ป๋าโวรูนกลับมายิงแน่รับเบิร์บน่าซัดมากกว่านี้
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ เวย์น รูนี่ย์ จะคลำหาฟอร์มการถล่มประตูกลับมาได้แน่ แม้ไร้ชื่อจบสกอร์ในศึกพรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านไล่อัด เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 5-0 บ่นอุบ สุดเสียดาย ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ น่าจะยิงได้มากกว่าแฮตทริกในแมตช์ดังกล่าว
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มั่นใจ เวย์น รูนี่ย์ จะกลับมาคืนฟอร์มยิงประตูอย่างถล่มทลายได้แน่ แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่สามารถมีชื่อเป็นผู้ทำประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านไล่ถล่ม เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ตาม
เมื่อถูกถามถึงฟอร์มการยิงประตูของ รูนี่ย์ ว่าจะดีขึ้นได้หรือไม่นั้น เฟอร์กี้ กล่าวว่า เราก็หวังเช่นนั้น เขาคู่ควรกับสิ่งนั้น เขาทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ และเล่นฟุตบอลได้อย่างยอดเยี่ยม ประตูที่ 3 มันน่าตื่นเต้นมากๆ ซึ่งเป็นการสลับตำแหน่งกันระหว่าง เบอร์บา (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ) และ รูนี่ย์ มันเป็นครึ่งแรกที่ดี และมันก็เป็นการปิดเกมไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ นายใหญ่ชาวสกอตต์ ยังยกย่องฟอร์มการถล่มประตูของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ซึ่งซัดแฮตทริกยิงคนเดียว 3 ตุงในเกมดังกล่าว พร้อมกับทำสถิติยิงประตูในเกมลีกไปแล้วถึง 17 ลูกในฤดูกาลนี้ แม้จะรู้สึกว่า ดาวยิงชาวบัลแกเรีย น่าจะยิงได้มากกว่านี้อีกในนัดล่าสุดก็ตาม
สุดยอดไปเลย เขาน่าจะยิงประตูได้มากกว่านี้ และเราก็เสียเวลาไปกับการยิงทิ้งยิงขว้าง แต่คุณไม่อาจไปโทษฟอร์มการเล่นแบบนี้ได้หรอกนะ ผมคิดว่า มันช่วยคุณได้มากเมื่อคุณยิงประตูได้เร็ว เมื่อเรายิงได้ พวกเขาก็เปิดเกมแลก และผมคิดว่า เราชิงจังหวะจากจุดนั้น มันเป็นผลการแข่งขันที่ดีในครึ่งแรก ผมสามารถถอด ปาทริซ เอวร่า ออกจากสนาม เพื่อให้เขาได้พัก และส่ง ฟาบิโอ ลงไปแทนได้ และจากนั้นผมก็ถอด ไรอัน กิ๊กส์ ออกมา เพราะเรายังมีเกมใหญ่ในวันอังคารนี้ (ออกไปเยือน แบล็คพูล ศึกพรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง) บิ๊กบอส เร้ด เดวิลส์ ปิดท้าย
################################################################################ 
เซอร์รับวิดิชคือหัวใจในการคว้าแชมป์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือคนเก่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับ เนมานย่า วิดิช ปราการหลังชาวเซิร์บ คือกำลังหลักของพลพรรค ผีแดง ในซีซั่นนี้ กับเป้าหมายในการคว้าแชมป์ให้ได้ทุกรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมลีก ที่รั้งเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ บอกตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย พร้อมทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับ
เฟอร์กี้ กล่าวถึง วิดิช ที่เตรียมฉลองครบรอบ 5 ปีกับการค้าแข้งในเสื้อ ผีแดง ในเดือนนี้ หลังย้ายมาจาก สปาร์ตัก มอสโก มาด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ราว 336 ล้านบาท) ว่า เขา (วิดิช) และ ปาทริซ (เอวร่า) พบกับความยากลำบากในการปรับตัวช่วง 6 เดือนแรก และมันก็ใช้เวลาสักพักสำหรับพวกเขาที่จะปรับตัว นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักเตะบางรายที่ย้ายมาเล่นในอังกฤษ พวกเขาพบว่ามันยากลำบาก และไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย
แต่ เนมานย่า เป็นนักสู้ เขาเป็นกองหลังโดยธรรมชาติ และเขาก็รักที่จะป้องกัน มีกองหลังเพียงไม่กี่คนที่เหมือนกับเขาในรอบหลายปีที่ผ่านมา เมื่อใดก็ตามที่ลูกบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ คุณน่าจะรู้ว่าคนที่จ้องจะเตะมันทิ้งออกไปก็คือ เนมานย่า อย่างที่เขาทำได้เมื่อวันอาทิตย์ก่อน
เขาเป็นคนที่ทรงพลัง และมีทุกอย่างที่ดีเกี่ยวกับตัวเขา เขาเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับเราที่เซ็นคว้าตัวเขามา ผมจำไม่ได้แล้วว่าเมื่อใดเราได้ซื้อตัวเขามาด้วยค่าตัวเท่าไหร่ แต่ไม่ว่ามันจะเป็นราคาเท่าใด ต้องถือว่าเขาถูกมาก นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กล่าวในที่สุด
################################################################################ 
มาเคด้าหวังกลับผีหลังหมดสัญญาลาซามพ์
เฟเดริโก้ มาเคด้า กองหน้าตัวยืม ซามพ์โดเรีย หวังกลับไปล่าตาข่ายให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนเดิม หลังหมดสัญญายืมตัวกับ ลา ซามพ์ รับหลงรักฟุตบอลลีกเมืองผู้ดี และ ปีศาจแดง ก็เป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
มาเค ด้า วัย 19 ปี ตกเป็นตัวเลือกอันดับ 4 ในทีม ปีศาจแดง ต่อจาก เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ นอกจากนี้ยังมี ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ คอยขวางทางอยู่อีกด้วย ทำให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องปล่อยให้ไปหาประสบการณ์กับทีมอื่นแบบยืมตัว
มาเคด้า เผยผ่าน กัซเซตต้า เดลโล่ สปอร์ต หนังสือพิมพ์กีฬารายวันเล่มดังแดนมะกะโรนี เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ผมพูดเสมอว่า เป้าหมายของผมคือ กลับไปเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมรักฟุตบอลอังกฤษ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นทีมที่ดีที่สุดของที่นั่น
################################################################################ 
เซอร์บอกบรูซอย่าคิดซื้อเวลเบ็คให้เสียเวลา
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝากข่าวไปถึง สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ ว่า เขาไม่มีความคิดจะปล่อย แดนนี่ เวลเบ็ค ให้ย้ายทีมถาวร หลังคาดว่าจะมีการยื่นข้อเสนอมาแน่ๆ เพราะนักเตะย้ายไปเล่นดีที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก พูดดักคอ สตีฟ บรูซ นายใหญ่ทีม แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ว่า ไม่ต้องคิดหาทางซื้อ แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าดาวรุ่งของทีม ปีศาจแดง ไปเล่นที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ อย่างถาวร ให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่คิดจะปล่อยตัวออกไปจากทีม หลังจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ตลอดการเล่นแบบยืมตัวในฤดูกาลนี้
เฟอร์กี้ ส่ง เวลเบ็ค วัย 20 ปี ไปเล่นที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ด้วยสัญญายืมตัวจนจบซีซั่น เพราะอยู่ไปก็ไม่ได้เล่น และ เวลเบ็ค ก็ทำได้เยี่ยม จน สตีฟ บรูซ ไว้วางใจส่งเป็นตัวจริงแทบทุกนัด เลยมีข่าวว่า บางที บรูซ อาจซื้อ เวลเบ็ค มาเล่นแบบถาวร อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะสมหวังคงยาก เพราะหากมองว่า ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งเป็นกองหน้าตัวเลือกที่ 4 ตอนนี้ อนาคตไม่แน่นอน เวลเบ็ค ก็อาจมีแววไปเสียบตำแหน่งดังกล่าวแทนในซีซั่นหน้า
กุนซือชาวสกอตต์ พูดแบบทีเล่นทีจริงถึงโอกาสที่ลูกน้องเก่าจะซื้อนักเตะของตวเองไปเล่นด้วย ว่า สตีฟ มีโอกาสได้ผมไปมากกว่านะ โชคไม่ดีที่ แดนนี่ ต้องพักราวๆ 6 อาทิตย์ เพราะเขากำลังเล่นดี เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม และเขาจะเพิ่งอายุ 20 ปีเท่านั้น เขายังมีเส้นทางยาวไกลรออยู่ แต่สัญญาณต่างๆ ของเขาตอนนี้มันออกมาในทางบวก
################################################################################ 
ผีส่อโละคาร์ริคช่วงซัมเมอร์
ไมเคิ่ล คาร์ริค มิดฟิลด์ชาวเมืองผู้ดีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่อแววได้ย้ายสังกัดใหม่ในช่วงซัมเมอร์เสียแล้ว ภายหลังฝ่ายบริหารของ เร้ด เดวิลส์ ไม่มีทีท่าจะต่อสัญญาใหม่ให้ แทนสัญญาฉบับปัจจุบันที่เหลืออีกเพียงแค่ 18 เดือนเท่านั้น เชื่อน่าจะมาจากฟอร์มการเล่นที่ไม่เข้าตาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาร่วมทีมเมื่อปี 2006
ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางทีมชาติอังกฤษของ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ตกเป็นข่าวว่าน่าจะได้รับความยินยอมให้ย้ายออกจากถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังเจ้าตัวมีสัญญาเหลืออีกแค่ 18 เดือนเท่านั้น และต้นสังกัดก็ยังไม่มีแผนจะยื่นข้อเสนอใหม่ให้ในเวลานี้อีกด้วย
คาร์ริค วัย 29 ปี มีฟอร์มการเล่นที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก และการพัฒนาฝีเท้าขึ้นเท่านั้นที่จะทำให้ฝ่ายบริหารของ เร้ด เดวิลส์ เปลี่ยนใจและมอบข้อเสนอให้กับเขา ขณะเดียวกันดูเหมือนว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือชาวสกอตแลนด์ กำลังเล็งที่จะใช้งาน ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ กับ อันแดร์สัน เป็นคู่มิดฟิลด์ตัวกลางหลักให้กับทีมในอนาคตด้วย
ดูเหมือนว่าอนาคตค้าแข้งของ คาร์ริค ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เริ่มสั้นลงมาเรื่อยๆ หลังจากทำผลงานได้ย่ำแย่ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่พ่าย บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากสเปน 0-2 เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2009 แม้ในฤดูกาลนี้ ยูไนเต็ด จะยังไม่แพ้ต่อทีมใดเลย ทว่าฟอร์มของเขาก็ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนี้ คาร์ริค ลงเล่นเป็นตัวจริงให้ ยูไนเต็ด ไป 19 จาก 32 เกมในฤดูกาลนี้ และมีความตั้งใจจะพิสูจน์ตัวเองว่าเหมาะสมกับการได้รับสัญญาใหม่ แต่ตอนนี้ดูท่าว่าจะสายเกินไปเสียแล้ว
################################################################################
บทความ 
วิถีลูกหนังที่ยังไร้ตอนจบของ ไรอัน กิ๊กส์
เป็นที่แน่นอนแล้วนะครับ สำหรับ ไรอัน กิ๊กส์ ปีกพ่อมดชาวเวลส์ จะยังคงสานต่อตำนานหมายเลข 11 ของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปอีกเป็นเวลา(อย่างน้อย) 1 ฤดกาล เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจจรดปากกาต่อสัญญากับต้นสังกัดแรกและน่าจะเป็นต้นสังกัด สุดท้ายในอาชีพค้าแข้งของเขาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
สำหรับผู้ที่เลื่อมใสในลัทธิ ปีศาจแดง คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าดาวเตะวัย 37 ปี ผู้นี้ คือนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของสโมสร จากสถิติคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 11 สมัย, เอฟเอ คัพ และ คาร์ลิ่ง คัพ ถ้วยละ 4 สมัย, ศึก คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 8 สัมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย รวมถึง ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ, อินเตอร์ คอนติเนนตัล คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีกอย่างละสมัยด้วยกัน และค่อนข้างมั่นใจว่าสถิติคงจะไม่หยุดอยู่เท่านี้แน่
แต่กว่าที่แข้งเจ้าของฉายา กิ๊กซี่ หรือที่แฟนบอลชาวไทยมักจะเรียกกันแบบน่ารักๆ ว่า น้าขนดก จะสานตำนานแข้งจนกลายเป็นเจ้าของสถิติลงสนามให้กับ เร้ด เดวิลส์ สูงสุดตลอดกาล ทำลายสถิติ 758 เกม ของ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น เจ้าตัวต้องผ่านพ้นกับอุปสรรคหลายๆ อย่างในชีวิต และไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งเจ้าตัวเกือบจะได้ไปเป็นดาวเตะของทีมอริอย่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วย
ไรอัน โจเซฟ กิ๊กส์ หรือ ไรอัน วิลสัน (ชื่อเดิม) ถือกำเนิดขึ้นในย่านชานเมืองของกรุง คาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ เป็นลูกชายคนโตของ ลินน์ กิ๊กส์ และ แดนนี่ วิลสัน ซึ่งเป็นนักรักบี้อาชีพสังกัดสโมสร คาร์ดิฟฟ์ อาร์เอฟซี ก่อนที่ครอบครัวจะได้ย้ายรกรากมาอาศัยอยู่ที่เมือง แมนเชสเตอร์ เนื่องจากคุณพ่อย้ายสังกัดมาอยู่กับทีม สวินตัน อาร์แอลเอฟซี ในลีกลูกหนำเลี้ยบของอังกฤษ
ชีวิตช่วง 2 ปีแรกในเมือง แมนเชสเตอร์ ของ กิ๊กส์ ต้องเผชิญหน้ากับการถูกเหยียดผิวจากเพื่อนร่วมชั้นชาวอังกฤษ เนื่องจากพ่อของเขาเป็นคนผิวสี ทำให้เจ้าตัวไม่อยากจะใช้ชีวิตในเมืองผู้ดีอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม แมวมองของทีม เรือใบสีฟ้า นามว่า เดนนิส สคอฟิลด์ เป็นผู้ที่หยิบยื่นโอกาสในการเล่นฟุตบอลที่เป็นกิจจะลักษณะให้กับเขาเป็นคน แรก หลังจากที่ต้องเตะบอลตามถนนอยู่กับเพื่อนฝูงมาระยะหนึ่ง โดยคว้าตัวไปร่วมทีมนักเรียน ซัลฟอร์ด ในที่สุด พร้อมกับได้เงินเบี้ยเลี้ยงสัปดาห์ละ 29 ปอนด์
ในระหว่างที่เป็นนักฟุตบอลของทีมโรงเรียน กิ๊กส์ เคยถูกแมวมองของทีม หงส์แดง นามว่า รอน ยีทส์ นำสรรพคุณฝีเท้าไปเสนอให้กับ เคนนี่ ดัลกลิช นายใหญ่แห่งถิ่น แอนฟิลด์ ขณะนั้นดึงตัวมาร่วมทัพ แต่ชะตากรรมก็ลิขิตให้เจ้าตัวไม่ได้รับการแยแสให้ไปร่วมงานกับยอดทีมแห่ง เกาะอังกฤษในยุคนั้น ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่โชคดีอย่างยิ่ง! ฮา
ในเวลาต่อมา พรหมลิขิตก็ได้นำพา กิ๊กส์ ซึ่งยังเป็นแข้งในสังกัดของ ซัลฟอร์ด บอยส์ ให้มาระเบิดฟอร์มซัดแฮททริกใส่ทีมลูกกรอกปีศาจรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ต่อหน้าต่อตา อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ เฟอร์กี้ ต้องเรียกนักเตะวัย 14 ปี ในขณะนั้น มาทดสอบฝีเท้าในช่วงคริสต์มาสของปี 1986 จนกระทั่งได้เกิดดีลประวัติศาสตร์มูลค่า 350,000 ปอนด์ ในการคว้าตัวแข้งระดับเยาวชนมาเข้าสู่สถานบันปั้นลูกกรอกอสูรแดงในที่สุด ขณะที่เจ้าตัวก็ได้ค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้นมาเป็น 120 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ซึ่งก็นับว่าเป็นจำนวนเงินที่มากพอสมควร
ปัจจุบัน กิ๊กส์ ซึ่งรับค่าเหนื่อยในสัญญาปัจจุบันกับต้นสังกัดในระดับเฉียดๆ 100,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ ได้ให้แง่คิดที่น่าสนใจไว้กับนักเตะรุ่นหลัง ที่ส่วนใหญ่จะโด่งดังเป็นซุปเปอร์สตาร์กันตั้งแต่อายุน้อยๆ และใช้เงินเป็นเบื้ยเพื่อตอบสนองกับความต้องการของตัวเองจนบางครั้งมันอาจ เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้บรรดาผู้เล่นเหล่านั้นไม่สามารถยืนระยะความเป็นสุดยอด นักเตะได้นานเท่าที่ควรจะเป็น
กิ๊กส์ กล่าวว่า ผมเริ่มต้นจากการได้รับค่าเหนื่อย 29 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ และเพิ่มเป็น 120 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ หลังจากได้มาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยวัยเพียง 16 ปี นับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลสำหรับผมเมื่อเทียบกับเพื่อนของผมในขณะนั้นที่ยัง ต้องขอเงินพ่อแม่ไปเรียนในระดับวิทยาลัย ส่วนหน้าที่ของผมในการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับ ยูไนเต็ด ผมมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยตีเส้นสนาม รวมถึงขัดรองเท้าสตั๊ดให้กับนักเตะอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน และ สตีฟ บรูซ ซึ่งเป็นนักเตะสตาร์ดังของทีมชุดใหญ่ในขณะนั้น ทำให้ผมไม่มีเวลาที่จะได้ไปสัมผัสกับแสงสี หรือได้ใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ชีวิตประจำวันของผมมีแต่เรื่องของฟุตบอลวนเวียนอยู่ในหัว และมันก็เป็นเช่นนั้นจนถึงทุกวันนี้ แตกต่างกับนักเตะรุ่นใหม่ๆ ที่ได้รับเงินค่าเหนื่อยสูงลิบตั้งแต่อายุยังน้อยๆ พวกเขาใช้จ่ายมันไปกับการสะสมรถหรูๆ ตัดชุดสูทแพงระยับ และเที่ยวผับบาร์จนสมาธิของพวกเขาไม่ได้อยู่กับฟุตบอลอีกต่อไป ใช่ ตัวผมเองก็ไม่ได้ตัดขาดจากเรื่องเหล่านี้ ผมซื้อรถในฝันของบ้าง เช่น บีเอ็มดับเบิ้ลยู ซีรี่ส์ 3 เป็นต้น แต่ปัจจุบันสิ่งที่ผมใช้จ่ายไปกับมันมากที่สุดคือบ้านและค่าเรียนของลูก ซึ่งผมสำนึกอยู่เสมอว่าสิ่งทั้งหมดที่ผมมีอยู่ในทุกวันนี้มันมีที่มาจากขา 2 ข้างของผมที่เตะลูกฟุตบอลตลอดช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา
ดังนั้น แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าด้วยทัศนคติที่มีต่ออาชีพการค้าแข้งของดาวเตะนาม ไรอัน กิ๊กส์ เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นตำนานแข้งได้จนถึงทุกวันนี้ และยังคงไม่มีแนวโน้มว่าตอนจบของตำนานจะคืบคลานมาถึงในอนาคตอันใกล้นี้
เกรียนผี
I Think There's Nothing That Can Get Past Us
ฉันคิดว่า ไม่มีอะไร จะสามารถ ผ่านเราไปได้ นั้นคือคำพูดของ Smalling
Defender ดาวรุ่ง หลังจากจบ เกมส์ที่ แมนยู เปิดโรงละคร ถล่ม เบอมิงแฮม
เค้าได้พูดถึง การผสานงานในแดนหลัง ที่ได้ คู่กับ เซนเตอร์รุ่นพี่อย่าง วิดิช
ซึ่งก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในแดนหลังของ ทีมแมนยู ในตอนนี้
ผลงานในตอนนี้ บ่งบอกได้อย่างชัดเจน
ฤดูกาลแข่งไปแล้ว 22 นัด เสียไปแค่ 19 ประตู
ไม่เสียประตู ถึง 10 เกม
ยิ่งในโรงละคร สถิติข่มคู่ต่อสู้ได้เสมอๆ หลังจากเล่นในบ้านไป
12เกม เสียไปแค่ 7 ประตู และไม่เสียประตูไปถึง 7เกม
แสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพในแดนหลัง ..อย่างเห็นได้ชัด
มีคนเคยบอกไว้ว่า ฤดูกาลนี้ แมนยู จะเป็นแชมป์ได้ อันดับแรก ก็คือ ไปขอบคุณ กองหลังของพวกเขาซะ
หลายๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนยู ไม่ได้เด่นในเรื่องการทำประตูสักเท่าไหร่
ตั้งแต่ ยุคของ นิสเตอรอย จากไป .. กองหลังของแมนยู เริ่มเด่นมากขึ้นในเรืื่องการป้องกัน ..
จะเห็นได้ว่า 4-5 ปีหลัง การเสียประตูของแมนยู เริ่มลดน้อยลง
การเสริมทีมในแดนหลัง อาจจะไม่มีสักเท่าไหร่ ตั้งแต่ ได้ Smalling มาก็ไม่ได้ใครมาเสริมอีกเลยในแดนหลัง
ริโอ เฟอดินาน ที่ฤดูกาลนี้ ได้ลงเล่นน้อยลง เพราะอาการบาดเจ็บ แต่นัดไหนที่เขาได้ลงเล่น .. ก็ยังสามารถไว้ใจได้เสมอๆ
กัปตันทีม เนมานย่า วิดิช .. เป็นอีก หนึ่ง ปี ที่ โดดเด่นมาก ทั้งเรื่องการป้องกันในแดนหลัง
ทั้งด้าน การขึ้นไปโหม่งทำประตู และ อีกหนึ่งบทบาทที่เด่นขึ้นมาก็คือ สภาวะการเป็นผู้นำ
และอาจจะเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ ปีนี้ เขาเล่นได้นิ่งมาก ไม่เหมือนกับ 2-3 ฤดูกาลก่อนๆ ที่เตะทิ้ง สะเปะสะปะ
คริส สมอลิ่ง น้องเล็กที่ย้ายจาก ฟูแล่มมาร่วมทีมในต้นฤดูกาล หลายๆคนกังวลว่า จะสามารถปรับสภาพเข้ากับทีมได้รึเปล่า
แต่เขาก็แสดงให้เห็นในหลายๆเกมส์แล้วว่า เขา มีดีพอที่จะ เป็นหนึ่งในแผงกองหลัง ที่ดีที่สุด ของแมนยูในอนาคต
จอร์นนี่ อิแวน กองหลังดาวรุ่ง ที่ฟอร์มปีนี้ได้ออกทะเลไปไกลเหลือเกิน จนบางคนคิดว่าควรจะออกไปหาปลากับทีมได้แล้ว
แต่ด้วยเส้นทางอนาคตที่ยังอีกยาวไกลทำให้ ตอนนี้ก็จับปลากัน ข้างสนามทีมสำรองก่อนแล้วกัน
2 พี่น้อง Fabio & rafael แบ็คซ้าย และ ขวา ดาวรุ่งมาแรง ได้เข้ามาสู่โรงละครแห่งนี้ ตั้งแต่อายุ 16-17ขวบ และได้พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว
และ หลายๆคน ได้มองว่า ราฟาเอล จะเป็นตัวตาย ตัวแทนของ เฮียเนฟ ได้อย่างแน่นอน
ส่วน ฟาบิโอ แม้ว่า ฤดูกาลนี้ จะได้ลงเล่นมากขึ้น แต่ด้วยฟอร์มของ พี่ติ๊กยังคงสม่ำเสมอ
และไม่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ยังคงเป็นสำรองอยู่ แต่ในอาคตเราจะได้เห็น 2 พี่น้อง คนนี้ เล่นด้วยกันอย่างแน่นอน
ประสบการ์ณของผู้เล่น อย่าง ริโอ และ วิดิช จะช่วยสั่งสอนให้ รุ่นน้องๆ ได้เติบโต และ เป็นผู้เล่นที่มีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอนครับ ..
################################################################################
credit : siamsport.co.th
และ Kubass By Soccersuck
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
