ยูโรป้าจ๊ะ!ผีจมหลุมบุกพ่ายบาเซิ่ลระทึก 2-1 ร่วง CL


แชมป์เปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี 

วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2554 

สนาม : จาค็อป ปาร์ค 

บาเซิ่ล 2 : 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

ประตู : 
1-0 สเตรลแลร์ น.9, 2-0 ฟราย น.84, 2-1 โจนส์ น.89 

ครึ่งแรก 

ผีช็อก!โดนโยกไปมาตามหลังเลย 
เริ่มเกมมาได้แค่ 9 นาที แมนฯยูไนเต็ดทีมเยือนที่วันนี้ต้องการแค่ผลเสมอ ก็มาโดนทำประตูนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่บาเซิ่ลขึ้นบอลทางด้านขวา โยนเข้ากรอบเขตโทษจนทะลุไปทางซ้าย ชากิรี่เลยจัดการเปิดแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปติดเซฟของเด เกอาที่ปัดออกไป แต่ดันไปเข้าทางของสเตรลแลร์ที่จัดการวอลเล่ย์จังหวะเดียว ผ่านบล็อกของกองหลังเข้าไปตุงตาข่าย บาเซิ่ลนำไปแล้ว 1-0 

ผีก่ะทวงประตูคืน 
เกมผ่าน 20 กว่านาทีแรกไป ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดที่โดนทำประตูนำออกไปก่อน อยู่เฉยไม่ได้ พยายามที่จะทำเกมเพือทวงประตูตีเสมอขึ้นมาให้ได้ เพียงแต่ดูแล้วโอกาสของพวกเขาถือว่าน้อยพอดูเลย เพราะยังหาจังหวะยิงจังๆไม่ได้เลยนั่นเอง 

รูนี่ย์กับพี่หนุ่มยิงไปติดอีก 
นาทีที่ 34 หลังจากเกมที่แมนฯยูไนเต็ดพยายามจะทวงประตูตีเสมอคืนเอาได้นั้น ก็มาได้ลุ้นจากสองจังหวะของยังและรูนี่ย์ แต่ก็ยังไม่สามารถบวกสกอร์ขึ้นมาให้เท่ากันได้แต่อย่างใด 

เจ้าบ้านพยายามเล่นเอาชัวร์ 
ด้วยการที่สกอร์นำอยู่ในครึ่งแรก ทางเจ้าบ้านบาเซิ่ลก็เลยเน้นไปที่การถ่ายบอลเพื่อความแน่นอนและถ้าหากเป็นจังหวะเสี่ยงก็จะไปลุยขึ้นไป งานของแมนฯยูไนเต็ดก็เลยยากขึ้นเป็นสองเท่าในตอนนี้ 

ผีเซ็งกว่าเดิม!พี่วีเจ็บอย่างแรง 
นาทีที่ 42 นอกจากสกอร์ตามไม่พอ ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดก็ต้องมาเสียกัปตันทีมอย่างวิดิช ที่ไปเจ็บในจังหวะงัดกับผู้เล่นของบาเซิ่ล แล้วไปลื่น โดนทับขาลงพื้นผิดธรรมชาติ จนเจ้าตัวออกอาการโอดโอยทนไม่ไหว แมนฯยูไนเต็ดจึงต้องเปลี่ยนอีแวนส์ลงไปเล่นแทนแบบเสียไม่ได้ 

จบ 45 นาทีแรก ด้วยความผิดหวังของแฟนทีมเยือน เมื่อบาเซิ่ลนำแมนฯยูไนเต็ดอยู่ 1-0 ต้องดูว่าเฟอร์กูสันจะปลุกใจลูกทีมขึ้นมาได้มากแค่ไหนในช่วงครึ่งหลัง 

[bครึ่งหลัง 

เสียวมาก!หมูยิงปั่นหลุดนิดเดียว 
นาทีที่ 49 แมนฯยูไนเต็ดน่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ ในจังหวะที่รูนี่ย์วิ่งหลุดทะลุกับดักล้ำหน้า ก่อนที่จะเข้าไปเอี้ยวตัวยิงปั่นไซด์บริเวณกรอบเขตโทษ แม้ว่าบอลจะพุ่งผ่านผู้รักษาประตูที่ได้แต่มองไปแล้ว แต่เหมือนบอลจะไซด์ไม่พอ ก็เลยหลุดกรอบออกไปแบบน่าเสียดาย 

เกือบไปแล้ว!ฟรายปั่นอย่างสวยแต่ติดเซฟ 
นาทีที่ 54 เกือบไปแล้วจริงๆสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อไปเสียฟรีคิกจากระยะน่ารักน่าลุ้น เลยโดนฟรายจัดการปั่นไซด์ บอลพุ่งข้ามกำแพงเฉียบขาด กำลังจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ต้องชมเด เกอาที่บินไปปัดทิ้งออกหลังไปได้แบบเฉียดฉิว ไม่งั้นแล้วงานงอกแน่นอน 

บาเซิ่ลสกัดเกือบเข้าประตูตัวเอง 
นาทีที่ 61 บาเซิ่ลเฮงจริงๆสำหรับจังหวะนี้ ที่โดนแมนฯยูไนเต็ดบุกกดดันหนัก แล้วโยนบอลมาจากริมเส้นฝั่งขวา รูนี่ย์พยายามที่จะเทคตัวขึ้นโหม่ง แต่ไม่ถึง สไตน์โฮเฟอร์ก็เลยเสียจังหวะ พยายามที่จะสกัดบอลให้ออกหลัง แต่ผิดเหลี่ยม เหมือนกองหน้ายิงประตู ยังดีที่บอลพุ่งไปชนคานเข้าอย่างจัง ไม่งั้นแล้วลูกนี้สวยใช้ได้เลย 

ผีเปลี่ยนโก๋แดนลงแทนพี่หนุ่ม 
อีก 3 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดต้องปรับทัพด้วยการส่งเวลเบ็คลงไปเล่นแทนยัง เพราะว่าตอนนี้ต้องการประตูทวงคืนกลับมาให้ได้ ไม่งั้นก็รอตกรอบอย่างเดียวเลย 

ผีได้บุกแต่ไม่สุดสักที 
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะได้ทำเกมบุกก็ตาม แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเจาะเข้าไปลุ้นประตูจังๆได้สักทีเลย ยิ่งเวลาหมดลงไปเท่าไหร่ ความลนลานก็มากขึ้นไปอีก ดีไม่ดีอาจจะโดนบาเซิ่ลสวนจังๆก็เป็นได้ 

ผีหลังชนฝาส่งกิโก้ลง 
นาทีที่ 84 แมนฯยูไนเต็ดไม่มีทางเลือกแล้ว จึงต้องส่งศูนย์หน้าอีกคนอย่างมาเคด้าลงไปเล่นแทนปาร์ค เพื่อที่เพิ่มโอกาสทำประตูในแดนหน้า เพราะแมนฯยูไนเต็ดต้องการแค่ประตูตีเสมอ ประตีเดียวเท่านั้น 

จบข่าว!บาเซิ่ลใส่ประตูปิดกล่อง 
อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็ฝันสลายล้มมลายลงไปแบบเต็มๆ เมื่อกองหลังยืนตำแหน่งกันพลาด โดนบาเซิ่ลทำประตูปิดกล่อง ในจังหวะที่ชากิรี่ได้โยนบอลจากริมเส้น ผ่านเสาแรกไปก่อน สมอลลิ่งไปยึกจังหวะ เพราะว่าบอลตกพื้น ก็เลยเสร็จฟรายก็สอดเข้าไปโหม่งแบบเต็มๆผ่านมือเด เกอาเข้าไป เจ้าบ้านนำห่าง 2-0 ความหวังในการเข้ารอบสดใสอย่างยิ่ง 

ไม่จบซะงั้น!ผีตีไข่แตกเฉย 
จากลูกขลุกขลิกหน้าประตู แมนฯยูไนเต็ดก็มาได้ประตูตีไข่แตกเพิ่มความหวังขึ้นมาหน้าตาเฉย เมื่อบอลไปชุลมุนหน้าประตู แต่เป็นโจนส์ที่โหม่งซ้ำผ่านของผู้รักษาประตูที่แม้จะปัด แต่บอลก็ข้ามเส้นเข้าไปแล้ว ทำให้สกอร์กลายเป็น 2-1 แต่เวลาเหลือน้อยนิดจริงๆ 

ช่วงเวลาที่เหลือแฟนเจ้าบ้านกดดันพอดูเพราะพลาดพลั้งมาถึงกับตกรอบ แต่สุดท้ายก็สามารถเอาชนะแมนฯยูไนเต็ดไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ผ่านเข้ารอบไปได้ในที่สุด 

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 

บาเซิ่ล : 
แยนน์ ซอมเมอร์, อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช, ดาวิด อับราฮัม, ปาร์ค ชู โฮ, มาร์คัส เสตนโฮเฟอร์, กรานิต ชาก้า  (ชิปเปอร์ฟิลด์ น.83), คาบราล, ฟาเบียง ฟราย , เซอร์ดาน ชากิรี่(สต็อคเกอร์ น.90), มาร์โก้ สเตรลแลร์, อเล็กซานเดอร์ ฟราย (คูซุงกา น.88) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : มัสซิโม่ โคลอมบา, ราโดสลาฟ โควัช, แจ็คเกส ซูอา, กวาง ยอง ปัค 

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด:ดาวิด เด เกาอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมันย่า วิดิช(อีแวนส์ น.44), ปาทริซ เอฟร่า , คริส สมอลลิ่ง, ไรอัน กิ๊กส์, ฟีล โจนส์, นานี่, ปาร์ค จี ซุง(มาเคด้า น.82), เวย์น รูนี่ย์, แอชลี่ย์ ยัง  (เวลเบ็ค น.64) 

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์รอน กิ๊บสัน, อันเดอร์ส ลินเดการ์ด
[/u] 
 

 
 
   
 
 
 
 
 
 

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์