มันมาแล้ว!ผีต้อนเชลซี3-0ตามหงส์5แต้ม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแอบย่องมาเงียบๆหลังเปิดบ้านเอาชนะเชลซีแบบคลาสสิคเหนือชั้น 3-0 จากประตูของเนมันย่า วิดิช,เวย์น รูนีย์และดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟทำให้ไล่บี้จ่าฝูงลิเวอร์พูลเหลือ 5 แต้มแต่เตะน้อยกว่าสองนัดและจ่อขึ้นรองจ่าฝูงในไม่ช้านี้อีกด้วย

แมนฯยูฯ 3-0 เชลซี

สนาม :
โอลด์แทรฟฟอร์ด

ประตู : 1-0 วิดิช น.45+2,2-0 รูนีย์ น.63,3-0 เบอร์บาตอฟ น.87

เริ่มมาแค่ 52 วินาทีรูนีย์จับบอลไม่ดีถูกเชลซีตัดได้และต่อบอลสวนกันขึ้นมาตั้งแต่แดนตัวเองจนมาถึงเดโก้แตะให้โจ โคลตรงหน้าประตูและปีกหน้าหล่อแตะให้แลมพ์วิ่งมายิงแต่บอลบดเพราะมีผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้าเร็วบอลค่อยๆออกหลังแบบเศร้าหมอง

3 นาทีกว่าๆใบเหลืองแรกมาอย่างรวดเร็วเมื่อโรนัลโด้ติดเครื่องกระชากตรงกลางสนามแต่แลมพ์เข้าพรวดเจอหลอกเลยหวดใส่หน้าแข้งลงไปนอนดิ้นพล่าน ผู้ตัดสินฮาเวิร์ด เวบบ์ไม่มีรีรอควักให้ทันที

เชลซีเตรียมตัวมาดีมากเพราะจังหวะต่อบอลทำเกมรุกสวนขึ้นมาเล่นสั้นๆโคตรสวยคล้ายฟุตซอลเรียกว่าเกมนี้ท่าจะมันส์จริงๆ

ปิศาจแดงเหมือนยังจับจังหวะการเล่นของตัวเองไม่ได้จนต้องเป็นฝ่ายไล่วิ่งหาบอลและเริ่มทำฟาว์ลถี่มากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

ผ่านมา 16 นาทีตอนนี้ทีมเยือนครองเกมได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยใช้ความคล่องของผู้เล่นที่พลิ้วกว่าเป็นตัวขับเคลื่อนทำให้แนวรุกของเจ้าถิ่นหายไปจากเกมเรียบร้อยแล้ว

อีก 5 นาทีต่อมาโด้จิ๋วเปิดบอลไปถูกแขนของแอชลีย์ โคลบนเส้นกรอบโทษพอดีเวบบ์ให้เป็นฟรีคิกแต่ปีกจอมสับจะร้องเอาจุดโทษแต่สุดท้ายกิกส์มารับหน้าที่เองและลักไก่อัดเข้าไปหาปีเตอร์ เช็กที่พุ่งทุบทิ้งทัน

เกมเดือดจนลืมกำพืดกันแล้วเพราะนาที 28 คาร์วัลโญ่กับโรนัลโด้งัดกันในกรอบจังหวะฟรีคิกของกิกส์ทางซ้ายจนเกือบมีเรื่องกันก่อนที่เวบบ์จะแจกใบเหลืองทั้งคู่ ใบเหลืองนี้เชลซีเสียเปรียบตามตำแหน่งที่คาร์วัลโญ่ต้องมีการทำฟาว์ลในเกมนี้อีกหลายครั้ง

นาที 31 เจ้าถิ่นเกือบขึ้นนำหลังเอวร่าฝ่าโจ โคลขึ้นมาตรงกลางสนามก่อนลากมาถึงหน้ากรอบโทษแล้วปาดให้รูนีย์ซึ่งทำชิ่งเร็วให้เบอร์บาตอฟแตะหลอกคาร์วัลโญ่จนหัวทิ่มแต่จังหวะยิงด้วยอีซ้ายโดนไม่เต็มทำให้เช็กล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้

เกมช่วงนี้เข้าบอล 50-50 กันหนักมากเรียกว่าเสียงแฟนบอลร้องระงมช่วยปลุกบรรยากาศให้เผ็ดร้อนเข้าไปอีก

รูปเกมช่วงท้ายเกมเชลซีกลับมาเป็นฝ่ายครองเกมมากกว่าอีกครั้งโดยเฉพาะการต่อบอลสั้นๆเนียนดีเหลือเกินโดยแดนกลางของยูไนเต็ดเป็นรองชัดเจนและโรนัลโด้ก็หายไปจากเกมเต็มๆ

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 2 นาทีปิศาจแดงเกือบได้เฮหลังปาร์คโชว์ขยันวิ่งทำทางตรงหน้ากรอบโทษจนเบอร์บาตอฟแตะให้หลุดเข้าไปหมุนตัวยิงตรงกรอบโทษ 6 หลาด้านข้างแต่เจทีไม่รู้มาจากไหนสไลด์บล็อกออกหลังเหลือเชื่อ

ช่วงทดเจ็บมีลูกปัญหากันแล้วเมื่อยูไนเต็ดได้เตะมุมแต่บอลยังไม่อยู่ในวงกิกส์รีบเล่นเตะให้โรนัลโด้โฉบโขกที่เสาแรกตุงตาข่ายไม่มีเหลือแต่กรรมการให้เตะใหม่และคราวนี้เจ้าถิ่นมาได้ประตูจริงๆหลังเบอร์บาตอฟโหนโหม่งบอลบอลแฉลบย้อยไปเสาสองเป็นวิดิชโถมพุ่งโขกบอลตกพื้นเช็กพยายามพุ่งปัดควักออกมาแต่ระยะมันใกล้ไปบอลพุ่งเข้าหน้าต่างสุดสวย หมดครึ่งแรกยูไนเต็ดนำ 1-0 แม้เป็นเชลซีที่เล่นดีกว่าก็ตาม จากการวิเคราะห์ของเดอะตุ๊กบอกรูนีย์แอบเล่นแตะบอลเล่นสั้นจนกรรมการมองไม่ทันมากกว่าแต่เมื่อลูกสองเข้าแล้วจึงถือว่ารอดตัวไป

ครึ่งหลังหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ไม่รอช้าเปลี่ยนเอานิโกลาส์ อเนลก้าแทนเดโก้เพื่อปรับมาใช้หน้าคู่แต่รูปเกมเป็นเจ้าถิ่นที่เหมือนจะดูดีขึ้นกว่าเดิมโดยเฉพาะโรนัลโด้โยกมาเล่นปีกซ้ายมีบทบาทกับเกมมากขึ้นเรื่อยๆนาที 54 ได้เปิดตรงปีกซ้ายบัลลัคจะโหม่งตรงเสาแรกแต่เปลี่ยนใจปล่อยให้บอลเลยผ่านหน้าประตูตัวเองสุดเสียวยังดีไม่มีผู้เล่นปิศาจแดง

แต่แล้วนาที 63 ยูไนเต็ดมาขึ้นนำ 2-0 ง่ายๆและต้องชมโรนัลโด้ที่ได้บอลตรงปีกซ้ายและยืนนิ่งจังก้ากับโบซิงวาก่อนทำท่าจะโยนแต่หลอกไขว้ให้เอวร่าวิ่งอ้อมครอสบอลจังหวะเดียวเป็นเบอร์บาตอฟที่โขกเสาแรกไม่ถึงแต่กลายเป็นดีมาตกที่เท้าเวย์น รูนีย์วิ่งมายิงเผาขนแยงจากด้านหลังแอชลีย์ โคลเข้าไปไม่มีเหลือ

พอนำสบายๆแข้งยูไนเต็ดคึกคักเริ่มมีส่วนร่วมและออกลีลากันมากขึ้นกว่าเดิมและบิ๊กฟิลก็เปลี่ยนเอาเบลเล็ตติมาแทนโบซิงวาไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไรเพราะก็เล่นดีใช้ได้ก่อนมาเสียท่าโรนัลโด้จังหวะ 2-0 เท่านั้นเอง

ยูไนเต็ดไม่เพลาการขึ้นเกมหมายจะยิงให้ขาดๆและก่อนหมดเวลา 2 นาทีโด้จิ๋วซัดฟรีคิกบอลไปแฉลบหลังแลมพาร์ดย้อยกำลังจะเสียบใต้คานแต่เช็กไม่ประมาทกระโดดปัดทิ้งทันเอาขัวร์ไว้ก่อน

จากนั้นไม่นานเชลซีพลาดกันเองแอชลีย์โคลเปิดบอลขวางข้ามาให้คาร์วัลโญ่ที่จับไม่ดีปลิ้นมาเข้าทางโรนัลโด้ที่อัดสวนเปรี้ยงเดียวบอลถากเสาออกไปแบบน่าเข้าสุดๆ

เชลซีหมดสภาพจริงๆนาที 87 มาเจอเม็ดสามจนได้จากจังหวะที่โด้จิ๋วเจอเบลเล็ตติหวดกลิ้งตรงกรอบโทษฝั่งซ้ายและเป็นปีกจอมสับรับหน้าที่เตะเองก่อนวิ่งอัดเต็มข้อเข้ามาที่เสาแรกและเบอร์บาตอฟซึ่งวิ่งมาแปยัดเข้าประตูอย่างง่ายดาย เรียกว่าจอห์น เทอร์รี่ก็ไม่ตามและต้องชมเบอร์บาว่าวางเท้าซัดตามน้ำได้สุดยอดมากเนื่องจากลูกที่โด้จิ๋วเตะมาแรงระดับ 125 แรงม้าถีบเลยทีเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีเล่นลนลานเกมรุกขาดๆเกินๆทำให้ต้องพ่ายแพ้นอกบ้านเป็นนัดแรกและ 6 นัดหลังสุดชนะแค่นัดเดียวส่วนปิศาจแดงชนะ 5 จาก 6 นัดหลังแซงแอสตัน วิลล่ากลับขึ้นมาอยู่อันดับ 3 และตามลิเวอร์พูลเหลือ 5 แต้มแต่เตะน้อยกว่าถึง 2 นัดเลยทีเดียวโดยโปรแกรมนัดตกค้างจะพบกับวีแกนในบ้านตัวเองวันพุธที่ 14 มค.นี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนฯยูฯ :
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์,แกรี่ เนวิลล์,เนมันย่า วิดิช,โจนาธาน อีแวนส์,ปาทริซ เอวร่า(โอเช น.66),คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ,ดาร์เรน เฟลทเชอร์,ไรอัน กิกส์(คาร์ริค น.79),ปาร์ค จี ซอง ,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ,เวย์น รูนีย์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา (เบลเล็ตติ น.64 ),ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ,จอห์น เทอร์รี่ ,แอชลีย์ โคล,จอห์น โอบี มิเกล,โจ โคล(ดิซานโต้ น.85),แฟร็งค์ แลมพาร์ด ,มิชาเอล บัลลัค,เดโก้(อเนลก้า น.46),ดิดิเยร์ ดร็อกบา





































 
 
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวกีฬาดี ๆ จาก : Soccuck.com จากใจจริงครับ..

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์