำได้มากกว่าส่วนทีมเยือนต้องลงมาช่วยันตั้งรับตั้งแต่แรกโดยที่เร้ดอาร์มี่ส่งเสียงอื้ออึงเพราะทีมรักขึงเกมได้มากกว่า
แต่นกกระจอกไม่ทันกินน้ำแค่ 4 นาทียูไนเต็ดได้เตะมุมเป็นกิกส์ปั่นเข้ามือเป็นวิดิชที่สลัดตัวประกบโผนโขกเต็มหัวตรงบริเวณจุดโทษบอลตุงตาข่ายชนิดที่เซซาร์ยังไม่ได้ขยับพุ่งเซฟเลยเพราะโขกแบบนี้ดักทางไม่ได้แน่ จากภาพช้าปาทริค วิเอร่ารับไปเต็มๆเนื่องจากไม่มองบอลมองแต่วิดิชจนหลงเหลี่ยมหันไปหันมาตามประกบไม่ทัน 1-0 แล้ว
แท็คติกส์น้ามูลำบากไม่น้อยเพราะตอนแรกใช้หน้าเดี่ยวและเน้นแนวรับแน่นๆไว้ก่อนเพราะตัวเจ็บเยอะแต่โดนนำเร็วแบบนี้อิบราฮิโมวิชอยู่แดนหน้าคนเดียวต้องคอยพักบอลเลยเข้าทำเจาะไม่รวดเร็วพอ แบบนี้แนวรับเจ้าถิ่นเล่นง่ายเลย
เกมมาเนือยลงอย่างชัดเจนกว่าจะมีโอกาสอีกครั้งก็ต้องรอจนถึงนาที 16 เมื่อโด้ได้บอลทางกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตบมาตรงเส้นเขตโทษ 18 หลาให้รูนีย์หันหลังแตะบอลที่ลอยโด่งจนเบอร์บาตอฟรอจังหวะวอลเลย์ตามน้ำแต่ไม่แรงเข้ามือเซซาร์สบาย
อีก 3 นาทีต่อมายูไนเต็ดเกือบนำ 2-0 หลังกิกส์หลุดมาทางกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบย้อนจะให้เบอร์บาตอฟแต่ซามูเอลทิ้งตัวบล็อกจนเหมือนจะถูกมือเรียกว่าแฟนในสนามร้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ แต่จังหวะนี้ถ้าปล่อยไปนี่เบอร์บาได้ยิงเน้นๆแน่
นาที 21 แฟชั่นเตะบอลทิ้งเวลามีคนเจ็บกลายเป็นจารีตประเพณีแบบผิดๆกันซะแล้วเพราะสเตฟาโนวิชวิ่งหน้าตั้งจะเปิดบอลที่กำลังล้นออกเส้นหลังแต่ตวัดเข้ามาได้แต่สุดขาจนเข้ามมือฟาน เดอร์ ซาร์สบายๆแต่ตัวเองต้องไถลไปชนป้ายนอกสนามแล้วเจ็บแขนพอปิศาจแดงตั้งบอลรุกขึ้นมามีนักเตะอินเตอร์บางคนยกมือฟ้องทำไมไม่เตะบอลทิ้ง จนกิกส์เตะให้ซึ่งจริงๆแล้วไม่เกี่ยวกันเนื่องจากนักเตะอยู่นอกสนามไม่จำเป็นต้องเตะทิ้งให้ ไร้สาระจริงๆ
นาที 29 ไมคอนสาดฟรีคิกไกลยาวระยะ 35 หลาบอลพุ่งย้อยมาเป็นอิบราวิ่งตามจังหวะไม่ล้ำหน้าก่อนโขกเน้นๆตรงระยะ 6-7 หลาจอห์น โอเชประกบไม่ทันแต่กลับโดนไม่เต็มบอลเด้งลงพื้นชนคานออกหลังไปอย่างโชคร้าย
บอลชนคานเหมือนแข้งทีมเยือนเห็นเลือดเลยเล่นด้วยความมั่นใจมากขึ้นจนเป็นฝ่ายครองบอลหาทางเจาะดูดีมีอนาคตกว่าเดิม
นาที 36 งูใหญ่เกือบตีเสมอได้หลังอิบราเก็บบอลดึงกองหลังมารุมสองคนตั้งเกือบๆฝั่งซ้ายหน้ากรอบโทษแล้วป้ายต่อให้สแตนโควิชยิงลูกใบไม้ร่วงแบบติดไซด์และฟาน เดอร์ ซาร์ที่ออกมาตรงเส้น 6 หลาต้องถอยบินปัดแบบปลายเล็บ(ถุงมือ)บอลหลุดเสานิดเดียวแต่กรรมการมองไม่เห็นเลยไม่ให้เตะมุม
เกมมันมากเพราะอีก 2 นาทีเจ้าถิ่นน่าจะได้ลูกสองหลังกิกส์ที่วันนี้เล่นดีมากแงะบอลจากปีกขวาแล้วปาดไปหน้าเขตโทษให้สโคลส์ทำชิ่งเร็วจนโอเชหลุดเข้าเขตโทษไปดวลกับเซซาร์ที่ปรี่ออกมาปิดมุมแล้วอ่านหน้าเท้าโอเชที่เอียงตัวแปเลยเซฟด้วยขวาหวุดหวิด
แนวรับยูไนเต็ดชักปล่อยให้ทีมเยือนมีโอกาสมากขึ้นเรื่อยและก่อนหมดเวลา 5 นาทีบาโลเตลลี่เบิ้ลบอลทะลุตัดหลังเซนเตอร์ให้อิบราวิ่งควบไปเอาก่อนจับแล้วหักข้อยิงกะให้หนีมือน้าเอ็ดดี้แต่บอลถากเสาไกลแบบน่าเข้าสุดๆ
นาทีสุดท้ายงูใหญ่มาทิ้งทวนจากลูกยิงไกลนอกเขตโทษของไมคอนที่แม้จะแรงแต่ฟาน เดอร์ ซาร์ยืนใกล้เสาเลยล้มตัวรับเอาไว้งามๆ หมดครึ่งแรกปิศาจแดงนำ 1-0
ครึ่งหลัง
ไปเวฟไส้กรอกอีสานกลับมามีประตูซะแล้ว....และเหมือนหวยล็อกเพราะเป็นนาทีที่ 4 หรือนาที 49 ที่ยูไนเต็ดมานำ 2-0 จากความผิดพลาดของแนวรับทีมเยือนที่ปล่อยให้กิกส์ฝ่าด่านเลี้ยงตรงหน้าเขตโทษแทยงมาเรื่อยๆก่อนแปะให้สโคลส์ที่จิ้มสั้นๆต่อให้รูนีย์ตรงหัวมุมกรอบเขตโทษก่อนยืนจ้องกับตัวประกบอยู่ 2-3 วิแล้วเปิดย้อยตัดแนวรับให้โรนัลโด้วิ่งมาโขกแบบขึ้นคนเดียวบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ แนวรับอินเตอร์ห่วยมากเพราะจากจังหวะนี้มีผู้เล่นในเขตโทษถึง 7 คนส่วนยูไนเต็ดมีแค่ 3 คนเท่านั้นเองแถมโด้โขกว่าวก็ยังมีเบอร์บาตอฟยืนรองจากด้านหลังอีกด้วย
โชคของอินเตอร์คงใช้หมดไปจากเกมแรกแน่นอนเพราะนาที 60 คัมปิอาโซ่ครอสบอลจากหน้ากรอบโทษย้อยข้ามหัวริโอเป็นอาเดรียโน่ตัวสำรองที่ลงมาแค่ 2 นาทีกระโดดลอยตัววอลเลย์บอลผ่านมือ
นาทีถัดมายูไนเต็ดน่าจะได้ลูกที่สามหลังเบอร์บาตอฟมายิงซ้ำจ่อๆหลังเซซาร์ปัดลูกอัดของรูนีย์แต่จอมหนึบระดับโลกล้มตัวตามมาบล็อกจังหวะสองอย่างเหลือเชื่อ
ยูไนเต็ดผ่อนเกมแล้วพยายามล่อให้อินเตอร์บุกเพื่อรอสวนทำให้ช่วงนี้ทีมเยือนได้บอลกันเยอะขึ้นแต่สุดท้ายก็เจาะไม่เข้าต้องยิงไกลไม่ว่าจะอิบราหรืออาเดรียโน่ที่เหินข้ามคานแบบไม่มีลุ้นเลย
นาที 74 อินเตอร์พลาดโอกาสอีกแล้วหลังซานทานครอสบอลย้อยจากปีกซ้ายมาเสาสองตรงระยะแค่ 3 หลาเอวร่ากระโดดโหม่งแฉลบไปถูกหน้าอิบราบอลหลุดออกหลังไปสุดเศร้า
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีโรนัลโด้ซัดฟรีคิกบอลพุ่งข้ามกำแพงตามสไตล์แต่เซซาร์ยังไวพุ่งปัดก่อนเสียบตาข่ายนิดเดียว
และถือเป็นการปรับโฉมตัวเลขส่วนตัวกับมูรินโญ่เป็นชนะครั้งที่ 2 จาก 14 เกมที่พบกันลอยลำเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปลุ้นจับฉลากในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคมต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯยูฯ : เอ็ด วิน ฟาน เดอร์ ซาร์,จอห์น โอเช,ริโอ เฟอร์ดินานด์,เนมันย่า วิดิช,ปาทริค เอวร่า,ไมเคิ่ล คาร์ริค,คริสติอาโน่ โรนัลโด้,พอล สโคลส์(อันแดร์สัน น.70),ไรอัน กิกส์,เวย์น รูนีย์
(ปาร์ค น.84),ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์,ไมคอน,อีบัน คอร์โดบ้า,วอลเตอร์ ซามูเอล
,ดาวิด ซานทาน,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ,เอสเตบัน คัมบิอาสโซ่,ปาทริค วิเอร่า(มุนตารี่ น.46 ),เดยัน สเตฟาโนวิช(อาเดรียโน่ น.58),ซลาทาน อิบราฮิโมวิช,มาริโอ บาโลเตลลี่(ฟิโก้ น.70) 
ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
