สามโทษ!หมูแฮตทริกผีเข่นปอมปีย์ 4-1

สามโทษ!หมูแฮตทริกผีเข่นปอมปีย์ 4-1

 

อัฟราม แกรนท์ กุนซือคางคกรับงานใหม่ด้วยการแพ้แมนฯยูไนเต็ดเหมือนเดิมเมื่อไมค์ ดีน ผู้ตัดสินหัวใสบ้าจี้เป่าถึง 3 จุดโทษก่อนที่เวย์น รูนี่ย์จะเหมาแฮตทริกบวกกับลูกที่ 100 ในพรีเมียร์ลีกของไรอัน กิ๊กส์ทำให้ ปีศาจแดง บุกชนะปอร์ทสมัธ 3-1 ไล่จี้เชลซีที่จะลงเล่นกับอาร์เซน่อลวันอาทิตย์นี้เหลือแค่ 2 คะแนนเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก

เสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2552


ปอร์ทสมัธ 1-4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ประตู : 0-1 เวย์น รูนี่ย์(จุดโทษ) น.25 , 1-1 เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง(จุดโทษ) น.32 , 1-2 เวย์น รูนี่ย์ น.48 , 1-3 เวย์น รูนี่ย์(จุดโทษ) น.54 , 1-4 ไรอัน กิ๊กส์ น.86


คางทูมเปลี่ยนนายด่านเฝ้าเสา-ผีมาแปลกจัด 4-5-1
อัฟราม แกรนท์ นายใหม่ปอร์ทสมัธเรียกตัวแอสเมียร์ เบโควิช นายทวารบอสเนียคืนจากอิปสวิชก่อนจะส่งลงเฝ้าเสาวันนี้เลย

ด้าน ปีศาจแดง มาแปลกด้วยระบบ 4-5-1 โดยเวย์น รูนี่ย์เป็นตัวเป้าเพียงคนเดียวส่วนดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟที่เพิ่งหายเจ็บยังคงนั่งสำรองเช่นเดียวกับไมเคิ่ล โอเว่น

ครึ่งแรก

ผีกดลูกสูตรเกือบเข้า
ยูไนเต็ดเริ่มเกมแบบไม่รีบตามฟอร์มคือต่อบอลช้าๆเรื่อยๆพอมีโอกาสแล้วค่อยเข้าทำ กระทั่งนาทีที่ 11 เหล่าปีศาจได้เตะมุมก่อนที่กิ๊กส์จะเล่นสั้นเปิดตบกลับไปยังหน้ากรอบเขตโทษก่อนที่สโคลส์ได้กดเต็มข้อแต่บอลเหินข้ามคานแบบได้เสียว

ปอมปีย์คึก ดินดาน ได้ซัด 3 รอบ
ปอร์ทสมัธในวันบอลเปลี่ยนโค้ชคึกใหญ่โดยต่อเกมกันในครึ่งแรกน่ากลัวกว่ายูไนเต็ดด้วยซ้ำ นาทีที่ 12 ปรินซ์-บัวเต็งหยอดบอลเหมาะเจาะให้ปิกิยอนหลุดเข้าไปในเขตโทษแต่คุสชัคออกมาเซฟได้ทัน อีกจังหวะปรินซ์-บัวเต็งทะลุหนีเนวิลล์ไปทางขวาก่อนเปิดเรียดเข้ากลางให้ดินดานชาร์จแต่โดนไม่เต็ม

เจ้าบ้านยังคึกแบบนันสต็อปเมื่อโอฮาร่าจ่ายบอลให้ดินดานาหลุดไปซัดด้วยขวาแต่บอลเฉี่ยวเสา

พายุคางคกน่ากลัวจริงๆ
ปอมปีย์ ยังคงโหมบุกใส่ยูไนเต็ดชนิดจะเอาให้ตาย นาทีที่ 16 ปิกิยอนโขกตั้งให้โอฮาร่าตั้งป้อมฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายแต่คุสชัคบินปัดปลายนิ้วได้สวย

และจังหวะเตะมุมของโอฮาร่า ดินดานก็ได้พุ่งโหม่งอีกครั้งแต่ผิดทิศไปหน่อยบอลก็เลยเฉี่ยวเสาไปอีก

ตาผีบ้างแล้ว!
หลังจากตั้งการ์ดปล่อยให้เขาชกอยู่ฝ่ายเดียวเกือบ 5 นาทียูไนเต็ดได้บุกสวนบ้างเมื่อวาเลนเซียได้บอลทางด้านขวาก่อนตะลุยเข้าเขตโทษก่อนปาดเข้ากลางแต่ไม่มีใครเข้าชาร์จถึง

หลังจากนั้นนาทีที่ 22 กิ๊กส์เก็บบอลไว้ตรงกราบซ้ายก่อนถ่ายบอลต่อให้เอวร่าลากผ่านกองหลังปอร์ทสมัธสามคนก่อนอัดด้วยซ้ายแต่บอลไซร้ก้อยออกหลัง

ด่วนทำดีจนผีได้จุดโทษ
นาทีที่ 25 จุดสำคัญของเกมเกิดขึ้นเมื่อวาเลนเซียกระชากบอลหนีแข้งปอร์ทสมัธขึ้นมาอย่างน่ากลัวก่อนทำชิ่งกับรูนี่ย์ก่อนที่ รถด่วน จะหยอดคืนให้หมูรูนในเขตโทษก่อนที่ไมเคิ่ล บราวน์ มิดฟิลด์ปอมปีย์พยายามจะเข้าสกัดแต่ดันไปเหยียบเท้ารูนี่ย์ กรรมการจึงเป่าให้จุดโทษแบบมั่นใจก่อนที่ หมูพลิ้ว จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ยูไนเต็ดขึ้นนำ 1-0

หลังผีปวกเปียกจนเกือบโดนตีเจ๊า
สังเกตได้ชัดว่าแผงหลังยูไนเต็ดเข้าถึงบอลได้ช้าจนเกือบโดนตีเสมอ นาทีที่ 26 ปอร์ทสมัธได้ฟรีคิกก่อนที่กาบูลจะเปิดเข้าเขตโทษ ปิกิยอนโขกย้อนกลับมาก่อนที่โอฮาร่าจะได้ยิงเหน่งๆในเขตโทษแต่ไม่กล้าใส่เต็มเท้าบอลเลยหลุดกรอบ แม้ว่าปิกิยอนจะตามไปซ้ำเผาขนแต่ก็ล้ำหน้าไปแล้ว

ฟาว์ลตรงไหน!ผีเสียจุดโทษปริศนาโดน 1-1
งงเป็นไก่ตาแตกไปทั่วโลกเมื่อไมค์ ดีน กรรมการโล้นซ่าให้จุดโทษปอร์ทสมัธอย่างโคตรประหลาดเมื่อกาบูลโยนฟรีคิกเข้ากรอบเขตโทษก่อนที่คุสชัคจะออกมาชกบอลทิ้งเฉยๆ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยมีเพียงวิดิชที่มีดึงเสื้อปิกิยอนเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น แต่สุดท้ายตาดีนเป่าให้จุดโทษก่อนที่ปรินซ์-บัวเต็งจะสังหารเข้ามุมซ้ายเข้าประตูไป เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1

ตอนนี้บรรยากาศในเกมเริ่มมาคุแล้ว นาทีที่ 35 วาเลนเซียชิพบอลเข้ากลางติดแขนไฮดาร์สสัน แต่คราวนี้ตาไมค์ ดีนเฉย เฟล็ตเชอร์เลยเอาบอลมาแล้วคืนให้สโคลส์ยิงแถวสองแต่แฉลบหลุดกรอบออกไป

กระนั้นปอร์ทสมัธก็สวนกลับน่ากลัวเหมือนกันเมื่อยูไนเต็ดเปิดพื้นที่ให้เยอะจนดินดานลุยขึ้นมาก่อนจ่ายออกซ้ายให้ปรินซ์-บัวเต็งหยอดเข้าเขตโทษและเป็นดินดานจะโฉบเข้าโขกแต่โดนไม่เต็มบอลหลุดกรอบออกไปอีก

หมามุ่ยได้ตั้งป้อมยิงอีก
นาทีที่ 42 ยูไนเต็ดได้ลุ้นอีกครั้งโดยต้องชมวาเลนเซียที่สปีดรับบอลโยนยาวจากสโคลส์ก่อนถ่ายบอลให้เฟล็ตเชอร์-คาร์ริคก่อนจบที่สโคลส์ได้อัดเรียดแต่บอลติดกาบูลออกหลังไป

ช่วงทดเวลาเกมยังแลกกันสนุกแต่ยังไม่มีประตูเพิ่มก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสองจุดโทษ เสมอกัน 1-1


ครึ่งหลัง

ผีโล่งอกนำเร็ว 2-1
ยูไนเต็ดจู่โจมเร็วและได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งตั้งแต่นาทีที่ 48 เมื่อสโคลส์วางบอลอย่างแม่นยำให้กิ๊กส์หลุดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษก่อนกระดกบอลด้วยขวาให้รูนี่ย์ทะลุเข้าไปแปสวนตัวเบโกวิชเข้าไปอย่างไร้ปัญหา 2-1 สำหรับ ปีศาจแดง

ผีได้จุดโทษอีกรอบ-หมูแฮตทริก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 54 จุดโทษครั้งที่สามในเกมเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อปิกิยอนลงไปช่วยเกมรับในแดนตัวเองแต่ดันเสียบอลให้กิ๊กส์ที่วิ่งหลุดไปในกรอบเขตโทษแล้วเข้าปะทะ ก่อนที่ ไมค์ ดีนจะชี้นิ้วเป็นจุดโทษอีกครั้งและรูนี่ย์สังหารเรียดเข้ามุมขวาอย่างเด็ดขาด เป็นแฮตทริกของ หมูพลิ้ว ด้วย

ดินดานพลาดอีกหน
ปอร์ทสมัธยังคงสู้สุดใจและเกือบได้อีกหนในนาทีที่ 55 เมื่อโอฮาร่าได้บอลอยู่ในเขตโทษก่อนลากหนีไปทางขวาแล้วโยนกลับเข้ามาให้ดินดานโขกแต่บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง คราวนี้ดินดานพยายามฟ้องว่าเนวิลล์หนุนอยู่แต่ไม่เป็นผลซะแล้ว

นาทีถัดมาวาเลนเซียทำได้เยี่ยมอีกครั้งเมื่อลากตะลุยเข้าหาเขตโทษก่อนยิงฉีดยากะให้ไซร้ก้อยเสียบเสาแรกแต่โค้งไม่พอบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 59 ปรินซ์-บัวเต็งได้ครองบอลในระยะประมาณ 30 กว่าหลาถึงประตูก่อนล็อกหลบมิดฟิลด์ยูไนเต็ดแล้วเสี่ยงยิงด้วยซ้ายแต่บอลข้ามคาน

กิ๊กส์เกือบ 100
นาทีที่ 63 ยูไนเต็ดเกือบได้ประตูที่สี่เมื่อวาเลนเซียได้ปาดบอลเรียดเข้าเขตโทษก่อนที่กิ๊กส์จะเข้ายิงแต่เบโกวิชเซฟเอาไว้ได้ เกือบเป็นประตูที่ 100 ในพรีเมียร์ลีกของ ขนดก ซะแล้ว

ปอมปีย์บุกอีกชุด
ผ่านมาถึงนาทีที่ 70 ตอนนี้ปอร์ทสมัธต่อบอลบุกแบบไม่ลืมหูลืมตาแต่แนวรับ ปีศาจแดง ยังป้องกันเอาไว้ได้

เจ้าบ้านปอมปีย์ยังได้ลุ้นเป็นระยะ นาทีที่ 74 ดินดานพิงบอลอยู่ริมกรอบเขตโทษก่อนปาดให้ปรินซ์-บัวเต็งแตะหลบวิดิชแล้วได้ยิงแต่คุสชัคเซฟได้อย่างสวย นี่ถือเป็นเกมหนึ่งที่นายทวารแก้มแดงเล่นได้ดีที่สุดนัดหนึ่งตั้งแต่ย้ายซบยูไนเต็ดเลยทีเดียว

น้องแอนยิงข้ามคานอีกรอบ
นาทีที่ 79 ยูไนเต็ดได้ลุ้นเล็กๆเมื่อกิ๊กส์วางบอลยาวจากกลางสนามให้อันแดร์สันหลุดไปทางด้านขวาของเขตโทษก่อนดีดด้วยซ้ายแต่มุมไม่มีบอลข้ามคานออกไป

เกมขาด! ขนดก คนร้อยลูก
ยูไนเต็ดมานำห่าง 4-1 ในนาทีที่ 86 เมื่ออูตาก้าตัวสำรองทำฟาว์ลในระยะหวังผลก่อนที่รูนี่ย์จะวิ่งหลอกให้กิ๊กส์ปั่นหนีกำแพงเสียบตาข่ายสุดสวย และเป็นประตูที่ 100 ของปีกมังกรแดงในพรีเมียร์ลีกจนได้

นาทีที่ 89 ปอร์ทสมัธมีโอกาสอีกครั้งจากฟรีคิกบริเวณริมกรอบเขตโทษทางด้านขวาแต่โอฮาร่าเลือกเสี่ยงยิงแต่บอลหลุดกรอบออกไป

แก้มแดงโคตรเหนียว
นาทีสุดท้ายปอร์ทสมัธน่าได้ประตูตีไข่แตกจริงๆเมื่ออูตาก้าโยนบอลเข้าเขตโทษให้ปรินซ์-บัวเต็งกระโดดวอลเลย์สุดชีวิตแต่คุสชัคล้มตัวเซฟบอลชนคานอย่างน่าเสียดาย

จังหวะลุ้นสุดท้ายของเกมเป็นปรินซ์-บัวเต็งรับบอลจากอูตาก้าก่อนได้ซัดด้วยซ้ายอีกครั้งแต่คุสชัคยังรับเอาไว้ได้อีก

หมดเวลายูไนเต็ดปิดเกมสบายๆก่อนถล่มเอาชนะปอร์ทสมัธ 4-1 มีเพิ่มเป็น 31 คะแนนและไล่จี้เชลซีเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ปอร์ทสมัธ : แอสเมียร์ เบโกวิช , ทาล เบน ฮาอิม , มาร์ค วิลสัน , ยูเนส กาบูล , เฮอร์มัน ไฮดาร์สสัน , ฮัสซัน เยบด้า(จอห์น อูตาก้า น.78) , เควิน-ปรินซ์ บัวเต็ง , ไมเคิ่ล บราวน์ , เจมี่ โอ ฮาร่า , อารูน่า ดินดาน(ท็อมมี่ สมิธ น.81) , เฟรเดอริก ปิกิยอน(เอ็นวานโก้ คานู น.62)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : โทมัส คุสชัค , แกรี่ เนวิลล์ , เวส บราวน์ , เนมานย่า วิดิช , ปาทริซ เอวร่า , หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย , ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ , ไมเคิ่ล คาร์ริค(อันแดร์สัน น.76) , ไรอัน กิ๊กส์ , พอล สโคลส์ , เวย์น รูนี่ย์
















 



ขอบคุณข่าวจาก www.lentee.com 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์