ภาพยนตร์เรื่องเยี่ยมของวงการลูกหนัง

หลังเคยนำเสนอภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับกีฬาอื่น ที่ไม่ใช่เกมลูกหนังไปแล้ว ครั้งนี้ขอเสนอหนังที่เกี่ยวกับฟุตบอลล้วนๆบ้าง เพื่อให้ได้เห็นว่ามันเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกแค่ไหน แม้ส่วนใหญ่กลับมักไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ก็ตาม

ในจำนวนนี้มีภาพยนตร์สัญชาติเยอรมันที่เน้นเรื่องราวความสำเร็จของทีม อินทรีเหล็ก ช่วงศึกฟุตบอลโลก 1954 กับ 2006 รวมถึงสารคดีของ ซีเนอดีน ซีดาน และงานที่เอาใจตลาดอย่าง โกล์! ซึ่งนี่คือข้อมูลเล็กน้อยของเรื่องทั้งหมด

เดอะ มิราเคิ่ล อ็อฟ เบิร์น (The Miracle of Bern)

เดอะ มิราเคิ่ล อ็อฟ เบิร์น คือภาพยนตร์ปี 2003 กำกับ และเขียนบทโดย ซอนเก้ โวร์ตมันน์ ผู้กำกับชาวเยอรมัน (เคยค้าแข้งเป็นนักเตะอาชีพอยู่ 3 ปี) เป็นเรื่องราวของชาวเมืองเบียร์ครอบครัวหนึ่ง ที่ตามไปเชียร์ เฮลมุท ราห์น กัปตันทีม อินทรีเหล็ก ผู้มาจากเมืองเอสเซ่นเหมือนกัน และช่วยสร้างปาฎิหารย์ให้บ้านเกิดซึ่งอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศหลังแพ้สงคราม คว้าแชมป์โลกครั้งแรกในปี 1954 ที่เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวหนังได้รางวัล ด็อยท์เชอร์ ฟิล์มไพรส์ เกียรติยศสูงสุดของวงการแผ่นฟิล์มเยอรมัน

เยอรมนี อะ ซัมเมอร์ส เทล (Germany. A summer's tale)

3 ปีต่อมา หลังฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมันจบลง ซอนเก้ โวร์ทมันน์ ได้กำกับหนังเรื่องนี้ หรือชื่อในภาษาด็อยท์ชคือ Deutschland. Ein Sommermarchen แต่เป็นสารคดี ที่นำเสนอช่วงเวลาทำศึกรายการดังกล่าวของพลพรรค อินทรีเหล็ก ตั้งแต่เข้าฝึกซ้อมในแค้มป์ที่ซาร์ดิเนีย จนถึงวันคว้าอันดับ 3 หลังเหตุการณ์จริงเกิดขึ้น 3 เดือนหนังก็ออกฉายเมื่อ 3 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันชาติเยอรมัน เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ของโวร์ทมันน์ที่ประสบความสำเร็จ แม้กระทั่งตอน สถานีโทรทัศน์ช่อง อาแอร์เด ของเมืองเบียร์ นำไปออกอากาศ ก็มีผู้ชมมากกว่า 10 ล้านคน

กรีน สตรีท (Green Street)

แม้มันจะกำกับโดย เลซี่ อเล็กซานเดอร์ ผู้กำกับหญิงชาวเยอรมันก็ตาม แต่เธอกลับสื่อความดิบเถื่อนของแก๊งค์ฮูลิแกนอังกฤษได้อย่างเหลือเชื่อ มันเป็นเรื่องราวแฟนบอลฮาร์ดคอร์ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ต้องการให้สโมสรกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่สุดท้ายต้องจบลงด้วยการสูญเสีย นำแสดงโดย เอไลจาห์ วู้ด ดาราชาวอเมริกัน หลังออกฉายเมื่อปี 2004 ก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ในอังกฤษอย่างมาก บางรายถึงกับเปรียบเทียบให้ผลงานแนวเดียวกันช่วงก่อนหน้านี้ กลายเป็นหนังเด็กเล่นไปเลย ก่อนจะมีการสร้างภาคต่อ ลงเป็นดีวีดี 5 ปีถัดจากนั้น

เดอะ แดมน์ ยูไนเต็ด (The Damned United)

ทอม ฮูเปอร์ ผู้กำกับชาวอังกฤษ จับเอาหนังสืออื้อฉาว The Damned Utd, มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นำเสนอความสัมพันธ์อันร้าวฉานของ ไบรอัน คลัฟ อดีตยอดกุนซือเมืองผู้ดี ตอนกำลังรุ่งหลังช่วย ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ประสบความสำเร็จ แต่ถูก ดอน เรวี่ โค้ชมือทองของ ลีดส์ ยูไนเต็ด คอยเหน็บแนม เพราะเข้ามาคุม ยูงทอง ต่อจากเขา ซึ่งต้องออกไปคุมทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 1974 ก่อนประสบความล้มเหลว หนังเรื่องนี้ออกฉายในปี 2009 ประสบความสำเร็จด้านคำวิจารณ์เป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ถึงกับยกให้เป็นหนังฟุตบอลที่ดีสุดในรอบทศวรรษ

ซีดาน: อะ ทเวนตี้เฟิร์สท์ เซ็นจูรี่ พอร์เทรต (Zidane: A 21st Century Portrait)

ภาพยนตร์สารคดีซึ่งออกฉายตั้งแต่ปี 2006 กำกับโดย ดั๊กลาส กอร์ดอน และ ฟิลิปป์ ปาร์เรโน่ ตลอดทั้งเรื่อง เป็นการทำศึกลา ลีกา สเปน ให้กับ เรอัล มาดริด ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2005 ของ ซีเนอดีน ซีดาน หนึ่งในนักเตะเก่งที่สุดของโลกชาวฝรั่งเศส โดย บียาร์เรอัล มาเยือน และมีกล้องในเกมดังกล่าวถึง 17 ตัว ทำให้จับภาพช่วงท้ายเกมขณะเจ้าตัวถูกไล่ออกจากสนามได้ด้วย โดยมีนักวิจารณ์บางราย เปรียบเทียบว่าเหมือนสารคดีเรื่อง ฟุตบอล แอส เนเวอร์ บีฟอร์ เมื่อปี 1970 ที่นำเสนอเรื่อง จอร์จ เบสต์ ตำนานอีกคนของวงการ

โกล์ (Goal!)

ภาพยนตร์ปี 2005 กำกับโดย แดนนี่ แคนน่อน ชาวอังกฤษ เรื่องราวของหนุ่มเม็กซิกันจากลอสแอนเจลีส, สหรัฐอเมริกา ที่จับผลัดจับผลูมาทดสอบฝีเท้ากับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในเมืองผู้ดี แม้เป็นที่ฮือฮาอย่างมากตั้งแต่ก่อนการสร้าง แต่เมื่อเข้าฉาย กลับล้มเหลวทั้งเรื่องรายได้ และคำวิจารณ์ เรื่องราวอีก 2 ภาคต่อมา (ภาค 3 ออกเฉพาะดีวีดี) ก็นำเสนอเหตุการณ์ต่อเนื่องจากนั้น ไล่ตั้งแต่การเล่นให้ยอดทีมอย่าง เรอัล มาดริด และเตะฟุตบอลโลกกับทีมชาติเม็กซิโก จนเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กทั่วโลกที่ใฝ่ฝันจะเป็นเหมือนตัวเอกของเรื่อง