ย้อนรอยตำนาน เพชรฆาตหน้าทารก

เมื่อช่วงซัมเมอร์ก่อนออกสตาร์ทฤดูกาลปี 1996/97 ของศึกพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ หรือเมื่อกว่า 14 ปี ที่แล้ว อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งยังไม่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นอัศวินได้สร้างความแปลกใจด้วยการคว้าตัวกองหน้าที่มีนามว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มาสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 1.5 ล้านปอนด์ จากสโมสร โมลด์ เอฟเค ในลีกนอร์เวย์ โดยผมเองก็ต้องยอมรับเลยว่าช่วงนั้นเพิ่งหัดดูบอลมาไม่กี่ปี ยังแอบสงสัยเลยว่า มันเป็นใคร?



ด้วยเหตุที่แฟนฟุตบอลในสมัยนั้น รวมถึงสมัยนี้ (ยกเว้นผู้เชี่ยวชาญด้านการ กาบอล) คงไม่มีใครติดตามสนใจศึกลูกหลัง ทิปเปลิกาเอน แห่งประเทศทางตอนเหนือของทวีปยุโรปแน่ ทำให้อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่า หัวหอกวัย 23 ปี ในขณะนั้น มีดีอะไรถึงได้ย้ายมาสู่ชายคา ปีศาจแดง ได้อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด แต่ด้วยสถิติการซัดประตู 146 ตุง จาก 151 เกม ร่วมกับ 2 สโมสรในบ้านเกิดของนักเตะ ทำให้แอบดีใจไม่น้อยว่าดาวยิงผู้ซึ่งได้รับการสถาปนาฉายาในเวลาต่อมาว่า เพชรฆาตหน้าทารก คงต้องมีดีสักอย่างแน่!!
 

ตามความคาดหมายของสื่อในขณะนั้นคิดว่า เฟอร์กี้ คงจัด โซลชา ไว้ในฐานะกำลังสำรองของ เอริค คันโตน่า ยอดดาวยิงชาวฝรั่งเศส และ แอนดี้ โคล กองหน้าประเภท (ยิง 10 เข้า 1 แต่ก็ยังรักนะ!!) แต่เขาก็พิสูจน์ตัวเองให้เห็นถึงการเป็น ซุปเปอร์ซับ ด้วยการซัดไปถึง 18 ประตู ในศึกพรีเมียร์ลีก เพียงแค่ฤดูกาลแรกที่ย้ายมาค้าแข้งยังดินแดนผู้ดี ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอล เร้ด อาร์มี่ ไปอย่างรวดเร็ว
 

ส่วนผลงานของ ดาวยิงหน้าละอ่อนอมตะ ในฐานะตัวสำรองที่แสดงยังติดตาตรึงใจจนถึงทุกวันนี้คงหนีไม่พ้นประตูชัยในเกมนัดชิงชนะเลิศ ศึก ยูฟ่า แชมปเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 1998/99 ที่พลพรรค ปีศาจแดง โกงลิขิตฟ้าด้วยปลายหัวเกือกของ โซลชา ที่ส่งบอลพุ่งเสียบเพดานตาข่าย บาเยิร์น มิวนิค ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บแบบที่ไม่ต้องให้คู่แข่งแก้ตัว พร้อมกับกระชากถ้วย บิ๊กเอียร์ส มาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์
 

นอกจากนี้ โซลชา น่าจะเป็นนักเตะประเภทตัวสำรองเพียงรายเดียวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้รับการแต่งเพลงเชียร์ให้เป็นการส่วนตัวจากบรรดากองเชียร์ของทีม เช่นเพลง You Are My Solskjaer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการได้รับการยอมรับให้เป็นผู้เล่นในระดับตำนานคนหนึ่งของทีม จากความทุ่มเทในการลงมาล่าตาข่ายให้กับต้นสังกัดโดยไม่ปริปากบ่นสักคำแม้ว่าจะต้องออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรองมาโดยตลอดก็ตาม
 

ถ้ายังจำกันได้ โซลชา ยังมีส่วนสำคัญในการนำถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกลีก มาสู่สโมสรในซีซั่น 1998/99 ที่คว้า ทริปเปิ้ล แชมป์มาครอง โดยเฉพาะเกมช่วงท้ายฤดูกาลที่เปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 ซึ่ง ปีศาจแดง ต้องการผลเสมอเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ แต่ในช่วงทดเจ็บ ทีมเยือนโดย โรเบิร์ต ลี ได้โอกาสหลุดเดี่ยวจากแดนตัวเองไปดวลตัวต่อตัวกับ ไรมอนด์ ฟาน เดอร์ ฮาว แต่เป็น โซลชา นี่เองที่วิ่งไล่กวดจากแดนหน้าของฝั่งตัวเองมาจนทันมิดฟิลด์ทีมชาติ ก่อนจะตัดสินใจเกี่ยวขาคู่แข่งล้มลงตรงหน้าเขตโทษและกับการโดนใบแดงครั้งแรกและครั้งเดียวของเขาตลอดอาชีพค้าแข้ง เพื่อไม่ให้ต้นสังกัต้องพ่ายแพ้ในเกมดังกล่าว
 

จนกระทั้งฤดูกาล 2003/04 ด้วยวัยที่เริ่มโรยราทำให้ โซลชา ต้องประสบกับอาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เข่า ซึ่งส่งผลให้เจ้าตัวต้องหายหน้าหายตาไปจากทีมเป็นส่วนใหญ่ และใช้เวลาต่อสู้กับอาการเดี้ยงดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 5 ปี และในที่สุด เขาก็ตัดสินใจปิดฉากตำนานค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์  ยูไนเต็ด ไปในปี 2008 พร้อมกับผันตัวเองมาเปิดตำนานบทใหม่ด้วยการรับงานโค้ชทีมสำรองจากการสนับสนุนของกุนซือชาวสก็อตต์ พร้อมกับสร้างผลงานด้วยการนำทีมลูกกรอกแห่งสถาบันอสูรแดง คว้าแชมป์ แลงคาเชียร์ ซีเนียร์ คัพ โดยเอาชนะชนะทัพลูกกรอกของทีมที่มีสัญลักษณ์คล้าย(เป็ด?) ในนัดชิงชนะเลิศ
 

หลังจากที่เคยปัดข้อเสนองานในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติ  นอร์เวย์  มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเหตุผลที่ว่ามันยังเป็นงานใหญ่เกินไปสำหรับกุนซือผู้ด้อยประสบการณ์อย่างเขา ในที่สุด โซลชา ก็ได้ตัดสินใจที่จะก้าวหน้าไปอีกขั้นด้วยการตกปากรับคำที่จะย้ายกลับไปกุมบังเหียนของ โมลด์ ซึ่งเป็นสังกัดเก่าที่เจ้าตัวเคยร่วมค้าแข้งด้วย โดยมีกำหนดการเริ่มงานในเดือน ม.ค. ปี 2011 เป็นต้นไป พร้อมกับหยอดคำหวานส่งท้ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่า สักวันหนึ่งเขาต้องการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ของลัทธิผีแดงให้จงได้
 

ดังนั้น ต้องคอยติดตามกันต่อไปว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จะเก็บเลเวลในฐานะกุนซือได้มากน้อยเพียงใด และจะเพียงพอที่จะเข้ามารับตำแหน่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมที่นับว่ามีความกดดันมากมากที่สุดในโลกได้หรือไม่ในอนาคต แต่อย่างน้อยเขาคู่ควรที่ได้เป็นตำนานนักเตะคนหนึ่งของ ปีศาจแดง ได้อย่างภาคภูมิ ไม่เหมือนดาวยิงบางคนในทีมที่ทำกากเกรียนจนอยากเห็นมันย้ายขุดทองกับทีมบ้านใกล้เรือนเคียงสักที...


เกรียนผี


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์