รูนี่ย์, โอเว่น และ คาร์ลิ่ง คัพ โดย เปาผี



งานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จบลงอย่างชื่นมื่นเลยนะครับเมื่อสกอร์บอร์ดใน โรงละครแห่งความฝัน อ่านได้ว่า : แมนฯ ยูไนเต็ด 3 เวสต์แฮม 0

 



แต่ผมว่า บรรทัดเล็กถัดลงมา น่าจะสร้างความแปลบปลื้มใจให้ แฟนผีได้มากกว่า
 


...เวย์น รูนี่ย์ น.38, เวย์น รูนี่ย์ น.55, ไมเคิ่ล โอเว่น น.80...
 


ว่ากันที่คนทำสองประตูแรกก่อนนะครับ เพราะชั่วโมงนี้ ไม่มีใครฮอตฉ่าเท่ากับหนุ่มอวบชาวสเก๊าเซอร์วัย 24 คนนี้อีกแล้ว
 


19 ประตูจาก 19 นัดหลังสุด... อู๊ด อู๊ด-เอ๊ย-อ๊อด อ๊อด
 


ถ้าหากเป็นเมนูอาหารก็คงเป็น หมูกะทะร้อน แน่เทียว ฮ่า ฮ่า
 


สองประตูที่ทำได้ในเกมทุบค้อน ยังผลให้จำนวนประตูในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้ของ รูนี่ย์ เพิ่มเป็น 23 เม็ดเข้าไปแล้วนะครับ ซึ่งมากกว่าจำนวนครั้งของการสอยตาข่ายที่เคยทำให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ผงาดคว้าตำแหน่งดาวซัลโวฤดูกาลก่อน และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ในปี 2007
 


ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประตูรวมของ รูนี่ย์ หลังผ่านไป 27 เกม (27 ประตู) นั้น มีเพียงแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในปี 2008 และ เควิน ฟิลลิปส์ ในปี 2000 เท่านั้นเองนะครับที่แหล่มกว่า
 


ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบผลงานของ รูน กับดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกในรอบทศวรรตที่ผ่านมานะครับ และสถิติของพวกเขาหลังผ่านไป 27 เกม


































































ฤดูกาล


ดาวซัลโว


ประตูรวม


ประตูหลังผ่าน
ไป 27 เกม

2009-2010 เวย์น รูนี่ย์ 23* 23
2008-2009 นิโกล่าส์ อเนลก้า 19 15
2007-2008 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 31 25
2006-2007 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 20 11
2005-2006 เธียร์รี่ อองรี 27 22
2004-2005 เธียร์รี่ อองรี 25 19
2003-2004 ธียร์รี่ อองรี 30 21
2002-2003 รุด ฟาน นิสเตลรอย 25 15
2001-2002 เธียร์รี่ อองรี 24 20
2000-2001 จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์ 23 16
1999-2000 เควิน ฟิลลิปส์ 30 25

* ฤดูกาลยังไม่จบ

 


จะเห็นได้นะครับว่า ต่อมา ทั้ง โรนัลโด้ กับ ฟิลลิปส์ ต่างสามารถยิงถึงหลัก 30 ลูกได้ชิวๆ เมื่อปิดฉากฤดูกาล
 


และจากการที่เหลือเกมพรีเมียร์ลีกให้ ยูไนเต็ด โม่อีก 10 นัด กรุณาอย่าได้ไปเดิมพันกับใครเด็ดขาดว่า รูนี่ย์ จะทำไม่ได้บ้าง
 


ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะการพนันมันเป็นสิ่งไม่ดีนั่นเองครับ ฮ่า ฮ่า
 


ผมยังเหลืออีกคนที่ต้องพูดถึงนั่นคือเจ้าของเสื้อตรา ปีศาจแดงหมายเลขเจ็ดคนปัจจุบันอย่าง โอเว่น
 


ประตูที่ เบบี้ โกล์ ทำได้ในนัดล่าสุด ถือว่ามาถูกเวลามากเลยนะครับ เพราะมันเปิดประตูแห่งโอกาสในการโชว์ฝีเท้าที่ เวมบลีย์ สุดสัปดาห์นี้ของเจ้าตัวให้อ้าซ่าส์กว่าเดิมอีกไม่นิด
 


โอเว่น กับ คาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงชนะเลิศครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อไหร่จำได้ไหมครับ?
 


มันเกิดขึ้นในปี 2003 สมัยที่ยังเป็น เวิร์ทธิงตัน คัพ และหนุ่มน้อย โอเว่น ในวัยกำดัดกระทุ้งประตูย้ำชัย 2-0 ในนาทีที่ 86 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เหยียบแมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นไปคว้าแชมป์ที่ มิลเลนเนี่ยม สเตเดี้ยม ซึ่งนั่นน่าจะเป็นแค่ความสำเร็จเพียงไม่กี่ครั้งในชีวิตของเขา
 


กระพริบตาหนึ่งจึ๊กสู่ยุคปัจจุบันเมื่อจำเนียรกาลผ่านไปเจ็ดปีเต็ม โอเว่น กำลังหวังที่จะได้ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศถ้วยใบเดิมอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ เป็นภายใต้ยูนิฟอร์มสีแดงแห่ง ยูไนเต็ด
 


คาร์ลิ่ง คัพ ถือเป็นเวทีที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยให้โอกาสกับ โอเว่น มาแล้วนะครับ และอดีตดาวยิง ลิเวอร์พูล ก็สร้างความฮือฮาด้วยประตูแบบโซโล่เดี่ยวในเกมรอบสี่กับ บาร์นสลี่ย์
 


กระนั้นก็ดี นับตั้งแต่ย้ายเข้ามา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบสั่นสะเทือนลุ่มน้ำเมอร์ซี่ย์แล้ว ต้องยอมรับว่า เบบี้ โกล์ เปรี้ยงปร้างเป็นพักๆ
 


แม้จะยิงหุบปากเพื่อนบ้านอย่าง ซิตี้ รวมถึงระเบิดแฮตทริกใส่ โวล์ฟสบวร์ก แต่ โอเว่น ก็ยังไม่สามารถเบียดขึ้นไปเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ
 


ยิ่งพักหลัง เฟอร์กี้ นิยมในระบบการเล่น 4-3-3 ยิ่งทำให้โอกาสของ โอเว่น มีอย่างจำกัดจำเขี่ย
 


แต่ผมเชื่อว่า การลุกขึ้นมาจากม้านั่งสำรองแล้วกระทุ้ง เวสต์แฮม จะทำให้ โอเว่น ถูก เฟอร์กี้ หันมาพิจารณาจริงจังอีกครั้ง
 


เช่นเดียวกับ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษที่ล่าสุดออกโรงคอนเฟิร์มหนักแน่นว่า ยังไม่ปิดโอกาสในการไปลุย แอฟริกาใต้ ของ โอเว่น แน่นอน
 


ชีวิตอยู่ด้วยความหวังครับ และชะตาคนเราก็สามารถพลิกได้ในชั่วพริบตา
 


โอเว่น จำเป็นที่จะต้องมั่นใจเพื่อทำให้สถานการณ์เข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง
 


ไม่ต้องดูที่ไหนไกลหรอกครับ อย่าง เท็ดดี้ เชอริงแฮม ก็เคยพลิกชะตาตัวเองในช่วงเวลาราวหนึ่งสัปดาห์เมื่อปี 1999 ที่เปลี่ยนลงไปยิงประตูใน เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ และ แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศจนช่วยให้ ยูไนเต็ด เขียนประวัติศาสตร์ด้วยการคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์
 


การได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศกับ แอสตัน วิลล่า วันอาทิตย์นี้ อาจเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกครั้งในชีวิตนักฟุตบอลที่ชื่อ โอเว่น ก็เป็นได้นะครับ
 


MO7 จะระบายสีให้ความฝันอันซีดจางอย่างการไปลุย เวิลด์ คัพ 2010 สำเร็จหรือไม่ แฟนผี อย่าลืมเอาใจช่วยด้วย
 


หรือ แฟนหงส์ จะร่วมเชียร์เด็กเก่าด้วยก็ไม่ว่ากันนะครับ :)


 
เปาผี



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์