ว่าที่แชมป์!ผีสบายเกือก2-0ถีบหงส์ร่วงฝูง

ว่าที่แชมป์!ผีสบายเกือก2-0ถีบหงส์ร่วงฝูง

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดบอกไม่ต้องเสียเวลายิงถึง 4 ลูกเพราะเพียงแค่สองเดียวก็เพียงพอสำหรับชัยชนะจากประตูของเวย์น รูนีย์ตั้งแต่นาทีที่ 9 ก่อนไมเคิ่ล คาร์ริค ตัวสำรองมายิงปิดท้ายซิวปอร์ทสมัธ 2-0 ทะยานนำจ่าฝูงเดียวหนีลิเวอร์พูล 3 แต้มเละเตะน้อยกว่าหนึ่งนัดจ่อแชมป์เข้าไปทุกขณะจิตแล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันพุธที่ 22 เมษายน 2552


แมนฯยูฯ 2-0 ปอร์ทสมัธ

ประตู : 1-0 รูนีย์ น.9,2-0 คาร์ริค น.82



ครึ่งแรก

หลังเขี่ยไม่นานแมนฯยูไนเต็ดแสดงความกระตือรือร้นอย่างชัดเจนแต่ปอร์ทสมัธกลับเป็นฝ่ายขึงเกมเล่นช้าจนเป็มฝ่ายครองบอลและได้จังหวะยิงก่อนแต่เบลฮัดจ์ยิงข้ามคานหลังเคราช์กระโดดพักบอลให้

ไปๆมาๆปิศาจแดงเริ่มเกาะกินพื้นที่ขึงเกมใส่ปอมปีย์ได้เรื่อยๆแต่ผ่านมา 7-8 นาทียังหาโอกาสส่องไม่ได้เลย

แต่แล้วนาทีที่ 9 อันแดร์สันโชว์เซ้นส์การจ่ายบอลเมื่ออยู่ตรงกลางสนามแล้วม้วนตัวพลิกตวัดจ่ายยาวข้ามกบาลจอห์นสันแบ็คขวาให้กิกส์เอาบอลลงด้วยการพักอกซึ่งสามารถเล่นต่อได้ทันทีก่อนปาดบอลจากรอบโทษฝั่งซ้ายให้รูนีย์วิ่งมาเข้าฮอร์ตวางเท้าแปโล่งๆแค่ 8 หลาผ่านมือเจมส์เข้าไปสบายๆ

อีก 3 นาทีต่อมาเจมส์ออกบอลเร็วหลังล้มตัวรับลูกยิงของรูนีย์เข้าซองแต่มัลลินส์เบิ้ลคืนให้เพื่อนเบาก๋องจนอันแดร์สันเร่งยิงไกลนอกเขตบอลหลุดเสาออกไป

นาที 15 เจ้าบ้านได้เสียวอีกและต้องบอกว่าน้องแอนวันนี้เล่นดีวูบวาบไม่หวงบอลเลยโดยได้บอลหน้าเขตโทษทำท่าจะกระชากเองก่อนแทงให้รูนีย์ที่ยืนในกรอบโทษแต่จังหวะยิงแข้งทีมชาติอังกฤษช้าไปนิดเลยโดนแซะจากขาอย่างน่าเสียดาย

พอได้ประตูเกมตกเป็นของยูไนเต็ดแทบจะฝั่งเดียวแต่เกมรุกยังหาโอกาสเน้นๆไม่ได้เพราะปอมปีย์เองก็ระวังตัวไม่อยากโดยลูกสองที่อาจทำให้เกมนี้จบตั้งแต่ครึ่งแรกเลยทีเดียว

นาที 30 จังหวะเตะมุมของเจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่ 2

อีกนาทีเดียวกิกส์สมควรยิงประตูได้อย่างที่สุดหลังไฮร์ดาร์สันจ่ายบอลสั้นตรงระยะ 35 หลาหน้าประตูตัวเองติดรูนีย์ที่อ่านขาดก่อนไหลออกขวาให้แข้งขนดกหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงต้องซัดด้วยขวาแถมเจมส์ออกมาเร็วเลยบล็อกเอาไว้สุดยอด

ก่อนหมดเวลา 6 นาทีจังหวะโต้กลับของเจ้าถิ่นเป็นโรนัลโด้กระชากลากเลื้อยขึ้นมาทางขวาก่อนหันรีหันขวางแล้วเห็นกิกส์วิ่งทำทางสอดเข้าเขตโทษเลยปาดเลียดมาที่จุดนัดพบแต่เจอเจมส์บีบออกมาจากเส้น 6 หลาเลยต้องยิงแบบยกๆบอลถากเสาสุดช็อก

นาทีสุดท้ายปิศาจแดงใช้โอกาสเปลืองสุดๆหลังเฟลทเชอร์วางบอลยาวให้โรนัลโด้หลุดขึ้นมาตรงกรอบโทษฝั่งขวาก่อนตอกสั้นให้รูนีย์ที่ไหลให้เทพเฟลทช์วิ่งมายิงเน้นๆตรงระยะ 18 หลาแต่แปบอลปลิ้นไม่เต็มเลยถากออกเสาไปเอง

ครึ่งหลัง

เล่นมาแค่ 6 นาทีแมนฯยูฯเปลี่ยนตัวตำแหน่งเดิมคือแบ็คขวาสองคนแล้วโดยโอเชที่แทนเนวิลล์ตั้งแต่นาที 13 เจอเสียบเล่นต่อไม่ไหวร้อนถึงราฟาเอล ดา ซิลวาตั้งลุกจากม้านั่งสำรองอีกคน

นาที 55 รูนีย์ได้บอลจากกิกส์ที่ตอกส้นจนหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแต่เจอกองหลังมารองสองคนเลยงัดบอลเบาๆลอดช่องมะละกาให้กิกส์วิ่งมาด้วยความเร็วฉกตรงระยะ 10 หลาแต่ดันไปจับแรงทำให้เจมส์ล้มตัวตระครุบไว้ทันไม่งั้นยิงเหน่งๆแน่นอน

แต่นาที 61 เจ้าถิ่นเกือบงานเข้าหลังลูกต่อบอลตรงพื้นที่แคบๆปีกขวาเป็นจอห์นสันลากทะลุหนีรูนีย์ที่ไล่ตามถึงมุมธงแต่เสียท่าเจอแตะลอดขาก่อนหลุดเลาะเส้นหลังมาแล้วจ่ายยัดมาที่จุดนัดพบ 5 หลาหมายจะให้เคราช์แต่ฟาน เดอร์ ซาร์อ่านทางขาดล้มตัวปัดจนเพื่อนมาช่วยเคลียร์ทัน

ยูไนเต็ดบุกเพลินๆยังไม่ได้ลูกสองซักทีทำให้ปอร์ทสมัธเริ่มไๆด้ใจนาที 67 ลูกวางยาวข้ามมาถึงกรอบโทษฝั่งขวาเอวร่ากระโดดกะจังหวะผิดบอลเลยไปถึงเพนแนนท์ที่เอาลงแล้วเปิดครอสสั้นให้เคราช์วอลเลย์ตามน้ำแต่บอลย้อนหลังไปนิดทำให้แป๊กออกหลังทั้งน้ำตา

มาอีกแล้วสำหรับทีมเยือนหลังลูกฟรีคิกจากปีกซ้ายของเพนแนท์เป็นเคราช์ทยานโขกตรงระยะ 8 หลาบอลย้อยไปอีกเสานึงจนน้าเอ็ดดี้ต้องล้มตัวรับสุดสองแขน

แต่จังหวะสวนกลับของฟาน เดอร์ ซาร์เปิดยาวเป็นรูนีย์ที่เบียดเอาชนะจอห์นสันตรงระยะ 35 หลาก่อนลากเข้าเขตโทษแต่ด้วยความที่ต้องเลี้ยงบอลทำให้จอห์นสันซึ่งวิ่งไล่มาเบียดจนหมูพลิ้วยิงด้วยซ้ายตรงตัวเจมส์ที่รับกระฉอกก่อนตามมาตระครุบอีกที

เกมช่วงนี้ปอมปีย์เล่นได้น่ากลัวมากโดยเฉพาะการขึ้นเกมทางริมเส้นของแบ็คอย่างจอห์นสันและไฮร์ดาร์สสันที่เล่นเอาเอวร่าและราฟาเอลวิ่งตามเป็นหมาเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามนาที 82 สโคลส์โชว์สายตาหมามุ่ยแปเลียดเกือบๆครึ่งวงกลมให้คาร์ริคตัวสำรองซึ่งวิ่งตามบอลปล่อยให้ไหลเข้าเขตโทษก่อนเงยหน้าแล้วยิงลอดแขนเจมส์เสียบหน้าต่างเข้าไปสุดสวย

ช่วงเวลาที่เหลือยูไนเต็ดประครองตัวเบียดซิว 2-0 ขึ้นนำจ่าฝูงเหนือลิเวอร์พูลและมีอีกเกมในมือขยับใกล้แชมป์เข้าไปทุกขณะแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯยูฯ :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,แกรี่ เนวิลล์(โอเช น.13,ราฟาเอล ดา ซิลวา น.52),เนมันย่า วิดิช ,จอนนี่ อีแวนสื,ปาทริซ เอวร่า,ดาร์เรน เฟลทเชอร์,พอล สโคลส์,อันแดร์สัน(คาร์ริค น.76),ไรอัน กิกส์,คริสติอาโน่ โรนัลโด้,เวย์น รูนีย์

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คูสแซ็ค,เบอร์บาตอฟ,นานี่,เตเบซ

ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์,เกล็น จอห์นสัน,โซล แคมป์เบลล์,ซิลแวง ดิสแต็ง,เฮอร์นาน ไฮร์ดาร์สสัน,ฌอย เดวิส,สตีฟ มัลลินส์,ริชาร์ด ฮิวจส์,นาเดอร์ เบลฮัดจ์,เดวิด นูเจนท์(เพนแนนท์ น.46),ปีเตอร์ เคราช์

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : เบโกวิช,พาราม็อต,อูทาก้า,เครนี่,คานู,บาซินาส




















 

ขอขอบคุณเนื้อหาดีๆจากwww.lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์