ลีก คัพ ในความทรงจำของทีมเล็กๆ

ลีก คัพ ในความทรงจำของทีมเล็กๆ

ลีก คัพ อาจมีศักดิ์ศรีเป็นถ้วยในประเทศลำดับ 2 ของวงการลูกหนังเมืองผู้ดี แต่พูดถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาแล้ว พวกเขาก็สร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่หลายครั้ง โดยเฉพาะเป็นเวทีให้สโมสรเล็กๆได้แจ้งเกิด และมีสิทธิ์ครองแชมป์กับเขาบ้าง




รายการนี้มีขึ้นเมื่อปี 1960 ลิเวอร์พูล อาจเป็นเจ้าของสถิติครองแชมป์มากที่สุด ตามด้วย แอสตัน วิลล่า แต่ทีมอย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน, นอริช ซิตี้, ลูตัน ทาวน์, อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด, สวินดอน ทาวน์ และ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส สามารถถูกจารึกชื่อในฐานะผู้ครองถ้วยรายการนี้ได้เช่นกัน หรืออย่างน้อย ร็อตเธอร์แฮม ยูไนเต็ด, โอลด์แฮม แอธเลติค กับ ทรานเมียร์ โรเวอร์ส ก็มีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศ เพราะจะให้ลุ้นแชมป์รายการอื่น หรือทำอันดับติดกลุ่มนำของลีก คงลำบาก ลีก คัพ จึงเป็นความภาคภูมิใจสำหรับแฟนบอลค่ายเล็กที่จะได้มีเวทีอวดฝีเท้ากับค่ายใหญ่ๆ แถมมีสิทธิ์คว้าโควตาไปเตะฟุตบอลสโมสรยุโรปอีกต่างหาก ส่วนเงินรางวัลสำหรับแชมป์ 100,000 ปอนด์ และ 50,000 ปอนด์ให้อันดับ 2 คงมีความสำคัญรองลงมา เพราะเดี๋ยวนี้ค่าตัวนักเตะคนเดียวยังราคาสูงกว่านี้หลายเท่า




หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้สโมสรเล็กๆมีโอกาสประสบความสำเร็จกับรายการนี้ เพราะทีมใหญ่มักไม่ให้ความสำคัญ โดยส่งนักเตะสำรอง หรือเยาวชน ลงสนามเกือบทุกรอบ ช่วงแรกสมาชิกในลีกสูงสุดไม่ร่วมแข่งชันเลยด้วยซ้ำ รายแรกซึ่งไม่ได้มาจากลีกสูงสุด แต่สามารถคว้าแชมป์สำเร็จ คือ ควีนส์พาร์ค ปี 1967 ตอนนั้นพวกเขายังอยู่ดิวิชั่น 3 อีก 2 ปีต่อมา สวินดอน ซึ่งอยู่ลีกเดียวกัน ก็ครองถ้วยใบนี้ ต่อให้สโมสรใหญ่ไม่ให้เกียรติ แต่นัดชิงฯก็เล่นในเวมบลีย์ตั้งแต่ปี 1967 และขนาดทีมอย่าง นอริช หรือ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เข้าชิงฯ ก็มีผู้ชมในสนามเรือนแสน




และนี่คือนัดชิงฯ ลีก คัพ ที่เป็นความทรงจำสำหรับสโมสรเล็กๆ...


เดอร์แลนด์ เป็นเจ้าของสถิติกัปตันทีมอายุน้อยสุดที่ได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศรายการนี้ ขณะมีอายุ 20 ปี 7 เดือน 8 วัน แต่ขอย้ายด้วยการทำหนังสือไปหาทุกสโมสรในลีกสูงสุด หลัง แมวดำ ไม่ได้เลื่อนชั้นในปี 1986


1969 สวินดอน ทาวน์ 3 - อาร์เซน่อล 1 (หลังต่อเวลา)
นัดนี้แข่งกันเมื่อ 15 มีนาคม 1969 เป็นแมตช์ชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ครั้งที่ 3 ที่ได้เล่นในเวมบลีย์ อาร์เซน่อล คือรองแชมป์ปี 1968 และอยู่ลีกสูงสุด แต่ตอนลงสนามคราวนี้ นักเตะ 8 คนป่วยเป็นไข้จนต้องเลื่อนเกมลีกมาแล้ว แต่ก็นำมาโดยตำนานอย่าง บ๊อบ วิลสัน, แฟร้งค์ แม็คลินท็อค, จอร์จ อาร์มสตรอง ส่วน สวินดอน มาจากดิวิชั่น 3 และเพิ่งได้สัมผัสเวมบลีย์หนแรก อย่างไรก็ตาม สนามอยู่ในสภาพย่ำแย่เพราะฝนตกหนัก แถมเพิ่งจัดงานแสดงม้าแห่งปีไปแค่สัปดาห์เดียว สวินดอน ขึ้นนำจาก โรเจอร์ สมาร์ท ในนาทีที่ 35 บ๊อบบี้ กูลด์ ตามตีเสมอให้ อาร์เซน่อล ก่อนหมดเวลาแค่ 4 นาที แต่ ดอน โรเจอร์ส ซัดคนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 104 กับ 109 ช่วยให้ สวินดอน พลิกชนะ 3-1 ท่ามกลางผู้ชม 98,189 คน ต่อมาพวกเขายังได้แชมป์ แองโกล-อิตาเลียน ลีก คัพ 1969, แองโกล อิตาเลียน คัพ 1970 ปัจจุบันอัฒจันทร์ด้านใต้ของสนาม ตั้งชื่อ ดอน โรเจอร์ส สแตนด์ ตามฮีโร่ผู้นี้


1986 อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 3 - ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส 0
20 เมษายน 1986 ผู้ชม 90,396 ที่เวมบลีย์ ได้เห็น อ็อกซ์ฟอร์ด คว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร แถมคนทำประตูอย่าง เทรเวอร์ เฮบเบิร์ด, เรย์ เฮาจ์ตัน กับ เจเรมี่ ชาร์ลส์ รวมถึง จอห์น อัลดริดจ์ และ เดวิด แลงแกน ซึ่งลงสนามวันนั้น คือตำนานนักเตะของทีมตรา หัวกระทิง พวกเขาเพิ่งเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แถมเข้ารอบชิงฯ ลีก คัพ ด้วยการชนะ นอริช แชมป์เก่า รวมทั้ง แอสตัน วิลล่า ก่อนถล่ม ควีนส์พาร์ค ซึ่งมีตัวทีมชาติทั้ง เทอร์รี่ เฟนวิค (อังกฤษ), จอห์น เบิร์น, ไมเคิ่ล โรบินสัน (ไอร์แลนด์), อลัน แม็คโดนัลด์ (ไอร์แลนด์เหนือ), ร็อบบี้ เจมส์ (เวลส์) แถมรอบรองฯก็เชือด ลิเวอร์พูล แชมป์ลีก ได้ด้วย ไม่นับว่า จิม สมิธ กุนซือ ควีนส์พาร์ค ก็เพิ่งย้ายมาจาก อ็อกซ์ฟอร์ด ในฤดูกาลนั้นอีกต่างหาก ภายหลังเขาก็กลับมาเป็นผู้บริหารให้ทีมตรา หัวกระทิง ล่าสุดรับตำแหน่งที่ปรึกษาของสโมสร


1988 ลูตัน ทาวน์ 3 - อาร์เซน่อล 2


ปืนใหญ่ คือแชมป์เก่า และเต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์อย่าง โทนี่ อดัมส์, อลัน สมิธ, ไมเคิ่ล โธมัส, เคนนี่ แซนซั่ม และ ไนเจล วินเตอร์เบิร์น แต่กลับต้องแพ้รอบชิงฯ ลีก คัพ ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น ลิตเติ้ลวู้ดส์ คัพ ให้กับทีมที่มี สตีฟ ฟอสเตอร์, มัล โดนากี้, แอนดี้ ดิ๊บเบิ้ล, มิค ฮาร์ฟอร์ด กับ ริคกี้ ฮิลล์ ทั้งๆนำอยู่ 2-1 ขณะเหลือเวลาการแข่งขันอีกเพียง 9 นาที จากการยิงของ มาร์ติน เฮย์ส กับ สมิธ แถมเกือบได้อีกหนึ่งสกอร์จากลูกจุดโทษ หาก วินเตอร์เบิร์น สังหารไม่พลาด นาทีที่ 82 แดนนี่ วิลสัน เป็นผู้ซัดตีเสมอให้ แฮ็ตเตอร์ส ก่อน ไบรอัน สตีน จะมายิงประตูที่ 2 ในเกมนี้ช่วงนาทีสุดท้าย ทำให้แฟนบอล 95,732 คนในสนามได้เห็นการคว้าแชมป์รายการแรกในประวัติศาสตร์ของ ลูตัน เมื่อ 24 เมษายน 1988 ตอนนั้นกุนซือ เรย์ ฮาร์ฟอร์ด เพิ่งเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วย ขึ้นมาคุมทัพไม่ถึงปีด้วยซ้ำ และพวกเขายังสามารถเข้าชิงฯ ลีก คัพ อีกหนในปี 1989 แต่แพ้ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 1-3




เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 1 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0


แทบไม่มีใครจำได้แล้วว่า รอน แอ็ตกินสัน คือกุนซือ แมนฯยูไนเต็ด คนก่อนหน้า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เพราะฝ่ายหลังสร้างทีมขึ้นใหม่จนกลายเป็นตำนาน แต่ เฟอร์กี้ ก็คงไม่ลืมเช่นกันว่า 21 เมษายน 1991 เขาเคยพ่าย บิ๊กรอน ซึ่งไปคุม เชฟฯ เว้นส์เดย์ ในรอบชิงฯ รัมเบโลว์ส คัพ 0-1 ด้วยการยิงของ จอห์น เชอริแดน ในนาทีที่ 37 ตอนนั้น นกเค้าแมว ยังอยู่ดิวิชั่น 2 จึงมีนักเตะโนเนมหลายคน เช่น ฟิล คิง, พอล วิลเลี่ยมส์ แต่ก็มี จอห์น ฮาร์คส์ ที่เพิ่งมาอังกฤษฤดูกาลแรก, โรลันด์ นิลส์สัน, เทรเวอร์ ฟรานซิส ในวัย 37 ปี, ไนเจล เวิร์ทธิงตัน และ คริส เทอร์เนอร์ อดีตนายทวาร ปีศาจแดง ที่ เฟอร์กูสัน ไม่เอา แต่กลับเซฟให้ เชฟฯ เว้นส์เดย์ คว้าแชมป์ ลีก คัพ สมัยแรก ด้วยการชนะทีมรวมดาราทั้ง มาร์ค ฮิวจ์ส, ไบรอัน แม็คแคลร์, พอล อินซ์, ลี ชาร์ป, ไบรอัน ร็อบสัน, สตีฟ บรูซ และ แกรี่ พัลลิสเตอร์ ผู้ชม 77,612 คน ไม่อยากเชื่อเลยว่ามีเกมพลิกล็อกแบบนี้ในสนามเวมบลีย์



เลสเตอร์ ซิตี้ 2 - ทรานเมียร์ โรเวอร์ส 1
น่าจะเป็นแมตช์ชิงฯ ลีก คัพ ที่คนไม่จำมากสุดในรอบ 2 ทศวรรษ แต่ตอนนั้น เลสเตอร์ ซึ่งอยู่ลีกสูงสุด เข้าชิงฯหนที่ 3 ในรอบ 4 ปี เจอกับ ทรานเมียร์ ทีมกลางตารางดิวิชั่น 1 เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2000 เป็นการสั่งลาเวมบลีย์เดิม โดยชื่อรายการเปลี่ยนมาใช้ เวิร์ทธิงตัน คัพ และ แม็ตต์ เอลเลียตต์ ทำคนเดียว 2 ประตูให้ทีม สุนัขจิ้งจอก สมัยยังมี มาร์ติน โอนีล คุมทัพที่นำโดย เอมิล เฮสกี, นีล เลนน่อน, ร็อบบี้ ซาเวจ, เจอร์รี่ แท็กการ์ท, ทิม ฟลาวเวอร์ส กับ มุซซี่ อิซเซ็ต ขณะ ทรานเมียร์ ของกุนซือ จอห์น อัลดริดจ์ ประกอบด้วยนักเตะอย่าง นิค เฮนรี่, สกอตต์ เทย์เลอร์, คลิ้นท์ ฮิลล์, โจ เมอร์ฟี่, อลัน มาห์น และ เดวิด เคลลี่ ผู้ยิงประตูเดียวในเกมนั้น เลสเตอร์ อาจชนะคู่แข่งที่เหลือ 10 คน แต่หลังจากนั้นทีมก็แตก โอนีล กับ เลนน่อน โยกสู่ กลาสโกว์ เซลติก ส่วน เฮสกี ไป ลิเวอร์พูล นักเตะที่เข้ามาใหม่อย่าง สแตน คอลลีมอร์, ดาร์เรน อีดี้ กับ เทรเวอร์ เบนจามิน ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์