ลิ่วชิงรอบ 9 ปี! มาร์กซิยาลซัดทดเจ็บพาผีดับทอฟฟี่ 2-1

ลิ่วชิงรอบ 9 ปี! มาร์กซิยาลซัดทดเจ็บพาผีดับทอฟฟี่ 2-1

ดาวยิงเฟร้นช์แมน กลายเป็นฮีโร่ของปีศาจแดง หลังพังประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพาทีมผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007

ศึกเอฟเอคัพ 2016 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 11 จากพรีเมียร์ลีก อดีตแชมป์ 5 สมัย กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 5 ของพรีเมียร์ลีก อดีตแชมป์ 11 สมัย

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือทอฟฟี่สีน้ำเงิน มีปัญหาผู้เล่นในแนวรับบาดเจ็บกันหลายราย ทำให้ต้องโยกเอากองกลางอย่าง โมฮาเหม็ด เบซิช มายืนเป็นแบ็คขวา ส่วนแนวรุกฝากความหวังไว้ที่ดาวซัลโวประจำทีมชุดนี้อย่าง โรเมลู ลูกากู

ด้านปีศาจแดงของ หลุยส์ ฟาน กัล เลือกใช้สามนักเตะที่ได้พักในเกมลีกเมื่อกลางสัปดาห์ซึ่งเปิดบ้านชนะคริสตัล พาเลซ 2-0 กลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง ได้แก่ ทิโมธี โฟซู เมนซาห์, มาร์กอส โรโฆ และ ไมเคิล คาร์ริค ขณะที่ เวย์น รูนีย์ กับ มารูยาน เฟลไลนี จะได้ดวลกับอดีตต้นสังกัดของตัวเองด้วย


ลิ่วชิงรอบ 9 ปี! มาร์กซิยาลซัดทดเจ็บพาผีดับทอฟฟี่ 2-1

เริ่มเกมได้เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เป็นเอฟเวอร์ตันที่พลาดโอกาสทองในการขึ้นนำอย่างรวดเร็วแบบน่าเสียดาย จากจังหวะที่ โจเอล โรเบลส เปิดบอลโด่งมาจากหน้าปากประตูตัวเองให้ ลูกากู ใช้ความแข็งแกร่งเบียดเอาชนะบรรดาแนวรับของแมนฯยูฯ ก่อนจะลากหลบ ดาบิด เด เฮอา แล้วยิงมุมแคบด้วยซ้าย แต่โดน รูนีย์ วิ่งมาโหม่งทิ้งจากเส้นประตูได้หวุดหวิด


หลังรอดพ้นการเสียประตูแบบฉิวเฉียด ปีศาจแดงก็เริ่มตั้งเกมได้ และเป็นฝ่ายบุกเข้าใส่ และมีโอกาสทักทายบ้าง ในนาทีที่ 12 จากจังหวะที่ รูนีย์ บรรจงหยอดบอลเข้าเขตโทษให้ เจสเซ ลินการ์ด วิ่งสอดมาแปด้วยขวา แต่ยังโดน โจเอล ออกมาปิดมุมดี เซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

 

ถัดมานาทีที่ 21 อดีตแชมป์ 11 สมัย มีโอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ ลินการ์ด ไหลทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ อ็องโตนี มาร์กซิยาล ลากหลุดเดี่ยวไปซัดเต็มข้อด้วยซ้าย แต่บอลโด่งข้ามคานออกไปแบบน่าผิดหวัง

 

จนกระทั่งนาทีที่ 34 แมนฯยูฯก็สามารถพังประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล กระชากไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายก่อนจะตบเข้ากลางให้ เฟลไลนี วิ่งโฉบมาตวัดยิงด้วยซ้ายยัดเสาแรกเข้าไป ส่งให้ปีศาจแดงออกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้


ลิ่วชิงรอบ 9 ปี! มาร์กซิยาลซัดทดเจ็บพาผีดับทอฟฟี่ 2-1

เข้าสู่ครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน พยายามทำเกมรุกเข้าใส่เพื่อหวังตีเสมอให้ได้โดนเร็ว และก็มาได้จุดโทษ ในนาทีที่ 57 จากจังหวะที่ โฟซู เมนซาห์ ไปเสียบสกัดใส่ รอสส์ บาร์คลีย์ จนล้มลงไป แต่ ลูกากู กลับสังหารไปโดน เด เฮอา พุ่งไปทางขวามือของตัวเอง ปัดทิ้งออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม


แม้ว่าจะพลาดโอกาสทองไปหลายครั้ง แต่เอฟเวอร์ตันก็ยังไม่ท้อใจ ตั้งตาตั้งตาบุกใส่อย่างหนัก จนกระทั่งนาทีที่ 75 ก็มาตีเสมอจนได้แบบโชคช่วยเล็กน้อย จากจังหวะที่ เคราร์ด เดวโลเฟว ตัวสำรองที่เพิ่งมาแทน อารอน เลนนอน ก่อนหน้านั้นเพียง 5 นาที เปิดบอลจากกราบขวาไปโดน คริส สมอลลิง สกัดบอลผิดเหลี่ยมปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป ช่วยให้ทอฟฟี่สีน้ำเงินไล่เจ๊าเป็น 1-1

 

เกมทำท่าว่าจะต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีอยู่แล้ว แต่ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 ปีศาจแดงกลับสามารถพังประตูชัยได้อย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ มาร์กซิยาล ทำชิ่งกับตัวสำรองอย่าง อันเดร์ เอร์เรรา ก่อนจะลากไปยิงเรียดด้วยขวาเข้าไปตุงตาข่าย ทำให้จบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ชนะไป 2-1 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 รอพบผู้ชนะระหว่างคริสตัล พาเลซกับวัตฟอร์ดต่อไป

ขอบคุณข่าวจาก>> goal.com/th


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์